ป้าบัวผัน หรือ น.ส.บัวผัน ตันสุ ถูกกลุ่มวัยรุ่น 5 คน (หนึ่งในนั้นคือลูกตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว) รุมทำร้ายร่างกาย อุ้มไปฆ่า นำร่างทิ้งน้ำ!!!

ก่อนตำรวจ สภ.อรัญประเทศจะไปจับแพะ โดยมีพฤติกรรมข่มขู่ บังคับ เอาถุงดำคลุมหัวลุงเปี๊ยก เพื่อให้รับสารภาพ!!!

กรณีที่เกิดขึ้น เรียกว่า แก๊งเด็กอัปรีย์

ส่วนตำรวจที่จับแพะก็เป็น ตำรวจจัญไร!!!

1. ฆ่าอำมหิต

เฟซบุ๊ก Drama-addict  โพสต์ข้อความถึงผลชันสูตรศพป้าบัวผันระบุว่า “อ่านผลชันสูตรป้ากบแล้ว ขนลุกขนพอง”

“อธิบายภาวะ อกรวน

หมายถึง ภาวะที่กระดูกซี่โครงหักแบบเละเทะ

คือ ปกติเวลาซี่โครงหักสักซี่สองซี่ มันก็จะมีซี่โครงซี่อื่นช่วยพยุงให้ผนังทรวงอกยังพอมั่นคงและขยับตัวตามการหายใจได้

แต่ถ้าเป็นภาวะที่ซี่โครงหักหลายๆ ท่อนพร้อมๆ กันตั้งแต่ 3 ซี่ขึ้นไป และมากกว่าสองตำแหน่งขึ้นไป จะทำให้ส่วนที่หักมันลอยแยกจากผนังทรวงอกออกมาเลย และทำให้ความแข็งแรงของผนังทรวงอกเสียไป ทำให้ปอดไม่สามารถขยายตัวตามการหายใจได้ตามปกติ ทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนแย่ลงและอาจเสียชีวิตได้

ซึ่งปกติพบได้ในคนที่เกิดอุบัติเหตุรุนแรง มีการกระแทกที่หน้าอกรุนแรง เช่น อุบัติเหตุรถชน แล้วอกไปกระแทกหน้ารถ อะไรงี้

แต่เคสป้ากบ เกิดจากถูกก๊วนลูกตำรวจรุมทุบ จนอกรวน

และจากผลชันสูตร พบว่า สาเหตุที่ป้าตายจริงๆ ไม่ใช่อกรวน ลมรั่วในปอดด้วยซ้ำ

แต่ป้าตายจากเลือดออกในสมอง

พูดง่ายๆ จากผลชันสูตรป้ากบ ป้าตายสามรอบได้เลย

เพราะพวก...นี้มันทุบหน้าอกป้าจนอกรวน ลมรั่วในปอด ซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงถึงตาย แต่มันยังไม่จบ ยังทุบหัวป้าอย่างแรง จนมีแผลเหวอะ และเลือดออกในสมอง ซึ่งรุนแรง และถึงตายได้

แต่ป้ากระเสือกกระสนเอาตัวรอดลงน้ำ มันก็จับกดน้ำจนตาย”

2. แก๊งอัปรีย์กลุ่มนี้ ยังมีพฤติกรรมทำร้าย เป็นภัยสังคม รังแกคนอื่นๆ อีกมากมาย

“กัน จอมพลัง” เผยว่า ลงไปรับเรื่องร้องเรียนที่สระแก้ววันเดียว ชาวบ้านตบเท้ามาร้องถูกแก๊งลูกตำรวจรังแกเต็มไปหมด

“1. น้อง 12 ถูกแก๊งลูกตำรวจรุม ขข และ อนาจาร

2. เด็ก 16 ถูกอนาจาร

3. สาว LGBT ถูกดักทำร้ายตอนกลางคืน

4. หนุ่มถูกแก๊งลูกตำรวจ 30 คนดักปล้น รุมทำร้าย จุดไฟ ผ รถแจ้ง สภ.อรัญฯ 7 เดือนคดีไม่คืบ

5. คนในแก๊งแฉในกลุ่มมีปืน ชอบลองปืนโดยเอามากดป้ายหลวง

6. บุกปล้นถังดับเพลิงในสถานที่ราชการตอนกลางคืนและเอามาฉีดใส่บ้านชาวบ้าน แถมเต้นสายตูดใส่กล้อง

7. หลังเพื่อนถูกขับคนในกลุ่มที่เหลือบุกบ้านชาวบ้านเอาปืนไปกดเขาแต่ไม่ออกตำรวจบอกอย่าเป็นข่าวไม่งั้นถูกดำเนินคดีด้วย

8. เมื่อคืนก่อเหตุเอาระเบิดไปปาบ้านชาวบ้าน

9. น้อง 15 ร้องถูก ขข

ผมช่วยทุกเคส แต่สิ่งที่ตั้งคำถามในใจ ทำไมถึงปล่อยให้แก๊งลูกตำรวจเหิมเกริมเละเทะรวมตัวกันได้ใหญ่ขนาดนี้ พ่อแม่ไม่รู้จริงๆ เหรอ”

3. กฎหมายเอาผิดได้ไม่สาสมกับความอัปรีย์เลวทราม

ขณะนี้ แก๊งลูกตำรวจทั้ง 5 ราย อยู่ในความควบคุมและดูแลของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เป็นเวลา 90 วัน

จากนั้น จึงจะเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายต่อไป

นายประพาส จำเขียน ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนเขต 1 เผยสภาพจิตใจของผู้ต้องหายังคงเป็นปกติดี และไม่มีปัญหาใดๆ

“เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำเยาวชนทั้ง 2 ราย เข้าสู่กระบวนการกักโรคเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 5 วันว่าป่วยเป็นโรคโควิดหรือไม่ และหากไม่มีอาการป่วยใดๆ จึงจะให้เข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มเพื่อนเยาวชน ส่วนเยาวชนอีก 3 คนที่ถูกส่งตัวไปยังสถานพินิจฯ จันทบุรี ได้รับรายงานว่าสภาพจิตใจเป็นปกติดีและไม่มีปัญหาอะไรเช่นกัน”

4. คดีเยาวชนก่อเหตุร้ายแรงในต่างประเทศ มีโทษเท่าผู้ใหญ่

นักอาชญาวิทยา รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์ พูตระกูล รองอธิการบดีและประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้สัมภาษณ์คุณแซค ธราวุธ ผู้สื่อข่าวท็อปนิวส์

ระบุว่า ผู้ต้องหาในคดีนี้เป็นกลุ่มเยาวชน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพฤติการณ์แห่งคดีนั้น มีความอุกฉกรรจ์ และโหดเหี้ยม จนสังคมรับไม่ได้ จึงมีการพูดถึงการแก้ไขหลักเกณฑ์อายุของเด็กและเยาวชนที่กระทำความผิด แต่ถึงอย่างไรก็ต้องพิจารณาพฤติการณ์แห่งคดีควบคู่ไปด้วย

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงศ์ ได้ยกตัวอย่างคดีในสหรัฐอเมริกา บางมลรัฐที่เคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะที่เด็กและเยาวชนก่อเหตุกระทำผิดกฎหมาย มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน หรือเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยในต่างประเทศมองว่า ไม่ใช่พฤติการณ์ของเด็กและเยาวชน จึงเห็นสมควรต้องมีการได้รับโทษแบบผู้ใหญ่ ที่สำคัญกว่านั้น ผู้ปกครองของเด็กและเยาวชนที่กระทำผิดเหล่านั้น จะต้องได้รับโทษทางอาญาด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงสถิติเด็กและเยาวชนที่ก่อเหตุกระทำความรุนแรง มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

จากสถิติคดีอาญาเด็กและเยาวชน พบว่า ปี 2565 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 12,194 คดี ในจำนวนนี้เป็น “คดีเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย” 1,703 คดี

ขณะที่ปี 2566 มีคดีอาญาเด็กและเยาวชน รวมทั้งสิ้น 11,340 คดี เป็น “คดีเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย” มากถึง 2,999 คดี

โดยในกลุ่มอายุผู้กระทำผิดส่วนใหญ่อยู่ในช่วงเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปีซึ่งเป็นห้วงอายุที่น่าตกใจอย่างยิ่ง

5. โพลล์เผย ประชาชนหนุนแก้กฎหมายเอาผิดเด็กก่อคดีอาญาร้ายแรงข่มขืน-ฆ่าคนตาย

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจ เรื่อง อาชญากรในเด็ก

พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.9 ระบุว่า เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปีก่อคดีอาชญากรรมร้ายแรงเพิ่มขึ้นจริง

แต่ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.4 ระบุไม่เคยโดนเด็กและเยาวชนข่มขู่คุกคามให้หวาดกลัว มีเพียงร้อยละ 5.6 เท่านั้นที่เคยโดนกับตัวเอง

ประการสำคัญ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 75.3 เห็นด้วยต่อการแก้ไขกฎหมายให้เอาผิดเด็กอายุน้อยกรณีทำผิดคดีอาญาร้ายแรง เช่น ข่มขืน การฆ่าคน เป็นต้น

ในขณะที่ร้อยละ 24.7 ไม่เห็นด้วย

6. กรณีตำรวจจัญไรที่จับแพะ

รายงานข่าวระบุว่า พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 แถลงว่า สภ.อรัญประเทศ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 และความผิดฐานผิดการทรมาน

ตำรวจภูธรภาค 2 จึงส่งสำนวนตรวจสอบข้อเท็จจริงให้กับพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากพบว่ามีการกระทำความผิดก็จะต้องดำเนินการเอาผิดทางวินัยและอาญา อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 ว่าสามารถจะดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่กระทำความผิดได้ทุกราย

เบื้องต้นนายดาบได้ให้การปฏิเสธในการใช้ถุงดำคลุมลุงเปี๊ยก แต่ชุดคณะกรรมการสอบสวนเชื่อว่ามีหลักฐานชี้ได้ว่า นายดาบใช้ถุงคลุมลุงเปี๊ยกจริง

กรณีนี้ ตำรวจต้องเด็ดขาด เอาจริง อย่างที่ ผบ.ตร.กล่าวไว้ว่า จะไม่ปกป้องใคร นิ้วไหนร้ายต้องตัดทิ้ง

ถ้าถามสังคมไทยว่า ระหว่าง “เด็กอัปรีย์” กับ “ตำรวจจัญไร”ใครเลวกว่ากัน?

คำตอบคงออกมาพอๆ กัน !!!

เพราะเด็กอัปรีย์ฆ่าป้าบัวผัน แต่ตำรวจจัญไรได้พยายามปล้นความยุติธรรมแห่งคดี!!!

สารส้ม