อย่าปล่อยให้ขบวนการงาบที่ดินป่าเขาใหญ่ลอยนวลไปได้
เพราะรูปการณ์ปรากฏชัด มี “ไอ้โม่ง” ปักหมุด ส.ป.ก. เพื่อออกเอกสาร ส.ป.ก. ให้กับประชาชน ทั้งๆ ที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าเขาใหญ่
1. ล่าสุด มีคำสั่งย้ายด่วน ส.ป.ก.นครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา รวม 6 คน
ตามหนังสือคำสั่งด่วนที่สุด ที่ กษ 1205/1074 ถึงผู้ว่าฯนครราชสีมา เรื่องขอให้เจ้าหน้าที่ยุติการปฏิบัติงานในพื้นที่ทับซ้อนป่าจำแนกฯ ป่าเขาใหญ่
ระบุว่า “ตามที่ ส.ป.ก. และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช (อส.) ได้มีข้อพิพาทเรื่องแนวเขตการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงานในพื้นที่ทับซ้อนที่จำแนกฯ ป่าเขาใหญ่ พื้นที่หมู่ที่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ต่อมาได้มีการลงตรวจสอบพื้นที่ร่วมกัน 3 หน่วยงาน คือ กรมแผนที่ทหาร ส.ป.ก. และ อส.
เมื่อวันที่ 18 ก.พ.67
โดยกรมแผนที่ทหารจะดำเนินการสำรวจเส้นแนวเขตของทั้งสองหน่วยงานให้มีความถูกต้อง ชัดเจน ซึ่งต้องใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ คาดว่าจะเสร็จนั้น ในการนี้ส.ป.ก.จึงขอความร่วมมือมายังท่านเพื่อโปรดแจ้งสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ขอให้ยุติการปฏิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าว จนกว่าจะได้ข้อสรุปเรื่องเส้นแนวเขตที่ชัดเจนเสียก่อน”
โดยท้ายหนังสือ ได้ลงชื่อนายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก.
เรื่องนี้ หากพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องกับการปักหมุด ส.ป.ก.ล้ำที่ดินเขาใหญ่ และมีขบวนการจ้องงาบที่ดินเขาใหญ่ซึ่งมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลจริง จะต้องถูกลงโทษและดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
และต้องสาวไปให้ถึงไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังว่ามีใครอีกบ้าง ไม่ใช่แค่ย้ายออกไปแน่ๆ
2. ที่มาของเรื่องโดยสรุป
เริ่มจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯเขาใหญ่ตรวจพบพื้นที่บุกรุกแผ้วถางป่า มีการปรับดินปลูกต้นมะม่วง
ตรวจสอบพื้นที่พบหลักหมุด ส.ป.ก. แต่ไม่พบคนกระทำผิด
เจ้าหน้าที่จึงติดกล้องดักถ่ายสัตว์จับภาพเคลื่อนไหว ปรากฏว่า เจอคนเข้ามารดน้ำต้นมะม่วง จึงแสดงตัวเข้าจับกุม
แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าว อ้างว่าที่ดินได้มาถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ซึ่ง 1 ในนั้น แสดงตัวเป็นเจ้าของที่ดิน โดยเจ้าหน้าที่อุทยานประหลาดใจว่าในเขตอุทยานเขาใหญ่ อยู่ๆ มีหมุดของ ส.ป.ก. มาปักแนวเขตและจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก.ได้อย่างไร
นายกิติศักดิ์ พรหมพินิจ ผู้ใหญ่บ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ให้ข้อมูลว่า ส.ป.ก. จะประกาศชื่อผู้มีสิทธิ์ได้ที่ทำกินในเขต ส.ป.ก. 3 ชื่อ ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่ใช่คนในหมู่บ้าน ไม่รู้เป็นใครมาจากไหน
ทีมพญาเสือ เดินปูพรมเข้าตรวจสอบ พบหมุดของ ส.ป.ก.ปักในเขตอุทยานฯเขาใหญ่มากถึง 27 หมุด
และยังมีป้ายประกาศแสดงความเป็นเจ้าของ มีรูป เอกสารสิทธิ ส.ป.ก. ชัดเจน มีชื่อ เจ้าของสิทธิ์ และ ชื่อ เจ้าหน้าที่ลงนามด้วย
ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ สั่งให้เจ้าหน้าที่รื้อถอนหลักหมุดเขต ส.ป.ก 27 หมุด เสาหลักเขต 5 ต้น และ รื้อถอนต้นมะม่วงที่เพิ่งปลูก 20 ต้น พร้อมทำบันทึกการตรวจยึด แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อสืบสวนสอบสวนและนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี
ตลอดเส้นทางที่เดินถอนหมุด ส.ป.ก. พบร่องรอยของช้าง และกระทิงตลอดทาง เป็นเหตุให้ยิ่งสงสัยว่า จะมีใครกล้ามาทำกินในพื้นที่นี้ได้
ยิ่งกว่านั้น ทีมพญาเสือตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์ของสำนักจัดการแผนที่และสารบบที่ดิน พบว่า มีการกำหนดพื้นที่สำหรับการปฏิรูปที่ดิน (เส้นสีเขียวที่ตีผังในแผนที่) มากถึง 2,933 ไร่
โดยมีการตีเป็นรูปแปลงเพื่อออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ถึง 42 แปลง เนื้อที่ประมาณ 972 ไร่
และยังพบรายชื่อบุคคลผู้ได้รับคัดเลือกให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ไม่ใช่ผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก ซึ่งไม่เข้าข่ายการเป็นเกษตรกร
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ให้สัมภาษณ์กับเพจข่าวอีจัน ระบุว่า
“ขอฝากถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ หรือผู้บริหารของกระทรวงฯ ว่า ตามนโยบายการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด หากเป็นเกษตรผู้ที่ได้ทำกินและประกอบอาชีพเกษตรกรจริงก็ไม่ได้ขัดข้องแต่อย่างใด แต่หากเป็นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ซึ่งมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินของราษฎร ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 มาตรา 64 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 121 อยู่แล้ว ตามเงื่อนไขที่กรมฯ กำหนด
แต่ในขณะนี้กลับพบการออกผังแปลง ส.ป.ก. ภายในเขตป่าอนุรักษ์ที่มีสภาพป่าสมบูรณ์ ไม่มีบุคคลใดเข้าไปใช้ประโยชน์ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าในหลายพื้นที่ จึงขอให้ผู้บริหารของทั้งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กำหนดนโยบายในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ให้ชัดเจน ในประเด็นการประกาศกำหนดเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์และการกำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน
โดยในเรื่องนี้อาจมองได้ 2 มุม คือ การเข้าใจกันผิดพลาด หรือเป็นการกระทำโดยทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐเองในการออกเอกสาร ส.ป.ก. ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งมีสภาพเป็นป่าสมบูรณ์
ขอให้ผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ได้ตรวจสอบการดำเนินงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ที่ดำเนินการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่าเป็นการกระทำโดยทุจริตของเจ้าหน้าที่หรือไม่? ต้องหาความจริงมาให้ได้”
3. ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ยืนยันว่า ต้องยึดตามหลักกฎหมาย โดยกรมแผนที่ทหาร เป็นเจ้าภาพในการเดินหน้าแบ่งเขตแนวที่ดินของรัฐ หรือ วันแมพ เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าพื้นที่ข้อพิพาทอยู่ในเขตกรมอุทยาน หรือเขตปฏิรูปที่ดิน พร้อมทั้งนำภาพถ่ายทางอากาศมาประกอบ โดยเฉพาะหลักสภาพความเป็นจริง เนื่องจากการจัดสรรที่ดินต้องมีกรอบและหลักการที่ชัดเจน ซึ่งพื้นที่ที่เป็นรอยต่อระหว่างกรมอุทยานฯ และ ส.ป.ก. หากจัดสรรให้กับชาวบ้าน ปัญหาความรับผิดชอบก็ไม่พ้นรัฐบาล เช่น กรณีสัตว์ป่าบุกรุกที่ทำกินของชาวบ้าน ซึ่งในความคิดของตน ไม่ควรจัดสรรพื้นที่แบบนี้ให้ชาวบ้าน และเสี่ยงที่ชาวบ้านจะรุกล้ำพื้นที่ของกรมอุทยาน ตนในฐานะประธานคณะกรรมการจัดสรรการปฏิรูปที่ดิน จะตั้งกรอบออกเป็นแนวทางการจัดสรรที่ดิน โดยจะระบุเอาไว้ว่า พื้นที่ตรงไหนที่เป็นเขตรอยต่อกับกรมอุทยานห้ามนำมาจัดสรร ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาโดยยั่งยืน และจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี แต่ขณะนี้ทั้ง 2 กระทรวงเห็นตรงกัน รอกรมแผนที่ทหารชี้ขาด ซึ่งถ้าพิสูจน์ทราบว่าเป็นพื้นที่ของ ส.ป.ก. แล้ว จะทำเป็นป่าชุมชน ไม่จัดสรรให้ทำกิน
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในการออก ส.ป.ก. โดย เลขา ส.ป.ก. ได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา เพื่อความสบายใจของคณะกรรมการสอบสวน โดยตอนนี้อยู่ระหว่างสอบสวน ยังไม่ได้ระบุความผิด แต่หากมีความผิดจริงก็ไม่ละเว้น เพราะถือว่าประพฤติชั่วร้ายแรง และเป็นความผิดอาญาตามมาตรา 157 รวมถึงวินัยร้ายแรงถึงขั้นไล่ออก
4. ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวสำนักอุทยานฯ ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทราบและพิจารณาดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในข้อกฎหมาย และการรังวัด การกำหนดรูปแปลง ส.ป.ก.4-01 แล้ว พร้อมแจ้งความต่อ สภ.หมูสี กับเจ้าหน้าที่พนักงานฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในกรณีที่มีผู้ลงนาม ผู้เขียนแผนที่ ผู้ตรวจเอกสารรับรองสิทธิ ส.ป.ก.4-01 และบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วย และล่าสุดในที่ประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าจังหวัดนครราชสีมา (คปป.จ.นม.) ได้มีมติร่วมกันให้ ส.ป.ก. จ.นครราชสีมา หยุดกระทำการใดๆ ในบริเวณพื้นที่พิพาท และให้ดำเนินการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน
นายชัยวัฒน์ย้ำว่า ตนพบหลักหมุด ส.ป.ก. ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงทำหนังสือให้รื้อถอนหมุดออกไป ช่วงเดือนต.ค. 2566 จากนั้นช่วงปีใหม่ มีบุคคลถางป่า และพบปักหมุด ส.ป.ก.ในเขตอุทยานจึงถอนหมุดไปแจ้งความที่สภ.หมูสี นอกจากนี้ยังพบ ส.ป.ก.วางผังแปลงเพิ่มอีก 2,933 ไร่ รวม 65 แปลง พร้อมชี้ว่า การแจกพื้นที่ ส.ป.ก. ทั่วไป ควรแจกให้ผู้ยากจนได้มีที่ทำกินจากป่ารกร้าง และตั้งข้อสังเกต คนที่จะได้ที่ดินจุดบริเวณเขาใหญ่ ต้องเป็นใครเพราะมูลค่าที่ดินสูงมาก ไร่ละหลายล้านบาท
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี