เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในบ้านเรา กำลังเดือดร้อนจากการตัดสินใจของกรมประมง กระทรวงเกษตรฯ
เมื่อปล่อยให้มีการนำเข้ากุ้งจากเอกวาดอร์และอินเดีย ทั้งๆที่ ประเทศไทยเองก็เป็นประเทศส่งออกกุ้ง!!!
1. ในปี 2564 ผลผลิตกุ้งขาวแวนนาไมในประเทศ 280,000 ตัน
ทั้งหมดส่งออกราว 80%
คาดการณ์ว่าปี 2565 ผลผลิตจะเพิ่มเป็น 300,000 ตัน
ที่เพิ่มขึ้นไม่มาก เพราะปัญหาโรคระบาดกุ้ง เป็นปัจจัยสำคัญ
ก่อนหน้านี้ กรมประมงประกาศเป้าหมายเพิ่มผลผลิตกุ้งไทยให้ได้ 4 แสนตันในปี 2566
หากจริงใจกับการเพิ่มผลผลิต มาตรการหรือทิศทางที่จะต้องทำ คือ แก้ไขปัญหาโรคระบาดได้เบ็ดเสร็จ, มีรูปแบบแนวทางการเลี้ยงที่เหมาะสมกับเกษตรกรทุกกลุ่ม, ส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าถึงสินเชื่อจากแหล่งเงินทุน โดยภาครัฐและสถาบันการเงินสนับสนุนดอกเบี้ยพิเศษ,เพื่อเสริมสภาพคล่อง ปรับโครงสร้างฟาร์ม และโมเดลการเลี้ยงที่ตอบโจทย์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน, สร้างช่องทางการขายและความได้เปรียบในการแข่งขัน รวมถึงการเจรจา FTA, สร้างระบบมาตรฐานการผลิตตลอดห่วงโซ่อุตสาหกรรม นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ฯลฯ
แต่ปรากฏว่า มีเพียงประกาศเป้าหมายใหญ่โต โดยไม่มีมาตรการใดออกมาสนับสนุนอย่างชัดเจน
2. ในทางตรงกันข้าม กรมประมงกลับดำเนินการสวนทาง โดยประกาศนำเข้ากุ้งจากเอกวาดอร์และอินเดียนับหมื่นตัน
แม้จะเป็นการนำเข้าภายใต้หลักการ “คลังสินค้าทัณฑ์บน” หรือเป็นการนำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิตและส่งออก 100% ซึ่งดูเผินๆ อาจเหมือนการป้องกันไม่ให้กุ้งเหล่านั้นเล็ดลอดเข้ามาปะปนกับกุ้งในประเทศ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็กำลังทำให้ภาพลักษณ์กุ้งไทยเสียหาย เนื่องจากที่ผ่านมา กุ้งสดและกุ้งแปรรูปของไทยใช้วัตถุดิบ Local content เกือบ 100% มีความปลอดภัยสูง ปราศจากสารตกค้าง และตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงต้นทาง ที่ประเทศคู่ค้าเชื่อมั่นมาตลอด การประกาศว่ามีการใช้กุ้งต่างชาติเป็นวัตถุดิบแทน ย่อมขัดกับภาพลักษณ์อาหารปลอดภัยของประเทศไทยโดยสิ้นเชิง
ประการสำคัญ ปัจจุบัน วัตถุดิบกุ้งในไทยเอง “ไม่ได้ขาดแคลน” ถึงขนาดจำเป็นต้องอาศัยกุ้งนอก เพียงแต่ช่วงนี้มีราคาสูงขึ้นจากปริมาณที่น้อยกว่าความต้องการ รวมถึงการเปิดประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา จึงทำให้ราคากุ้งสูงขึ้นซึ่งเป็นไปตามปกติของกลไกตลาด
3. น่าคิดว่า การนำกุ้งจากต่างประเทศมาแปรรูปบรรจุใหม่ และนำไปส่งออกขายต่างประเทศในนามประเทศไทย อาจกระทบภาพลักษณ์กุ้งคุณภาพดีของไทยที่สร้างชื่อเสียงในระดับโลกมายาวนาน
จะเข้าสำนวนไทยว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย หรือไม่?
ในเมื่อประเทศไทยมีการพัฒนาการเลี้ยงกุ้ง รัฐก็ส่งเสริมการเลี้ยงกุ้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยง โดยเฉพาะด้านการผลิตที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน GAP (Good Aquaculture Practice) และมาตรฐานสากล รวมถึงการเจาะตลาดใหม่เพื่อเพิ่มช่องทางการส่งออก โดยที่ผ่านมากระทรวงเกษตรฯ ระงับการนำเข้ามาโดยตลอด ทำให้เกษตรกรมุ่งมั่นพัฒนาระบบการเลี้ยงเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต โดยมีราคาเป็นแรงจูงใจ พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
คาดว่า หากมีการนำเข้ากุ้ง ย่อมจะทำให้ราคาในประเทศตกต่ำ ทำให้เกษตรกรสูญเสียรายได้ ทำลายแรงจูงใจของเกษตรกรในการพัฒนาการผลิต เพิ่มความเสี่ยงของผลผลิตของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทั้งระยะสั้นและระยะยาว
4. เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในประเทศกว่า 4 หมื่นราย คงต้องขอพึ่งบารมีนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯที่จะทบทวนและเข้ามาดูแลเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ให้รอดพ้นผลกระทบในครั้งนี้
นายอักษร ขจรกาญจนกุล ประธานชมรมกุ้งตรังพัฒนา ระบุว่า เกษตรกรประหลาดใจกับการตัดสินใจของกรมประมงในครั้งนี้มากที่อนุมัตินำเข้ากุ้งจากเอกวาดอร์และอินเดียแบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งที่ผ่าน กรมฯ ปกป้องเกษตรกรมาตลอด เนื่องจากกุ้งที่นำเข้าจะทำให้ราคากุ้งในประเทศตกต่ำ ไม่มีเสถียรภาพ มีความเสี่ยงเรื่องโรคที่ติดมากับกุ้ง รวมถึงเกิดปัญหาคุณภาพความปลอดภัย การปนเปื้อนของสารเคมีต้องห้ามและยาปฏิชีวนะ จะสร้างความเสียหายกับผู้เลี้ยงและห่วงโซ่การผลิต
“เกษตรกรขอเรียกร้องให้รัฐบาลและกระทรวงเกษตรฯ ทบทวนนโยบายการนำเข้ากุ้งจากทั้งสองประเทศนี้อีกครั้ง โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและอนาคตของเกษตรกรเลี้ยงกุ้งไทย ที่มุ่งมั่นพัฒนาการเลี้ยงจนเป็นที่่ยอมรับในระดับโลก ก่อนที่การนำเข้าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำลายห่วงโซ่การผลิตตลอดไป” นายอักษรกล่าว
5. น่าคิดว่า กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการตัดสินใจเช่นนี้ กลุ่มที่ได้ประโยชน์ คือ ห้องเย็น
เพราะห้องเย็นต้องการใช้วัตถุดิบราคาถูกลงเท่านั้น
แต่ไม่ได้คำนึงถึงภาพรวมและภาพลักษณ์การผลิตสินค้ากุ้งของไทยที่โดดเด่นในการใช้วัตถุดิบภายในประเทศทั้งหมดโดยสิ้นเชิง
ทั้งๆ ที่ สิ่งนี้ คือ ผลประโยชน์ของประเทศชาติส่วนรวมที่ยั่งยืนในแบบ “มั่งคั่ง ยั่งยืน” ใช้เวลาสร้างสมกันมานาน แต่จะถูกทำลายลงไปเพราะผลประโยชน์เฉพาะหน้าของคนบางกลุ่ม
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี