ยา ณ ที่นี้คือ ยาเสพติด อาวุธ คือ ปืนผาหน้าไม้ของแข็งหนึ่งใดที่จะใช้ทำร้ายผู้อื่นได้ และเมื่อยาเสพติดมาร่วมมือกับอาวุธ ก็เกิดการสูญเสียชีวิต บาดเจ็บ ล้มตายเป็นเรื่องที่อนาถใจและสลดใจเป็นอย่างยิ่งในสังคมไทยและแล้วก็จะมีปฏิกิริยาจากฝ่ายสาธารณชนให้ฝ่ายผู้บริหารปกครองประเทศเอาจริงเอาจัง กับทั้งเรื่องยาเสพติดและอาวุธปืนกันเสียที แม้กระทั่งการดำเนินการเอาชีวิตกับผู้ผลิตและผู้ค้ายาเสพติด ไปจนถึงการเข้มงวดกับการถือครองอาวุธปืน และการขจัดอาวุธเถื่อนต่างๆ ล่าสุดก็กรณีโศกนาฏกรรมที่ศูนย์ดูแลเด็กเล็กที่จังหวัดหนองบัวลำภูที่สั่นสะเทือนใจ ไม่เฉพาะแค่ในประเทศไทย แต่ไปยังทั่วโลกจนกระทั่งผู้นำหลายๆ ประเทศได้ออกมาแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และฉะนั้นก็น่าจะถึงเวลาที่สังคมไทยจะเอาจริงเอาจังกับเรื่องยาเสพติดและอาวุธปืนกันอย่างจริงจัง เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของชีวิต และแม้กระทั่งชื่อเสียงเกียรติภูมิของสังคมไทยเราเอง แต่การปราบปรามก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ที่เราต้องไม่ลืมคือ เหตุของการบริโภคยาเสพติดและเหตุของการใช้อาวุธเพื่อประหัตประหารเพื่อนมนุษย์ด้วยกันว่า ทั้งหมดนั้นน่าจะเริ่มต้นที่สภาวะจิตใจเป็นสำคัญ เมื่อผู้คนมีจิตใจไม่เป็นปกติ ก็ไปหาทางออกด้วยการผิดศีล 5 ว่าด้วยการละเว้นสุราเมรัยและของมึนเมาทั้งหลาย หรือสภาวะจิตใจไม่ปกติก็ตัดสินแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงโดยการใช้อาวุธ เป็นการละเมิดศีล 5 ข้อที่ 1 ว่าด้วยการไม่เอาชีวิตหรือไปรังแกชีวิตของผู้อื่น ฉะนั้นการจะมุ่งแก้ประเด็นปัญหาของยาเสพติดและการครอบครองอาวุธปืน ก็ต้องดำเนินการควบคู่กันไปทั้งกฎหมายบ้านเมือง การบังคับใช้กฎหมาย และการเสริมสร้าง ทำนุบำรุงสภาวะจิตใจเป็นสำคัญควบคู่กันไปด้วย ดังจะเห็นว่าในหลายๆ ประเทศประชาชนพลเมืองทั้งหญิงชาย เป็นทั้งพลเมืองและทหารหาญซึ่งภาษาอังกฤษใช้คำว่า Citizen Soldiers เช่นที่ประเทศอิสราเอล และประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจัดได้ว่า ทุกครอบครัวที่มีบุคลากรอยู่ในวัยที่จะทำหน้าที่ป้องกันประเทศได้ จะมีอาวุธปืนเก็บไว้ที่บ้าน และจะต้องมีการฝึกซ้อมการใช้อาวุธเป็นระยะๆ และโดยปริยายก็ต้องมีการทดสอบ สอดส่องดูแลสภาวะจิตใจควบคู่กันไปด้วย ก็หมายความว่า การมีอาวุธครอบครองนั้น จะต้องถูกกำกับด้วยกฎหมาย กฎเกณฑ์กติกาของบ้านเมืองแล้ว ยังจะต้องถูกควบคุมด้วยสภาวะจิตใจของการมีสติที่ดี การระมัดระวัง และการปฏิบัติหน้าที่เพื่อความมั่นคงปลอดภัยของผู้อื่นและสังคมโดยรวม
ในกรณีของสังคมไทย ก็จะมุ่งแค่การปราบปรามเข้มงวดกับการใช้กฎหมายก็คงไม่เป็นการเพียงพอ แต่ต้องคำนึงถึงการเสริมสร้างความเข้มแข็งของสภาวะจิตใจ และการแก้ไข หรือรักษาสภาวะจิตใจเมื่อจิตใจไม่ปกติด้วย ซึ่งก็จะกระทำการได้ ก็ด้วยการให้ความรู้และการฝึกอบรมในสังคมอย่างกว้างขวาง ซึ่งคงจะกระทำได้ด้วย 2 วิธีควบคู่ขนานกันไป คือ โดยฝ่ายรัฐ และฝ่ายองค์กรทางศาสนาต่างๆสำหรับปัญหาเฉพาะหน้าในส่วนที่เกี่ยวกับสภาวะจิตใจนั้นก็ต้องมีการบำบัดผู้ติดยาเสพติดกันอย่างจริงจัง ด้วยระบบในระดับชาติ มีการฝึกอบรมบุคลากรให้มีทักษะและองค์ความรู้ที่เพียบพร้อม และในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการฝึกอบรมจิตใจให้คล้อยตามไปกับสิ่งที่ดีงาม และการบำบัดรักษาสภาวะจิต หรือโรคจิตอย่างเป็นระบบ อย่างเป็นกิจจะลักษณะซึ่งในการนี้นักจิตแพทย์ก็มีความสำคัญยิ่ง และพระสงฆ์องค์เจ้าของทุกศาสนาต้องมีบทบาทอันสำคัญด้วย
ในขณะเดียวกัน การปราบปรามยาเสพติดและการค้าขายอาวุธเถื่อน ก็มักจะได้เห็นผลงานของภาครัฐเกี่ยวกับ
ผู้ค้าเป็นสำคัญๆ เป็นระยะๆ และก็มักจะมีข่าวคราวว่าเจ้าหน้าที่รัฐก็กลับกลายเป็นโจรบ้านเมืองอีกด้วย และฉะนั้นการเสริมสร้างจริยธรรมและความซื่อสัตย์สุจริตในแวดวงสถาบันข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และพลเรือน ก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายรัฐบาลต้องเอาจริงเอาจัง เพื่อให้ได้มาซึ่งข้าราชการที่ดีขจัดข้าราชการที่ไม่ดี และป้องปรามมิให้ข้าราชการหันเหไปในทิศทางที่เป็นอันตรายต่อสังคม
แต่ที่สังคมเราโดยรัฐบาล จะต้องเอาจริงเอาจังก็คือการค้นหาต้นตอ ทำลายโรงงาน และจับกุมผู้ดำเนินการให้ได้ ในกรณีของยาเสพติดก็เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า โรงงานผลิตนั้นตั้งอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา เป็นสำคัญ และฉะนั้น ก็เป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลไทยที่จะต้องร่วมกันวางระบบการปราบปรามโรงงานผลิตยาเสพติด กับรัฐบาลกลางของเมียนมา ซึ่งขณะนี้ฝ่ายกองทัพเมียนมากำลังยึดอำนาจอยู่ และควบคู่กันไปนั้น ฝ่ายรัฐบาลไทยก็ต้องเจรจาหารือกับบรรดารัฐบาลของรัฐชนกลุ่มน้อยของประเทศเมียนมาตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยเฉพาะกับชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง คาเรนนี ฉาน เป็นต้น และในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยก็ต้องหารือและกระชับความร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติฝ่ายปราบปรามยาเสพติด และกับมิตรประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย จีน สหภาพยุโรปและประเทศสมาชิกอาเซียน ในการร่วมมือกันโดยเฉพาะในเรื่องข่าวกรอง รวมทั้งการใช้ดาวเทียมเพื่อช่วยสืบหาที่ตั้งของโรงงานดังกล่าว และเส้นทางลำเลียงยาเสพติดจากเมียนมาสู่ไทย และหากจะให้ดีไปกว่านั้น ฝ่ายไทยก็ต้องเจรจากับฝ่ายเมียนมา เพื่อเปิดน่านฟ้าเพื่อให้มีการดำเนินการโจมตีทำลายล้างโรงงานยาเสพติด หรืออาจจะกระทำการในนาม และด้วยมติขององค์การสหประชาชาติ และนอกจากนั้นก็อาจจะมีการพิจารณาการจัดตั้งหน่วยลาดตระเวนร่วม เพื่อทำลายล้างโรงงานทางภาคพื้นดิน โดยดำเนินการในนามขององค์การสหประชาชาติด้วยได้
ดังที่กล่าวมานี้ ก็น่าจะอยู่ในวิสัยที่จะนำไปสู่ความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อปราบปรามยาเสพติดได้ และ
ในการดำเนินการดังกล่าวในระดับนานาชาติ ก็อาจจะขยายไปถึงเรื่องการปราบปรามการค้าอาวุธเถื่อนข้ามชายแดนได้ด้วย
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี