“แอ๊ด คาราบาว” ต้องอ้าแขนรับความผิดอาญาเต็มๆ

และจะเข้าข่ายถูกถอนชื่อจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ ด้วยหรือไม่?

1. กรณี “แอ๊ด คาราบาว” หรือ “ยืนยง โอภากุล” ด่าผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีเละเทะ หยาบคาย บนเวทีคอนเสิร์ต ต่อหน้าแฟนเพลง และยังมีคลิปแพร่ว่อนไปทั่วโลก มีคนดูรวมแล้วหลายสิบล้านคน

ไม่ใช่เรื่องอะไรเลย แค่จะโชว์พาว!

ด่าผู้ว่าฯ ในงานวันเกิดกำนันพุก จัดที่บ้าน ในพื้นที่อำเภอสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี คืนวันที่ 12 ต.ค.

แอ๊ดโชว์พาว ตะโกนเรียกผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีขึ้นมาเคลียร์กันบนเวที ออกอารมณ์ฉุนเฉียว กราดเกรี้ยว “มึงรู้มั้ยกูเป็นใคร” โวยวายหาว่าผู้ว่าฯกลั่นแกล้งไม่จ้างตนเล่นคอนเสิร์ตในงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์ปี 2565 พาลด่าผู้ว่าฯด้วยถ้อยคำหยาบคาย ไอ้..... ยั้วเยี้ย เต็มเวทีไปหมด

นอกจากหยามเหยียดผู้ว่าฯ ยังทำให้คนเข้าใจผิดต่อการบริหารราชการจังหวัด

2. นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ชี้แจงว่าเป็นเรื่องที่นายยืนยงเข้าใจผิดเอง และได้อธิบายละเอียดทุกเม็ด ด้วยความสุภาพ ด้วยความจริงใจในฐานะลูกสุพรรณเหมือนกัน ข้อเท็จจริง คือ พื้นที่สุพรรณก่อนนี้สถานการณ์โควิดจัดเป็นสีส้ม จัดคอนเสิร์ตไม่ได้ และเงื่อนไขการจัดงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์ปี 2565 คนตัดสินใจจะจ้างการแสดงจากศิลปินคนไหนคือเอกชน ไม่เกี่ยวกับผู้ว่าฯ

3. นายปรีชา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ชี้แจงละเอียดยิบ ระบุว่า

“ผู้ว่าฯ ย้ายมาสุพรรณฯ เมื่อ 1 ต.ค. 2563

ปี 2564 ไม่มีการจัดงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์เนื่องจากสถานการณ์โควิด

ปี 2565 สถานการณ์โควิดผ่อนคลายลง มีการจัดงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์ แต่ก็หลังจากช่วงเวลาปกติ ที่เคยจัดระหว่าง 18 ม.ค.-1 ก.พ. เป็นช่วงเดือนมีนาคม 2565

ช่วงของการจัดงาน สุพรรณฯ เป็นพื้นที่สีส้ม งดการจัดการแสดงมหรสพ แต่ที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่สีฟ้า ก็มีการจัดงานดอนเจดีย์ และจ้างแอ๊ดไปเล่น แอ๊ดก็มีการกล่าวบนเวทีด่าผู้ว่าสุพรรณฯ ว่าไม่ให้แอ๊ดไปเล่นดนตรีที่สุพรรณฯ ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย

การจัดงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์ที่สุพรรณบุรี มีการประมูลพื้นที่จำหน่ายสินค้า โดยมีเงื่อนไขให้ผู้ชนะประมูลพื้นที่เป็นคนจัดหามหรสพ (ยกเว้นปี 2565 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผู้ว่าฯ คนปัจจุบันเข้ามารับผิดชอบการจัดงานฯ และเป็นปีที่คณะกรรมการจัดงานฯ มีมติให้งดจัดมหรสพ เนื่องจากให้เป็นไปตามมติ ศบค. ที่ให้กำหนดโซนพื้นที่ตามสีต่างๆ และสุพรรณฯ เป็นพื้นที่สีส้ม จึงไม่สามารถจัดมหรสพได้ แต่พื้นที่สีฟ้าสามารถจัดได้)

เมื่อการจัดมหรสพเป็นหน้าที่ของผู้ชนะการประมูลพื้นที่จำหน่ายสินค้า ผู้ว่าฯ จึงไม่เกี่ยวข้องกับการจ้างวงดนตรีต่างๆ มาแสดงในงานฯ แต่อย่างใด

จากการสอบถามผู้ชนะการประมูลพื้นที่ว่าทำไมไม่จ้างแอ๊ดมาเล่น ได้รับคำตอบว่าเคยจ้างแอ๊ดมาเล่นในงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์โดยการเปิดเวทีพิเศษเป็นบางวันเพื่อเป็นการกระตุ้นให้มีคนมาเที่ยวงานอนุสรณ์ดอนเจดีย์มากขึ้น มีการปิดกั้นพื้นที่การแสดง และเก็บบัตรเข้าชมการแสดง ปรากฏว่าค่าจ้างวงคาราบาวสูงมาก เก็บรายได้ไม่คุ้มกับค่าจ้าง โดยขาดทุนเป็นเงินหลักแสนขณะที่ดนตรีเพื่อชีวิตอื่นๆ ยังพอมีกำไรบ้างเล็กน้อย เพราะไม่ได้หวังกำไรมาก จุดประสงค์เพียงเพื่อดึงดูดคนให้มาเที่ยวชมงาน แต่ถ้าขาดทุนเป็นแสน จึงไม่คุ้มกับการจ้าง

การที่แอ๊ด คาราบาว อยากมาเล่นที่สุพรรณบุรี เป็นเรื่องของธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องของคนสุพรรณอยากมาเปิดการแสดงที่สุพรรณแต่อย่างใด จึงเป็นสิทธิ์ของผู้ว่าจ้าง ว่าจะจ้างการแสดงของวงดนตรีคณะใดเช่นกัน

ไม่ใช่แอ๊ดเป็นคนสุพรรณฯ คนเดียว ผู้ว่าฯ ก็เป็นคนสุพรรณฯ เช่นกันเกิดที่อำเภอศรีประจันต์...รอผู้ว่าฯ แถลง และแจ้งความดำเนินคดีต่อแอ๊ดในขั้นตอนต่อไปครับ”

ชัดเจน กระจ่างในแง่ของข้อมูลข้อเท็จจริง

4. เมื่อจำนนด้วยข้อเท็จจริง แอ๊ด คาราบาว ก็โพสต์ขออภัย ระบุว่า

“กระผม นายยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) ได้ใช้วาจาลบหลู่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีจากบนเวทีต่อหน้าผู้คนนับพัน เมื่อคืนวันที่ 12 ต.ค. 2565 ณ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ต่อมาท่านผู้ว่าฯออกมาอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นการเข้าใจผิด กระผมได้ฟังคำอธิบายแล้วรู้สึกสำนึกผิด มันเป็นอารมณ์ชั่ววูบของผมที่ขาดสติไป

จึงขอกราบขออภัยท่านผู้ว่าฯ และขอบพระคุณที่กรุณาออกมาชี้แจงความจริง ส่วนเรื่องคดีความผมพร้อมอ้าแขนรับความผิดเต็มๆ เลยครับ ขอบพระคุณครับ”

5. เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ผู้ว่าฯสุพรรณบุรี มอบนิติกรแจ้งความดำเนินคดี แอ๊ด คาราบาว

พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ได้มาติดตามดูเพื่อความเรียบร้อย ในเบื้องต้นได้ให้พนักงานสอบสวนรับเรื่องแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้แล้ว ส่วนเรื่องการดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามระเบียบ พร้อมต้องสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย เบื้องต้นจะได้แจ้งข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326-328 ซึ่งได้ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ยืนยันว่า ทราบว่าทางแอ๊ด คาราบาว ได้โพสต์ขอโทษตนแล้ว โดยส่วนตัวในฐานะ นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ยอมรับคำขอโทษ เพราะความจริงแล้วโดยส่วนตัวตนก็ไม่มีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกัน แต่อยากเรียนว่าที่ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันนี้ไม่ใช่นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป อย่างเดียว อีกตำแหน่งก็เป็นตำแหน่งในหน้าที่ราชการ ซึ่งจะระเบียบกฎเกณฑ์ จรรยาบรรณที่เราจะต้องดูแล ตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องมีการหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ส่วนตนอีกไม่เกิน 2 ปี ก็จะเกษียณอายุราชการ และก็จะมีคนมาอยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไปซึ่งคนที่มาอยู่ในตำแหน่งนี้ก็จะต้องดูแลรักษาตำแหน่งนี้ ให้สมศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งไหน โดยเฉพาะตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดต้องให้ความสำคัญเพราะเป็นตำแหน่งผู้นำระดับจังหวัด ตนจึงต้องดำเนินการในส่วนของหน้าที่

ล่าสุด สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรีได้รายงานเหตุการณ์ดังกล่าวไปถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรมแล้ว (สวธ.) ในประเด็นเข้าข่ายศิลปินแห่งชาติที่มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือไม่

หากคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) เห็นว่าเป็นความประพฤติที่ทำให้เสื่อมเสีย ก็สามารถพิจารณาถอดถอนออกจากศิลปินแห่งชาติได้

ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ในกฎกระทรวง กำหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2563 ได้มีการระบุไว้ว่า เมื่อได้ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ใดเป็นศิลปินแห่งชาติแล้ว หากปรากฏว่าศิลปินแห่งชาติผู้นั้นมีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่
ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ คณะกรรมการโดยมติด้วยคะแนนเสียงอย่างน้อยสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่อาจยกเลิกการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติได้

นี่ถึงเรียกว่า พาลพาไปหาผิดแท้ๆ

สารส้ม