วันพุธ ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
อาวุธมีไว้ป้องกันประเทศ ไม่ใช่ปากนักการเมือง

ดูทั้งหมด

  •  

การต่อสู้เพื่อป้องกันตัวเองหรือเพื่อการเอาชนะเป็นสัญชาตญาณของสัตว์ทุกประเภท ซึ่งรวมถึงมนุษย์ ซึ่งยกตัวเองว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ ด้วยเหตุที่ว่ามีสมองที่น่าจะมีการคิดและสติปัญญาที่เหนือกว่าสัตว์อื่น จึงทำให้มีวิธีการและพัฒนาการต่อสู้มาโดยตลอด ที่สำคัญยิ่งคือการประดิษฐ์อาวุธที่ใช้ในการต่อสู้

มนุษย์ตั้งแต่ยุคสมัยหิน ก็ได้มีการประดิษฐ์อาวุธเพื่อนำมาใช้แล้ว จากหลักฐานทางโบราณคดีที่ปรากฏชัดเจนจากหลุมขุดค้นต่างๆ ที่ได้พบขวานหิน รวมทั้งแท่งหินปลายเรียวแหลมที่น่าจะเป็นหอกที่ใช้ในการต่อสู้ ที่ในอดีตอาจจะใช้ในการล่าสัตว์ด้วย ซึ่งนั่นคือยุคเริ่มต้นของการทำลายล้างชีวิต แต่เป็นไปเพื่อความอยู่รอด เพื่อนำมาเป็นอาหาร


หอก น่าจะเป็นพัฒนาการที่สำคัญในการจุดประกายให้มนุษย์ประดิษฐ์คิดค้น อาวุธที่เรียกว่ามีพิสัยในการทำลายล้าง จากการใช้ปาหรือใช้เขวี้ยงเพื่อใช้ในการ ล่าสัตว์หรือฆ่าศัตรูซึ่งนั่นก็คือปืน จนกระทั่งกลายมาเป็นจรวดพิสัยไกล ซึ่งสามารถยิงข้ามทวีปไปทำลายล้างศัตรู ที่อยู่ห่างออกไปนับเป็นระยะทางหลายๆ พันกิโลเมตรได้

พัฒนาการและการประดิษฐ์อาวุธที่เรียกโดยรวมว่าปืนนั้น เป็นผลมาจากการที่ มีการค้นพบสิ่งที่เรียกว่าดินปืนซึ่งค้นพบครั้งแรกในประเทศจีน และถูกนำมาใช้ ให้เกิดการขับเคลื่อนของกระสุน โดยปืนได้ถูกประดิษฐ์เป็นครั้งแรกในสมัยราชวงศ์ซ่ง ซึ่งถือว่าเป็นอาวุธร้ายแรง และต่อมาก็มีวิวัฒนาการมาเป็นปืนใหญ่ อันทำให้ราชวงศ์ซ่งสามารถเอาชนะสงคราม  อยู่มาได้เป็นระยะเวลามากกว่า ๑๐๐ ปี

จนมาถึงราชวงศ์หมิง ก็ได้มีการประดิษฐ์อาวุธปืนลูกซอง เพื่อใช้เป็นอาวุธประจำตัวของทหารจีนในยุคนั้น และเป็นที่มาของอาวุธที่เรียกว่าปืนไฟซึ่งกลายมาเป็นปืนเล็กยาว ในที่สุด

ปืนเล็กยาวชนิดหนึ่งที่มีการพูดถึงกันมากคือปืนเล็กยาวที่เรียกว่าปืนคาบศิลา ซึ่งมีวิวัฒนาการมาจากปืนคาบชุดซึ่งยังต้องใช้การจุดไฟให้ติดที่สายฉนวนก่อนที่จะลามมาถึงดินปืนที่อยู่ตรงก้นกระบอก  ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ดีหากมีความชื้นหรือฝนตกเป็นต้น การทำงานของปืนคาบศิลานั้น ใช้วิธีบรรจุดินปืนที่ตำให้เป็นผงเล็กๆ  กรอกเข้าทางปากกระบอก แล้วใช้นุ่นหรือผ้าทำเป็นหมอนเล็กๆ อัดเข้าไป ก่อนที่จะใส่ลูกปืนซึ่งมักเป็นลูกเหล็กกลมแล้วใช้หมอนเล็กๆ อุดกั้นอีกชั้นหนึ่ง  เพื่อกันไม่ให้กระสุนหลุดตกออกมา เวลาที่จะยิงจะใช้วิธีให้นกสับซึ่งส่วนปลายติดหินคาบศิลา กระแทกกับถ้วยโลหะซึ่งบรรจุดินดำไว้ที่อยู่ตรงโคนปืน ทำให้เกิดประกายไฟวิ่งเข้าไปทางรูท้ายลำกล้อง เกิดการลุกไหม้ในดินปืนและระเบิดกระสุนออกไป  ปืนชนิดนี้มีเอกสารของจีนซึ่งเขียนยืนยันไว้ในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ ๑๔ ว่าได้ถูกเริ่มนำมาใช้ตั้งแต่ช่วงเวลานั้น

ในประวัติศาสตร์ของชาติไทยได้ระบุไว้ว่าปืนไฟหรือปืนคาบศิลานี้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกเมื่อปีพุทธศักราช ๒๐๘๑ ในสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช โดยในครั้งนั้นพม่าได้ยกทัพมาตีเมืองเชียงคาน ซึ่งเป็นหัวเมืองชายแดนทางทิศตะวันตกของกรุงศรีอยุธยา  สมเด็จพระไชยราชาธิราชได้ทรงยกทัพเพื่อไปตีเอาเมืองกลับคืน โดยพระองค์ได้นำทัพไปเอง และมีทหารอาสาชาวโปรตุเกสซึ่งมีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนไปร่วมรบด้วย ทำให้ได้รับชัยชนะอย่างง่ายดาย ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๐๘๙ จึงมีการตั้งกองอาสาโปรตุเกส เพื่อทำหน้าที่สู้รบด้วยปืนไฟ ตลอดมา รวมทั้งมีการสอนให้ชาวสยามใช้ปืนดังกล่าวด้วย

ในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลที่ ๒ ได้มีการจัดซื้ออาวุธปืนคาบศิลาจากโปรตุเกสกว่า ๔๐๐ กระบอก และในสมัยรัชกาลที่ ๔ คาดว่ามีปืนคาบชุดและคาบศิลาในกองทัพไทยมากกว่า ๑,๐๐๐ กระบอก เมื่อเข้าสู่สมัยรัชกาลที่ ๕ วิวัฒนาการของปืนมีมากยิ่งขึ้น ในปีพุทธศักราช ๒๔๔๒ กระทรวงกลาโหม จึงได้จัดซื้อปืนไรเฟิลระบบลูกเลื่อนยี่ห้อเมาเซอร์และกระสุนปืนเล็กยาวเพื่อมาใช้สำหรับกองทัพไทยรุ่นใหม่  ซึ่งเน้นในการปกป้องประเทศชาติ  มากกว่าการที่จะไปรุกรานทำสงครามกับชาติอื่น

เรื่องของปืนคาบศิลานั้น มีปืนกระบอกหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงและถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นปืนที่มีความสำคัญมาก นั่นคือพระแสงปืนต้นข้ามลำน้ำสะโตง เป็นปืนที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์ที่ ๑๘ ของอาณาจักรอยุธยา และเป็นพระมหากษัตริย์ที่เป็นมหาราชองค์ที่ ๒ ของชาติไทยได้ใช้ในการสู้รบในระหว่างที่ยกทัพกลับจากกรุงหงสาวดี โดยได้นำชาวไทย ที่ถูกกวาดต้อนไปยังพม่ากลับคืนมาด้วย และถูกกองทัพของพม่าซึ่งนำโดยแม่ทัพชื่อสุรกรรมาติดตามมา หลังจากข้ามแม่น้ำสะโตงมาแล้ว ก็ได้ให้ทำลายสะพานข้ามแม่น้ำสะโตง แต่กองทัพของพม่าก็ยังจะพยายามติดตามข้ามมา สมเด็จพระนเรศวรได้ใช้พระแสงปืนต้นซึ่งเชื่อกันว่ายาวประมาณ 9 ศอก พาดประทับบนแท่นยิงแล้วยิงข้ามแม่น้ำสะโตงซึ่งกว้างพอสมควร ถูกสุรกรรมาแม่ทัพพม่าตายบนคอช้าง หลังจากนั้นเมื่อพระนเรศวรเสด็จถึงเมืองแกลงจึงได้กระทำพิธีหลั่งทักษิโณทก เพื่อประกาศอิสรภาพว่ากรุงศรีอยุธยาไม่ขึ้นกับอาณาจักรหงสาวดีอีกต่อไป

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการพิจารณาลงมติรับรองเรื่องงบประมาณแผ่นดินจำนวนประมาณ ๓.๔๘ ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นงบของปี ๒๕๖๗ ที่มีความล่าช้ายังไม่ได้นำมาใช้ อันมีผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินให้มีความเจริญก้าวหน้าและเสริมฐานะทางเศรษฐกิจของชาติ  เพราะงบจำนวนไม่น้อยเป็นงบที่ใช้ในการพัฒนาบ้านเมือง แต่เพราะความขัดแย้ง ของพรรคการเมืองทำให้การนำงบดังกล่าวมาใช้ต้องล่าช้าออกไปเป็นอย่างมาก ซึ่งโดยปกติงบประมาณประจำปีควรจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมของทุกๆ ปี หรือถ้าจะล่าช้าไปกว่านั้นก็เป็นระยะเวลาเพียงแค่ ๑-๒ เดือนเท่านั้น

ในการประชุมดังกล่าว เห็นได้ชัดเจนว่าพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งมีพรรคของคนที่อ้างว่าเป็นคนรุ่นใหม่มีความคิดก้าวไกล ได้ตั้งหน้าตั้งตาในการที่จะคัดค้านการนำงบประมาณในหลายหมวดมาใช้เพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้า โดยกล่าวอ้างว่ามีการตั้งงบไว้มากเกินไป และอาจจะเป็นช่องทางของการทุจริต ซึ่งเป็นความคิดที่คับแคบ เพราะโดยปกติแล้วการใช้งบประมาณแผ่นดินต้องไปตามกฎระเบียบที่มีอยู่หากมีการใช้ที่ไม่เป็นไปตามกฎระเบียบหรือฉ้อฉล ก็สามารถที่จะดำเนินการตามกฎหมายเพื่อเอาผิดต่อผู้ที่คิดค้นทรยศโกงกินเงินของแผ่นดินได้

พรรคฝ่ายค้านได้มีความพยายามอย่างมาก ในการใช้วาจาและอารมณ์ผสมผสานกันโต้แย้ง ไม่เห็นด้วย รวมทั้งขอตัดงบประมาณในหลายหมวด แต่ที่ชัดเจนก็คือหากเป็นงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการทหาร ก็จะถูกอภิปรายเพื่อขอตัดงบ เป็นกรณีพิเศษเสมอไป ไม่ว่าจะเป็นงบของกองทัพหรือเหล่าทัพใด รวมทั้งงบของกอ.รมน. ซึ่งมีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการที่จะปกป้องและรักษาความสงบของชาติไม่ใช่เฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น

ส่วนหนึ่งของงบทางทหารนั้น เป็นการตั้งงบเพื่อขอใช้ในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่ใช้ในการป้องกันประเทศ หรืออย่างน้อยที่สุดก็เพื่อแสดงศักยภาพให้กับประเทศเพื่อนบ้านได้เห็นว่า หากมีการรุกรานกองทัพไทยก็มีความพร้อมในการที่จะต่อสู้เพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน

การที่เคยมีนักการเมืองของพรรคการเมืองฝ่ายค้านบางคนออกมาพูดว่า ถ้ามีสงครามเกิดขึ้นกองทัพไทยก็ไม่มีวันสู้รบเอาชนะกองทัพของชาติใหญ่ๆ ได้ ซึ่งแน่นอนถึงแม้จะเป็นเรื่องที่อาจจะถูกต้อง แต่ก็ถือว่าเป็นการหยามเกียรติของกองทัพของประเทศชาติ ที่เป็นแผ่นดินเกิดของนักการเมืองทั้งหลายเหล่านั้น ซึ่งนิยมการใช้ปากเป็นอาวุธในการประหารใครก็ตามที่เขาไม่เห็นด้วยโดยตลอดมา

งบประมาณของกองทัพจึงถูกตัดลดออกไปเป็นจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาวุธยุทโธปกรณ์ทั่วไป หรือยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ อาทิ เรือฟริเกตซึ่งเป็นเรือที่มีความสำคัญในยุทธนาวีที่กองทัพเรือเป็นผู้เสนอขอเพียงแค่ ๑ ลำก็ถูกตัดออก อันเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่ง

ทหารคือกองกำลังที่มีหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ และเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่อดีตกาล  ชาติไทยของเราอยู่รอดมาจนถึงวันนี้ เพราะมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงปกครองแผ่นดินโดยธรรมและกองทัพที่เข้มแข็ง ไม่ใช่อยู่รอดมาได้เพราะมีนักการเมือง โดยเฉพาะนักการเมืองส่วนหนึ่งที่มีแต่วาจาสามหาวโป้ปดมดเท็จ และวาจาทั้งหลายเหล่านั้นไม่สามารถจะใช้เป็นอาวุธในการปกป้องประเทศชาติได้เลยแม้แต่น้อย

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
17:10 น. (คลิป) อย่ามัวแต่นั่ง 'หนักแผ่นดิน' ช่วยแก้ปัญหาประชาชนบ้าง!
17:02 น. ‘วัชระ’ย้อนเกล็ด‘นิพนธ์’ บอก‘ปชป.’หมดสิ้น แล้วทำไม‘ลูกชาย’ยังสังกัดอยู่
16:51 น. โลเคชั่นปัง! 'นนกุล'ประกาศขายที่ดินย่านพระราม 3
16:48 น. หนุ่มใหญ่หลอนยา! อีโต้ฟันยาย80ปีดับ โดนรุมประชาทัณฑ์อ่วม
16:46 น. โฆษก ทบ.แจงปมคลิปปะทะคารม'ทหารไทย-กัมพูชา'ช่องอานม้า
ดูทั้งหมด
หมอดังเผยเคยไม่เข้าใจ 'เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์' ทรงงานแม้พระอาการประชวร ก่อนป่วยมะเร็งเองจึงซึ้งพระทัย
บิ๊กเนม'ปชป.'ร่วมวงเพียบ!! 'คุณหญิงกัลยา'ตั้ง'พรรคไทยก้าวใหม่' พร้อมตั้ง'สุชัชวีร์'นั่งหัวหน้าฯ
'ปราชญ์ สามสี'ผ่าเกมตระกูล'ชินวัตร-ฮุน' ทำไมคนหนึ่งเงียบ อีกคนดิ้น ที่แท้!!
‘สม รังสี’เปิดไทม์ไลน์แฉ‘แรงจูงใจ’เบื้องหลัง‘ฮุน เซน’เล่นเกมกฎหมายถอดสัญชาติกัมพูชา
'อ.พนัส'ข้องใจ'อิ๊งค์'ผิดจริยธรรมข้อไหน บอกทหารไทยอยู่ตรงข้ามฝ่ายปชต.อยู่แล้ว
ดูทั้งหมด
เราสูญเสียโอกาสทางการศึกษามาแค่ไหน? เมื่อระบบถูกกัดกินด้วยก้อนเนื้อร้ายที่ชื่อว่าคอร์รัปชัน
นารีพิฆาตพระ
ความจริงกรณีบังคับโทษจำคุกนักโทษชั้น 14
บุคคลแนวหน้า : 9 กรกฎาคม 2568
ความไม่รู้สี่รู้แปดของ‘แพทองธาร’
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

(คลิป) อย่ามัวแต่นั่ง 'หนักแผ่นดิน' ช่วยแก้ปัญหาประชาชนบ้าง!

โลเคชั่นปัง! 'นนกุล'ประกาศขายที่ดินย่านพระราม 3

‘ภท.’เดินเกมขวางถอนร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ ‘ภราดร’ข้องใจเป็นดีลลับจาก‘คลิปเสียง’

อดอยากปากแห้ง! 3เขมรโอดกลับประเทศแล้วไม่มีเงินจะกิน ลอบมุดรั้วเข้าไทยหางานทำ

วอนโซเชียลหยุดแชร์! ‘กรมกิจการผู้สูงอายุ’ย้ำยังไม่มีการปรับเพิ่มเบี้ยคนชรา

หนุ่มใหญ่หลอนยา! อีโต้ฟันยาย80ปีดับ โดนรุมประชาทัณฑ์อ่วม

  • Breaking News
  • (คลิป) อย่ามัวแต่นั่ง \'หนักแผ่นดิน\' ช่วยแก้ปัญหาประชาชนบ้าง! (คลิป) อย่ามัวแต่นั่ง 'หนักแผ่นดิน' ช่วยแก้ปัญหาประชาชนบ้าง!
  • ‘วัชระ’ย้อนเกล็ด‘นิพนธ์’ บอก‘ปชป.’หมดสิ้น แล้วทำไม‘ลูกชาย’ยังสังกัดอยู่ ‘วัชระ’ย้อนเกล็ด‘นิพนธ์’ บอก‘ปชป.’หมดสิ้น แล้วทำไม‘ลูกชาย’ยังสังกัดอยู่
  • โลเคชั่นปัง! \'นนกุล\'ประกาศขายที่ดินย่านพระราม 3 โลเคชั่นปัง! 'นนกุล'ประกาศขายที่ดินย่านพระราม 3
  • หนุ่มใหญ่หลอนยา! อีโต้ฟันยาย80ปีดับ โดนรุมประชาทัณฑ์อ่วม หนุ่มใหญ่หลอนยา! อีโต้ฟันยาย80ปีดับ โดนรุมประชาทัณฑ์อ่วม
  • โฆษก ทบ.แจงปมคลิปปะทะคารม\'ทหารไทย-กัมพูชา\'ช่องอานม้า โฆษก ทบ.แจงปมคลิปปะทะคารม'ทหารไทย-กัมพูชา'ช่องอานม้า
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

7 ก.ค. 2568

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

30 มิ.ย. 2568

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

23 มิ.ย. 2568

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

16 มิ.ย. 2568

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

9 มิ.ย. 2568

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

2 มิ.ย. 2568

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

26 พ.ค. 2568

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

19 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved