วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
อย่าใช้อิทธิพลหรืออำนาจมืด รุกอุทยานแห่งชาติ

ดูทั้งหมด

  •  

การใช้พื้นที่ดินเพื่อการเพาะปลูกหรือการเกษตรของราษฎรนั้นได้มีการกล่าวไว้นานแล้วตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยไม่ได้มีการระบุเรื่องของสิทธิในที่ดินอย่างชัดเจน ดังปรากฏในข้อความบนหลักศิลาจารึกหลักที่ ๑ ว่า “ป่าหมาก ป่าพลูทั่วเมืองทุกแห่ง ป่าพร้าวก็หลายในเมืองนี้ ป่าลางก็หลายในเมืองนี้ หมากม่วงก็หลายในเมืองนี้ หมากขามก็หลายในเมืองนี้ ใครสร้างได้ไว้แก่มัน” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการทำเรือกสวนไร่นานั้นสามารถจะทำได้

ส่วนการออกโฉนด ซึ่งเป็นคำภาษาเขมรและมีความหมายว่าหนังสือ เมื่อนำมารวมกับคำว่าที่ดิน จึงแปลว่าหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน ได้ถูกกล่าวไว้ในกฎหมายไทยยุคเก่าที่เรียกว่ากฎหมายตราสามดวง ในพระอัยการเบ็ดเสร็จ มาตราที่ ๓๖ ว่า “ถ้าผู้ใดก่นสร้างเลิกรั้งที่ไร่นาเรือกสวนนั้น ให้ไปบอกแก่เสนานายระวางนายอากร ไปดูที่ไร่นาเรือกสวนที่ก่นสร้างนั้นให้รู้มากแลน้อยด้วย ให้เสนานายระวางอากรเขียนโฉนดให้ไว้แก่ผู้เลิกรั้งก่นสร้างนั้น” แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการกำหนดเขตที่ดินที่ครอบครองและปักปั่นว่าเริ่มมีมาแต่โบราณแล้ว เพื่อการเก็บอากรของรัฐ


การครอบครองที่ดินในสมัยก่อนจึงเน้นเรื่องของผลผลิตที่เกิดขึ้น โดยถือว่าที่ดินเป็นที่ของกษัตริย์หรือผู้ปกครองแว่นแคว้นนั้น ประชาชนที่ต้องการทำประโยชน์จากการปลูกพืชผลหรือสร้างบ้านเรือนสามารถทำได้โดยบอกกล่าวแก่ผู้ครองเมือง และเมื่อหักล้างถางพงปลูกพืชไปได้เท่าไร  ก็ถือว่าพื้นที่นั้นเป็นของตน โดยต้องจ่ายภาษีอากรแก่ผู้ครองเมือง  แต่หากมีการโยกย้ายถิ่นฐานออกไป  ที่ดินนั้นก็จะกลับมาอยู่ภายใต้ผู้ครองเมืองเช่นเดิมและจัดสรรให้กับคนกลุ่มใหม่ที่เข้ามาทำมาหากินได้ เนื่องจากในครั้งนั้นมีที่ดินมากมาย จึงไม่มีการแก่งแย่งกันเหมือนในปัจจุบันนี้

การจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่ราษฎรในประเทศไทย ได้เริ่มต้นขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๔๔  เนื่องจากพระองค์ทรงเห็นว่าหากไม่จัดทำกำหนดอาณาเขตของที่ดินและแผนที่ของประเทศให้แน่นอนแล้ว อาจจะถูกชาติมหาอำนาจรุกล้ำเข้ามาได้ เช่น อังกฤษรุกล้ำเข้าไปในประเทศพม่าและยึดครองประเทศพม่า ส่วนฝรั่งเศสก็รุกล้ำเข้าไปทางอินโดจีนและปกครองหลายประเทศในแถบนั้น จึงได้มีการทำการสำรวจแผนที่อย่างจริงจังขึ้น โดยการจ้างนายเจมส์ เอฟแมคคาร์ธีมา รับราชการในฝ่ายกลาโหมตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๖๒๔   และในปีต่อมาสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้ปรึกษากับนายแมคคาร์ธีจัดตั้งโรงเรียนฝึกทำแผนที่ขึ้น เพื่อให้คนไทยทำแผนที่เองเป็น มีการแต่งตั้งนายแมคคาร์ธีให้เป็นเจ้ากรมแผนที่ออกสำรวจภูมิประเทศของไทยพร้อมกับคณะของคนไทยตั้งแต่นั้น

ขณะเดียวกันฝรั่งเศสก็ได้ส่งคณะสำรวจ มาสำรวจภูมิประเทศของประเทศไทยโดยเฉพาะทางภาคตะวันออกของประเทศ  และในที่สุดก็เกิดเหตุการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ ก่อน ทำให้ไทยซึ่งยังกำหนดอาณาเขตประเทศด้านนั้นได้ไม่ชัดเจน ต้องสูญเสียดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงไป

ก่อนที่จะมีการทำโฉนด แบบใหม่ ในปีพ.ศ  ๒๔๔๔ ใบสำคัญการครอบครองที่ดินมีหลายแบบ คือโฉนดตราแดง โฉนดตราจอง ใบเหยียบย่ำ โฉนดสวนและโฉนดป่า โดยตราแดงเป็นหนังสือการครองที่ดินได้ ๑๐ ปี ออกให้ในหัวเมืองคือกรุงเก่า อ่างทอง สุพรรณบุรีและลพบุรี ใบตราจองเป็นหนังสือการครอบครองที่ดินได้ ๓ ปี ใบเหยียบย่ำเป็นใบให้ครอบครองที่ดินเพียง ๑ ปี เป็นเอกสารที่มีปัญหามากสุดเพราะไม่มีรูปแบบชัดเจน ง่ายต่อการปลอมแปลง มีการออกซ้ำซ้อนและเป็นคดีความกันมาก

การจัดทำโฉนดครั้งแรกเริ่มโดยเจ้าหน้าที่จัดทำแผนที่ระวาง  ให้เจ้าของที่ดิน มานำชี้เขตที่ดินของตนร่วมกับเจ้าหน้าที่ แล้วปักหลักเขตพร้อมทั้งออกโฉนดที่ดินใหม่ให้  โดยการยกเลิกหนังสือการถือครองที่ดินเดิม โฉนดใหม่นี้จัดพิมพ์โดยกรมแผนที่

โฉนดที่ดินฉบับแรกในรูปแบบใหม่นั้นเป็นโฉนดของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเกิดขึ้นเมื่อข้าหลวงออกทำโฉนดแผนที่เมืองกรุงเก่า และขณะนั้นพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินประทับแรม ณ พระราชวังบางปะอิน  เจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ได้นำโฉนดที่จัดทำขึ้นจากการตรวจวัดที่ดินเรียบร้อยแล้วขึ้นทูลเกล้าฯถวายรวม ๕ ฉบับ และมีของกำนัลบ้านวัดยมอีก ๑ ฉบับ  ซึ่งพระองค์ได้พระราชทานให้แก่เจ้าของที่ดินโดยพระหัตถ์เป็นปฐมฤกษ์พร้อมๆ กับที่ข้าหลวงเกษตรได้ถวายโฉนดสำหรับที่ดินของพระองค์ในขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ ๒๔๔๔  ณ พระที่นั่งวโรภาสพิมาน พระราชวังบางปะอิน เป็นโฉนดที่ดินหมายเลข ๑ ที่ออกโดยกระทรวงเกษตรตราธิการ

โฉนดหมายเลข ๑ นั้นมีเนื้อที่ ๙๑ ไร่เศษ อยู่ที่บ้านวัดยม ตำบลบ้านแป้งอำเภอพระราชวัง(บางปะอิน) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในที่สุด ส.ป.ก. ได้รับโอนมาจากกระทรวงการคลัง เพื่อการปฏิรูปที่ดินเมื่อปีพ.ศ ๒๕๓๓ เป็นที่ดินแปลงหนึ่ง จำนวน ๔๔ ไร่เศษ โดยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานแก่ส.ป.ก. เพื่อการปฏิรูปที่ดินให้เกษตรกรเช่าทำประโยชน์รวม ๑๖ แปลง โดยมีอัตราค่าเช่าเพียงไร่ละ ๓๒ บาทต่อปี อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น โดยที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินส.ป.ก. ผู้เช่าที่ดินสามารถจะอยู่ทำกินได้ชั่วลูกหลานแต่จะไม่มีกรรมสิทธิ์ที่ดิน ซื้อขายกันมิได้

เมื่อ ๒- ๓ สัปดาห์ที่ผ่านมานี้มีข่าวซึ่งถือเป็นข่าวสำคัญและมีการรับรู้ของประชาชนทั่วทั้งประเทศ  คือเรื่องการบุกรุกที่ดินซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และยังเป็นปัญหาอยู่จนถึงวันนี้ว่า ในที่สุดแล้วการบุกรุกที่ดังกล่าวจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ที่มีผู้ร่วมในกระบวนการอยู่หลายฝ่ายและหลายคน และที่สำคัญอาจมีผู้บริหารบ้านเมืองมีส่วนรู้เห็นด้วย

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการดูแลอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งการป้องกันไม่ให้มีผู้บุกรุกเข้ามาใช้ พื้นที่อุทยานอย่างผิดกฎหมาย ได้ออกมาแถลงว่ามีการบุกรุกอุทยานแห่งชาติ โดยอ้างว่าพื้นที่บุกรุกนั้นเป็นพื้นที่ส.ป.ก.ซึ่งสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมได้ออกหนังสือรับรองสิทธิ์ให้กับผู้ที่มีคุณสมบัติในการที่จะได้ครอบครองที่ดินดังกล่าว เพื่อการเกษตรไปบางส่วน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะถูกกฎหมาย โดยผู้อำนวยการฯได้อ้างอิงถึงเรื่องเขตอุทยานแห่งชาตินั้นได้มีการกำหนดไว้ชัดเจน ตามพระราชกฤษฎีกาปีพุทธศักราช ๒๕๐๕

ในขณะที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมก็อ้างว่าที่ดินดังกล่าวมีการถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ส.ป.ก.ตามพระราชบัญญัติฉบับซึ่งออกเมื่อปี ๒๕๑๘ และแก้ไขล่าสุดเมื่อปี ๒๕๓๒ ปัญหาจึงมีว่า คำกล่าวของฝ่ายใดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของแนวเขตของพื้นที่  ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นมีพื้นที่บางส่วนซึ่งได้ออกส.ป.ก.แล้ว เป็นพื้นที่คร่อมอยู่ระหว่างเขตที่ส.ป.ก. กล่าวอ้างและเขตอุทยานแห่งชาติตามแนวที่ถูกกำหนดไว้เดิม ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน ถือว่าเป็นการกระทำการบุกรุกอุทยานแห่งชาติและผิดกฎหมายด้วย

นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมแผนที่ทหารบกเป็นผู้สำรวจแนวเขตที่เป็นปัญหาให้ชัดเจนโดยใช้แผนที่ One Map จากข้อมูลขณะนี้พบว่าระหว่างแนวเขตของอุทยานแห่งชาติและแนวเขตที่ของส.ป.ก. นั้น มีแนวเขตอีกแนวเขต ๑ ซึ่งอยู่ระหว่าง ๒ พื้นที่นี้ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นเขตกันชน พบว่าพื้นที่ดินที่ถูกบุกรุกนั้น อยู่คร่อมระหว่างเขตกันชนกับเขตอุทยานแห่งชาติอย่างแน่นอน  ทำให้การแก้ปัญหายังไม่อาจจะมีข้อสรุปที่ชัดเจน และเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณา ๒ ประเด็น

ประเด็นแรกคือเรื่องของแนวเขตว่าแนวเขตของอุทยานแห่งชาติถูกต้องหรือของสำนักงานพื้นที่ส.ป.ก. ถูกต้อง  ส่วนประเด็นที่ ๒ คือ กระบวนการออกใบส.ป.ก. ว่าเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากมีการชี้แจงจากผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานแห่งชาติว่า เมื่อตรวจรายชื่อของผู้ที่ครอบครองใบส.ป.ก. ใน พื้นที่ที่เป็นประเด็นปัญหานั้น มีรายชื่อของผู้มีอิทธิพลและอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ไม่น่าจะมีคุณสมบัติของผู้ที่ควรได้รับใบส.ป.ก. อยู่ด้วย

รัฐบาลชุดปัจจุบัน ได้มีความพยายามที่จะเข้าถึงประชาชนเป็นด้วยนโยบายประชานิยมหลายรูปแบบ แต่ก็ยังไม่เป็นเป็นรูปธรรมชัดเจน ขณะเดียวกันก็ยังสร้างปัญหาเกี่ยวกับประเด็นข้อกฎหมาย ซึ่งดูเหมือนว่าทำให้กฎหมายบางฉบับ หมดความศักดิ์สิทธิ์ในการบังคับใช้  ดังเช่นกรณีของนักโทษชั้น ๑๔ ซึ่งทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหายเป็นอย่างมาก การที่รัฐบาลได้รับทราบเรื่องการบุกรุกที่อุทยานแห่งชาติ และเกิดปัญหาระหว่างหน่วยงานและกระทรวงต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยยึดหลักการที่ถูกต้องและเป็นจริง ไม่เห็นแก่หน้าผู้มีอิทธิพล นักการเมือง หรือใครก็ตามที่มีส่วนได้เสียในพื้นที่ดังกล่าวเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อธำรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายอันพึงมีในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
12:52 น. ปลุกพลัง ‘กรรมการชุมชนรุ่นใหม่’ Up Skill จัดตั้งกองทุนเสริมความเข้มแข็ง
12:43 น. แฉเหลี่ยมเขมร คนไทยเกือบหมื่นติดด่านโดนเขมรทยอยจับเข้าคุก
12:40 น. กองทัพซัดระบอบฮุนเซน ก่อปัญหาชายแดน ย้ำไทยยึดหลักสากล ปกป้องอธิปไตย
12:36 น. หยิ่น–วอร์ เปิดฉากคริสต์มาสแรกของ Central Park กับต้น ‘The Velvet Pine’
12:36 น. สพฉ. ผนึกภาคี จัด ‘CPR on the Beach’ สร้างอาสาฉุกเฉินชุมชน
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 12-18 ธ.ค.68
หนาวมาแน่! มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จ่อถล่มอีสาน เหนือ-ใต้รับมือฝนตก-คลื่นสูง
(คลิป) สีหศักดิ์ย้ำ! กัมพูชา มีทางเลือกแค่ 2 ทาง
ในหลวง พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกฯ-นายกสภาจุฬาฯ นำ คณะผู้บริหารเฝ้าฯ
เขมรหน้าแหกคาบ้าน! โพสต์ชวน'ลาว-เมียนมา-มาเลย์'มาสู้ไทย แต่เจอคอมเมนต์สวนกลับหงายเงิบ
ดูทั้งหมด
ขณะที่มีศึกนอก อย่าให้ศึกในทำร้ายประเทศ
‘ธนาธร-พิธา’กับสงครามเขมร
การสร้างสังคมไทยให้เป็นประชาธิปไตย โดยผ่านการปฏิรูประบบและกระบวนการกฎหมาย 5 อวสาน
จบเมื่อไร?
ตอบโต้ป้องกันตนเอง อย่างได้สัดส่วน ไม่ใช่มัดมือ-มัดเท้าตัวเองแบบโง่ๆ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กองทัพซัดระบอบฮุนเซน ก่อปัญหาชายแดน ย้ำไทยยึดหลักสากล ปกป้องอธิปไตย

นายกฯเรียก สมช.ถกด่วน รับรายงานสายลับเขมร-ทหารรับจ้างแทรกซึมไทย

สื่อเขมรตีข่าว! พระกัมพูชา เรียกร้อง คณะสงไทย ช่วยบอกกองทัพ รัฐบาลหยุดยิง

วอลเลย์บอลชิง! 'บิว'ลุย4X100-เช็คโปรแกรมซีเกมส์

ภท.คึกคัก เปิดรับสมัคร สส. วันแรก บ้านใหญ่มาตามนัด กลุ่มสุชาติ-วราวุธ-เอกนัฏมาครบ

'โอ๊ค-ภรรยา' เข้าเยี่ยม 'ทักษิณ' พูดคุยเรื่องหลานๆ-สุขภาพโดยรวม

  • Breaking News
  • ปลุกพลัง ‘กรรมการชุมชนรุ่นใหม่’ Up Skill จัดตั้งกองทุนเสริมความเข้มแข็ง ปลุกพลัง ‘กรรมการชุมชนรุ่นใหม่’ Up Skill จัดตั้งกองทุนเสริมความเข้มแข็ง
  • แฉเหลี่ยมเขมร คนไทยเกือบหมื่นติดด่านโดนเขมรทยอยจับเข้าคุก แฉเหลี่ยมเขมร คนไทยเกือบหมื่นติดด่านโดนเขมรทยอยจับเข้าคุก
  • กองทัพซัดระบอบฮุนเซน ก่อปัญหาชายแดน ย้ำไทยยึดหลักสากล ปกป้องอธิปไตย กองทัพซัดระบอบฮุนเซน ก่อปัญหาชายแดน ย้ำไทยยึดหลักสากล ปกป้องอธิปไตย
  • หยิ่น–วอร์ เปิดฉากคริสต์มาสแรกของ Central Park กับต้น ‘The Velvet Pine’ หยิ่น–วอร์ เปิดฉากคริสต์มาสแรกของ Central Park กับต้น ‘The Velvet Pine’
  • สพฉ. ผนึกภาคี จัด ‘CPR on the Beach’ สร้างอาสาฉุกเฉินชุมชน สพฉ. ผนึกภาคี จัด ‘CPR on the Beach’ สร้างอาสาฉุกเฉินชุมชน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่มีศึกนอก อย่าให้ศึกในทำร้ายประเทศ

ขณะที่มีศึกนอก อย่าให้ศึกในทำร้ายประเทศ

15 ธ.ค. 2568

เงินดิจิทัล หายนะทางสังคม

เงินดิจิทัล หายนะทางสังคม

8 ธ.ค. 2568

คุณและโทษของน้ำ มนุษย์จะจัดการอย่างไร

คุณและโทษของน้ำ มนุษย์จะจัดการอย่างไร

1 ธ.ค. 2568

ความสัมพันธ์ไทย-จีน‘เราเป็นครอบครัวเดียวกัน’

ความสัมพันธ์ไทย-จีน‘เราเป็นครอบครัวเดียวกัน’

24 พ.ย. 2568

เขมร ยังจะต้องไว้ใจกันอีกหรือ

เขมร ยังจะต้องไว้ใจกันอีกหรือ

17 พ.ย. 2568

จากอั้งยี่ มาสู่แก๊งสแกมเมอร์

จากอั้งยี่ มาสู่แก๊งสแกมเมอร์

10 พ.ย. 2568

พระองค์ผู้ทรงเป็นวีรสตรี มหาราชินี

พระองค์ผู้ทรงเป็นวีรสตรี มหาราชินี

3 พ.ย. 2568

ผู้บริหารบ้านเมืองต้องไม่ทุจริต คดโกง

ผู้บริหารบ้านเมืองต้องไม่ทุจริต คดโกง

27 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved