วันอาทิตย์ ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2568
เป็นเรื่องที่นิ่งนอนใจไม่ได้กับเสียงเตือนของ “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ” สภาคองเกรสจะต้องผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว หรือ Continuing Resolution (CR) ก่อนส่งให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายภายในช่วงเที่ยงคืนของวันเสาร์ที่ 30 ก.ย. ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางนับแสนคนต้องถูกสั่งให้หยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง และป้องกันไม่ให้งานด้านการบริการต้องหยุดชะงักลงเป็นวงกว้าง
หากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐถูกชัตดาวน์ จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญความเสี่ยง เพราะทราบกันดีว่าปัจจุบันสหรัฐอเมริกามีหนี้สินสูงกว่า 307 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีหนี้สาธารณะกว่า 3.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
หากสภาคองเกรสไม่เร่งพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว และอนุมัติงบประมาณให้กับหน่วยงานด้านการตอบสนองต่อภัยพิบัติภายในประเทศประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์ รวมถึงงบประมาณการช่วยเหลือยูเครนในการทำสงครามป้องกันตนเองจากการรุกรานของรัสเซียวงเงิน 6 พันล้านดอลลาร์ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐมีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 17 พ.ย.
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับ 2-3.3% ในช่วงสิ้นปีนี้ทำให้เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่กรอบ 5.50%-5.75% โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐยังมีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะซอฟต์แลนดิ้ง
กระแสภาวะเศรษฐกิจของจักรวรรดิอเมริกาที่บ้าคลั่งสงครามจนเกิดความล้มเหลวด้านเศรษฐกิจครั้งนี้ ทำให้หลายประเทศตื่นตัว เร่งนำทองคำสำรองที่ฝากไว้ในลอนดอน นิวยอร์ก หรือในสวิตเซอร์แลนด์กลับประเทศตัวเอง เนื่องจากเห็นว่าไม่มีความปลอดภัย ชาติตะวันตกสามารถอ้างเหตุอะไรก็ได้เพื่อที่จะไม่คืนทองคำ ดูได้จากเหตุการณ์รัสเซียบุกยูเครน สหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรยึดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียไปกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ทราบกันดีว่าการเข้ามาบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ยุคคสช.ต่อเนื่องรัฐบาลพปชร.ที่ผ่านการเลือกตั้งได้ซื้อทองคำเข้าทุนสำรองระหว่างประเทศ เพิ่มมากที่สุดในเอเชียในรอบ 10 ปี โดยเพิ่มจาก 152.41 ตันในปี 2556มาอยู่ที่ 244.16 ตันในสิ้นปี 2565 โดยทุนสำรองที่เป็นทองคำเพิ่มขึ้นถึง 60.20%
“เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการคลัง” จะดำเนินการอย่างไรกับทองคำที่ฝากอยู่ในต่างประเทศ รวมทั้งธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา จากสถานการณ์ราคาทองคำในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลดค่าลงอย่างต่อเนื่อง
ที่สำคัญ กลุ่ม Bric ซึ่งประกอบด้วย บราซิล,รัสเซีย, อินเดีย, จีน และแอฟริกาใต้ กำลังสร้างสกุลเงินใหม่ขึ้นมาชื่อ bric โดย 1 bric มีทองคำหนุนหลัง 1 ออนซ์ ถ้าเปิดตัวจะได้รับการตอบรับจาก 41 ประเทศทั่วโลก ถ้าเป็นเช่นนี้ทองคำจะพุ่งพรวดจาก 1,950 เหรียญ ไปเป็น 3,000 เหรียญอย่างรวดเร็ว เท่ากับว่าเงินดอลลาร์จะลดค่าลงไปหลายเท่าตัว
สกุลเงินที่มีทองคำหนุนหลัง จะส่งผลให้เงินสกุลดอลลาร์ดอลลาร์ไม่ได้เป็นเงินสกุลหลักของโลกจะทำให้ทั่วโลกลดการถือครองพันธบัตรดอลลาร์สหรัฐมาเพิ่มทองคำมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นในอนาคตต่อไปเราไม่จำเป็นต้องถือเงินสกุลของประเทศที่กำลังล้มละลายทางเศรษฐกิจอย่างดอลลาร์สหรัฐที่มีหนี้สินสูงกว่า 307 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐและมีหนี้สาธารณะกว่า 3.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐไว้มากเกินไป เนื่องจากการค้าขายอาจใช้เป็นเงินบาท กับหยวนก็เป็นไปได้
ถึงเวลาที่จะเอาทองคำกลับมาเก็บไว้ที่ “ธนาคารแห่งประเทศไทย” บ้านเราเอง
ซึ่งจะดูมีความมั่นคงและปลอดภัยกว่าหรือยัง!?!?! “ท่านเศรษฐา ทวีสิน”

เปิดภาพ F-16 ทิ้งบอมบ์ สะพานโอรุจิก เชื่อมต่อ เสียมราฐ-อุดรมีชัย ตัดเส้นทางส่งกำลังบำรุงทหารกัมพูชา
ไม่ใช่ปิดข่าว แต่ไม่มีศพให้รายงาน! เปิดความจริงจากแนวหน้า ไทยพลิกเกมด้วยโหมดรบยุคใหม่
กัมพูชายอมแล้ว! ทำลายเขื่อนดักตะกอน บ้านหาดเล็ก หวั่นโดนไทยถล่มทางเข้าเกาะกง
ไทยขำกลิ้งทั้งประเทศ กัมพูชากุข่าว เสธ.เบิร์ด เสียชีวิตแล้วที่ปราสาทตาเมือน
คืนอธิปไตยไทยสู่มาตุภูมิ ดูชัดๆ ภาพแม่ทัพกุ้ง ลงปราสาทตาควาย-เนิน 350 พร้อมเชิดชูเกียรติทหารกล้า

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี