คุณมีรายได้ที่เข้าเกณฑ์ต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาไม่ว่าจะเป็นประเภท ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91 หรือไม่ เมื่อคุณเสียภาษีไปแล้ว ครั้นเมื่อคุณต้องได้เงินคืน หลังจากคุณทำเรื่องขอคืนเงินส่วนที่กรมสรรพากรเรียกเก็บจากคุณเกินไปตั้งหลายเดือนแล้ว คำถามคือ คุณได้รับเงินของคุณคืนอย่างรวดเร็ว และทันอกทันใจ หรือไม่
มีใครได้รับเงินคืนจากกรมสรรพากรอย่างรวดเร็วบ้างไหม แล้วมีใครที่เคยมีประสบการณ์เลวร้ายกับกรมสรรพากรที่พยายามดึงและถ่วงการคืนเงินให้คุณอย่างล่าช้าบ้างหรือไม่
คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมกรมสรรพากรจึงคืนเงินส่วนที่คุณต้องได้รับคืนล่าช้ามากๆๆๆ แต่ก็ต้องย้ำว่า หากคุณไม่ทำเรื่องขอคืนเงิน คุณจะไม่มีวันได้เงินคืนเป็นอันขาด ต่อให้กรมสรรพากรเก็บเงินจากคุณเกินไปมากมายสักเท่าไรก็ตาม ขอย้ำว่าหากคุณไม่ขอคืนเงินส่วนที่คุณต้องได้คืน ก็หมายความว่ากรมสรรพากรจะไม่มีวันคืนเงินของคุณกลับคืนให้คุณ แต่หากคุณชำระเงินภาษีขาด หรือชำระล่าช้า หรือจงใจไม่ชำระ รับรองว่ากรมสรรพากรจะตามล่าคุณจนกว่าคุณจะชำระภาษีให้เสร็จสิ้นและสมบูรณ์ตามที่กรมสรรพากรต้องการ
คำถามคือทำไมกรมสรรพากรคืนเงินที่เก็บไปจากเรา โดยเก็บเกินจำนวนที่ควรจะเก็บจริง แต่กลับคืนเงินให้เราล่าช้ามาก ทวงถามไปกี่ครั้งกี่ครั้ง ก็จะได้รับคำตอบเดิมๆ คือ กำลังตรวจเอกสาร หรือไม่ก็ขอเอกสารเพิ่มเติม คนที่มีประสบการณ์ไม่น่าประทับใจกับกรมสรรพากรต่างรู้ดีว่ากรมสรรพากรมีลูกเล่นอย่างหนึ่งคือ ขอเอกสารเพิ่ม และขอเพิ่ม และขอเพิ่มตลอดเวลา ทั้งๆ ที่การยื่นขอภาษีคืนในปีนี้ ไม่ได้ยื่นขอภาษีคืนต่างไปจากปีก่อนๆ
แต่ถึงกระนั้น กรมสรรพากรก็ยังอุตส่าห์ขอเอกสารเพิ่มเติม ถามว่ากรมสรรพากรมีสิทธิ์ขอเอกสารเพิ่มเติมหรือไม่ ตอบว่า มีสิทธิ์ขอ แต่ถามกลับว่า แล้วจะต้องขอเพื่ออะไร ทั้งๆ ที่การขอเงินคืน เป็นการขอเหมือนเดิมทุกปี
คุณเคยถูกกรมสรรพากรดองเรื่องคืนเงินไว้นานเป็นปีๆ หรือไม่ บางคนโดนดึงเรื่องไว้นานถึง 2-3 ปี เพราะกรมสรรพากรอ้างว่าขอเอกสารเพิ่ม แล้วคุณส่งเอกสารให้ช้าแต่ที่ตลกแบบไร้สาระยิ่งกว่าคือหลายต่อหลายครั้งกรมสรรพากรแจ้งว่าได้รับเอกสารครบแล้ว แต่อีกไม่กี่วันต่อมาก็ขอเอกสารเพิ่มอีก เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ จนบางคนถึงกับต้องไปโวยวายกับผู้เป็นใหญ่ประจำสำนักสรรพากรเขตต่างๆ
มีเรื่องตลกเบาปัญญาเกิดจากคนของกรมสรรพากรเกิดขึ้นเป็นประจำ โดยเฉพาะเรื่องขอเอกสารเพิ่มแล้วดองเรื่องการคืนเงินไว้นานเป็นปีๆ หรือนานกว่า 2-3 ปี โดยเฉพาะเรื่องที่คุณบริจาคเงิน หลายครั้งเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรถามคุณที่บริจาคเงินให้กับวัดหรือหน่วยงานที่ออกใบเสร็จรับเงินเพื่อนำไปเป็นหลักฐานการหักลดหย่อนภาษีทำนองว่า คุณทำบุญเป็นเงินมากถึงเพียงนี้หรือ
เรื่องแบบนี้ก็พอจะเข้าใจว่าคนของกรมสรรพากรอาจจะตื่นเต้นและตกใจที่เห็นคนคนหนึ่งซึ่งเป็นคนตัวเล็กๆ น้อยๆ แต่บริจาคเงินให้กับหน่วยงานที่ถูกกฎหมายเป็นเงินหลักหมื่นหรือแสน คนของกรมสรรพากรซักไซ้ราวกับว่าคนตัวเล็กตัวน้อยไม่มีปัญญาบริจาคเงินให้กับองค์กรสาธารณะกุศลที่ถูกกฎหมาย นั่นอาจจะสะท้อนให้เห็นว่า เป็นเพราะคนของกรมสรรพากรไม่ค่อยมีใครบริจาคเงินให้องค์กรใดๆ เป็นหลักหมื่นหลักแสนก็เป็นได้ ดังนั้น เมื่อพบว่าคนธรรมดาสามัญบริจาคเงินจำนวนค่อนข้างมากตามความคิดของคนกรมสรรพากร คนของกรมสรรพากรก็เลยเกิดอาการตื่นตกใจ แล้วไม่เชื่อว่าคนคนนั้นบริจาคจริง ก็เลยซักไซ้ราวกับว่าเจอของมหัศจรรย์อันดับต้นๆ ของโลก
มาระยะหลังๆ ก็จะเจออีกว่า คนของกรมสรรพากรแสดงความไม่รู้ออกมาเพื่อประจานการทำงานของตนเอง โดยเฉพาะการขอเอกสารเป็นกระดาษจากผู้ซื้อ RMF หรือซื้อกองทุนต่างๆ ทั้งๆ ที่กรมสรรพากรออกกฎเองว่าไม่จำเป็นต้องยื่นเอกสารกระดาษอีกต่อไป เพราะทุกอย่างอยู่ในระบบ online แล้ว แต่ถึงกระนั้น คนกรมสรรพากรบางรายก็ยังแสดงความไร้เดียงสา จนถึงขั้นเบาปัญญาด้วยการขอเอกสารกระดาษอีก
เรื่องแบบนี้เป็นการฟ้องสาธารณชนว่า คนของกรมสรรพากรบางคน ซึ่งมีจำนวนมิใช่น้อยยังด้อยประสิทธิภาพการทำงาน ขาดความรู้ในเรื่องงานที่ตนรับผิดชอบ แต่ทว่าเป็นความโชคร้ายของคนกรมสรรพากรที่ดันไปขอเอกสารจากคนที่ทำงานด้านการเงิน การธนาคาร และบริษัทหลักทรัพย์จึงถูกตอกหน้ากลับไปว่า คุณไปดูคำสั่งของกรมสรรพากรเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาขอเอกสารเพิ่ม แต่ก็ต้องบอกว่าในสังคมไทยนั้น คนที่มีความรู้เรื่องภาษีอากรจริงๆ และแม่นๆ นั้นมีน้อยมาก เพราะฉะนั้น คนของกรมสรรพากรก็จึงยังคงสามารถใช้เรื่องความไม่รู้หลักการภาษีอากรของคนหมู่มากสำหรับดึงเกมการคืนเงินภาษีอากรมาโดยตลอด
เรื่องแบบนี้ต้องตำหนิอธิบดีกรมสรรพากรที่ไม่ เคร่งครัดการเพิ่มพูนความรู้ให้กับคนของกรมสรรพากร แต่ยังปล่อยให้คนไร้คุณภาพทำงานในกรมสรรพากรได้จนถึงทุกวันนี้แล้วก็ต้องบอกว่าเป็นความโชคร้ายของคนไทยที่รู้เรื่องภาษีอากรน้อยมาก จึงถูกเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรดึงเกมการคืนเงินภาษีมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงนั้น กรมสรรพากรเก็บเงินที่ผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินคืนไปดองไว้ในกรมสรรพากรมานานเป็นปีๆ แล้วก็ยังจงใจคืนเงินล่าช้า มีคำถามว่า หากผู้เสียภาษียื่นแบบแสดงการเสียภาษีล่าช้า กรมสรรพากรจะปล่อยให้ผู้เสียภาษียื่นแบบได้ล่าช้าโดยไม่มีการปรับหรือไม่
ในเมื่อกรมสรรพากรเก็บเงินไปจากผู้มีรายได้ก่อนที่ผู้มีรายได้จะมีเงินเข้ากระเป๋า แต่กลับคืนเงินล่าช้า แบบนี้กรมสรรพากรควรจะต้องเสียค่าปรับในกรณีคืนเงินล่าช้าด้วย ไม่ใช่ทำงานโดยไม่รับผิดชอบ แบบเอาแต่ได้มาโดยตลอด แบบนี้นับได้เสมือนว่าเป็นการกลั่นแกล้งรังแกประชาชนผู้เสียภาษีรูปแบบหนึ่ง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี