วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันศุกร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
รัฐบาลต้องเปิดใจ แก้เศรษฐกิจตรงจุด อย่าสร้างปัญหาใหม่

ดูทั้งหมด

  •  

นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ยังปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีไว้พิจารณาแล้วก็ตาม

นับว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังเมตตาต่อนายกฯ เศรษฐา


สมัยอดีตนายกฯลุงตู่ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด

จึงนับเป็นโอกาสที่นายกฯเศรษฐาจะได้เร่งเครื่องทำงาน เพราะโอกาสการทำงาน ไม่ทราบว่าจะมียาวนานแค่ไหน

ถ้าเป็นฟุตบอล นายกฯเศรษฐาควรเร่งเครื่องทำงาน เหมือนเตะอยู่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

1. นายกฯ เศรษฐาให้สัมภาษณ์จากประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า วันจันทร์ที่ 27 พ.ค.นี้ เวลา 16.00 น.จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.ศก.)

โดยเรียกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาพูดคุยกัน เพื่อหามาตรการ หรือไอเดียต่างๆ ที่จะต้องทำ หลังตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรก โตแค่เพียง 1.5% ต่ำที่สุดในอาเซียน

นายกฯ เอ่ยปากว่า จะไม่คอยผลจากโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ที่ตามแผนจะเริ่มไตรมาสสี่ แต่ต้องเริ่มทำงานก่อน เพราะจีดีพีโตแค่ 1.5% ถ้าไม่มีภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เราก็จะตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย อันนี้น่าเป็นห่วง และยังมีอีกหลายเรื่อง ทั้งบัตรเครดิต หนี้เสีย และหนี้ครัวเรือน

เมื่อถามว่าจะมีโครงการระยะสั้นออกมากระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่?

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตรงนี้เป็นที่มาของการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจดังกล่าว ซึ่งต้องมานั่งคุยกัน และตนได้บอกทุกคนไปว่าเวลามาให้มีข้อมูล และมาด้วยใจที่เปิดกว้าง พร้อมกับไอเดีย ไม่ได้ให้มาเพื่อที่จะสั่งว่าต้องทำอะไร การประชุมครั้งนี้คงยังไม่มีโครงการอะไรออกมาเซอร์ไพรส์แน่นอน ต่อไปจะมีการประชุมทุกสัปดาห์ อีกทั้งยังมีการประชุมวงเล็ก ซึ่งตนอยากฟังความคิดเห็นของทุกคน จะมีทั้งภาคการค้าระหว่างประเทศ ภาคการเกษตร ภาคกฎหมาย ภาคนโยบายซึ่งต้องฟังทุกคน และมีข้อสรุปออกมา

2. นี่คือสิ่งที่เคยเรียกร้องและเสนอแนะต่อรัฐบาลมาแล้วหลายครั้ง

คือ อย่าไปรอหวังพึ่งโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ไตรมาสสี่

เพราะโครงการยังลูกผีลูกคน เงินจาก ธ.ก.ส.จะใช้ได้โดยไม่ผิดกฎหมายหรือไม่ ก็ยังไม่มีความชัดเจน

ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า แม้จะไม่ใช่ภาวะวิกฤตความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจภาพรวม แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีอาการออกมาจุด เช่น กำลังซื้อในระดับฐานราก เช่น ตลาดชาวบ้านเงียบเหงา ค่าครองชีพสูงขึ้นหนี้ครัวเรือนสูงต่อเนื่อง ความสามารถในการแข่งขันของหลายภาคธุรกิจลดลง การลงทุนของภาครัฐยังล่าช้า ฯลฯ

เพราะฉะนั้น ขอสนับสนุนให้รัฐบาลเร่งเครื่องอย่างเต็มที่

และขอให้ “ทำด้วยใจเปิดกว้าง” อย่างแท้จริง

บางอย่าง หากทำมาตรการเหมือนสมัยลุงตู่ทำแล้วจะเกิดผลดีรัฐบาลเศรษฐาก็ไม่ควรจะกลัวว่าจะเสียเชิง เสียรังวัด

ยกตัวอย่าง เช่น โครงการคนละครึ่ง เพื่อรักษาระดับกำลังซื้อ จะมีผลดีต่อตลาดฐานราก ตลาดชาวบ้านโดยตรง (การบริโภคภาพรวมยังขยายตัว)

หรือการแจกจ่ายเงินสำหรับกลุ่มเปราะบางเฉพาะกลุ่ม เป็นต้น

สำคัญ คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาอย่างรวดเร็วนั้น จะต้องแม่นยำ ตรงจุดตรงกลุ่มที่มีปัญหา

3. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สะท้อนชัดเจนถึงภาพรวมเศรษฐกิจ

ระบุว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2567 ขยายตัวที่ 1.5% YoY

แม้ว่าจะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด แต่ก็ถือขยายตัวอยู่ในระดับต่ำ

ปัจจัยกดดันหลัก มาจากการลงทุนภาครัฐที่หดตัวลงอย่างมากเนื่อง จากการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้าถึงเดือนเม.ย. 2567 ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังภาคก่อสร้างและภาคอุตสาหกรรม โดยภาคการผลิตอุตสาหกรรมยังคงชะลอลงต่อเนื่อง

ผลผลิตทางการเกษตรออกสู่ตลาดน้อยกว่าช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า จากผลกระทบของสภาพอากาศที่ร้อนจัดและภัยแล้ง

การส่งออกไทยหดตัวจากปีก่อนหน้า เนื่องจากปัจจัยฐานสูง ประกอบกับการสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันของสินค้าไทยที่ส่งผลให้การส่งออกไทยฟื้นตัวช้า

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2567 มาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีแนวโน้มทยอยขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้น (YoY) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้

โดยได้รับแรงหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณจากทางภาครัฐที่มีทิศทางเร่งตัวขึ้นหลังจากงบประมาณปี 2567 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเม.ย. 2567 นอกจากนี้ การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยปีนี้ที่ 36 ล้านคน

การส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า แต่เนื่องจากผลจากปัจจัยฐานที่อยู่ในระดับสูงของปีก่อนหน้าคงมีลดลง ส่งผลให้การส่งออกไทยมีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้ในไตรมาสที่เหลือของปีนี้

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2567 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดคาดการณ์การขยายตัวเติบโตจาก 2.8% มาอยู่ที่ 2.6% จากปัจจัยดังต่อไปนี้

1. การลงทุนและการบริโภคภาครัฐมีแนวโน้มหดตัวมากกว่าที่เคยคาดแม้จะมีการเร่งเบิกจ่ายในช่วงที่เหลือของปีนี้ แต่คาดว่าจะไม่เร่งตัวมากพอที่จะชดเชยการหดตัวในช่วงไตรมาส 1/2567 ได้

2. การส่งออกไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยคาด ตามทิศทางการค้าโลกท่ามกลางภาคการผลิตทั่วโลกที่ยังอ่อนแรง ประกอบกับมีความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าและและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ อีกทั้งการส่งออกไทยเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างจากความสามารถทางการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดโลกที่ลดลง ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดคาดการณ์ลงจาก 2.0% เป็น 1.5%

3. ภาคการผลิตยังมีแนวโน้มอ่อนแรงต่อเนื่อง จากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอลงและอุปสงค์นอกประเทศที่ฟื้นตัวช้า ประกอบกับการเข้ามาตีตลาดของสินค้าราคาถูกจากจีน

4. ผลผลิตทางการเกษตรได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่รุนแรง สภาพอากาศที่ร้อนจัดได้ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรในไตรมาส 1/2567 และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางเกษตรบางส่วนในไตรมาส 2/2567

5. ติดตามผลกระทบหากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาททั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ และอาจมีผลต่อไปยังการจ้างงานและการลงทุนในประเทศ

6. มาตรการกระตุ้นทางการคลังในประเทศยังมีความไม่แน่นอน โดยแม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่ภาครัฐอาจออกมาตรการกระตุ้นในช่วงปลายปีนี้ แต่ผลต่อเศรษฐกิจไทยยังคงมีความไม่แน่นอน

4. การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันทั่วประเทศ

หนึ่งในปัจจัยที่ต้องจับตามอง คือ การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันทั่วประเทศ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า หากมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันทั่วประเทศและมีผลบังคับใช้จริงในเดือนต.ค.2567 คาดว่า จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อไปยังการจ้างงาน การลงทุน รวมถึงส่งผลให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ ผลบวกต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคจากแรงงานที่ได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นอาจมีไม่มากนัก

การปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่ใช้แรงงานจำนวนมากให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่จ่ายค่าจ้างขั้นต่ำในสัดส่วนสูง เช่น ภาคเกษตร งานในครัวเรือนส่วนบุคคล และที่พักและบริการด้านอาหาร

ขณะที่ผลบวกต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคจากแรงงานที่ได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้น อาจมีไม่มากนัก ท่ามกลางค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

อีกทั้ง เนื่องจากแรงงานในประเทศที่อิงค่าแรงขั้นต่ำมีสัดส่วนเป็นแรงงานต่างด้าวค่อนข้างมาก ซึ่งแรงงานต่างด้าวเหล่านี้มีแนวโน้มโอนเงินค่าจ้างที่ได้รับกลับไปยังประเทศตนเองราว 30-40%  ของรายได้ต่อเดือน ส่งผลให้ภาพรวมแรงงานที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายในการบริโภคในประเทศน้อยกว่าค่าจ้างที่ได้รับเพิ่มขึ้น (Marginal Propensity to Consume : MPC น้อยกว่า 1) ส่งผลให้ผลบวกต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคในปี 2567 คาดว่าจะมีไม่มากนัก

“...โดยสรุป แม้การปรับเพิ่มขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะทำให้แรงงานมีรายได้เพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็มีความเสี่ยงจากราคาสินค้าและบริการที่จะเพิ่มขึ้นตามรวมถึงการถูกเลิกจ้างงานในบางกิจการ

โดยก่อนหน้านี้มีสินค้าและบริการบางรายการปรับไปรอค่าจ้างที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น

ซึ่งหากภาครัฐไม่ได้มีมาตรการคู่ขนานในการควบคุมดูแลราคาสินค้าและบริการร่วมด้วย ทำให้ท้ายที่สุดแล้วความสามารถในการใช้จ่ายของแรงงานคงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก

และอาจต้องเผชิญความเสี่ยงถูกเลิกจ้างจากผู้ประกอบการรายใหญ่ที่อาจมีการหันไปประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น

หรือบางกิจการ โดยเฉพาะ SMEs ที่อาจแบกรับต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นไม่ไหวจนต้องปิดตัวลง” – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

นี่คืออีกหนึ่งประเด็นปัญหาใหญ่ ที่รัฐบาลและนายกฯเศรษฐาจะต้องเปิดใจพิจารณาอย่างจริงจัง มิใช่มุ่งแต่ผลทางการเมืองเฉพาะหน้า

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
09:05 น. ศึกชิง‘หัวหน้าพรรค ปชป.’ใครคุมเกม-ได้เปรียบ วัดใจโหวตเตอร์เลือก‘เพื่อใคร’?
09:02 น. 'เจนี่'โพสต์ชี้แจงแล้ว หลัง'เป้ย ปานวาด'ถอนตัวจากซีรีส์
08:30 น. ไม่ได้ดึง มันตึงเอง! ส่องความน่ารัก‘กิง-ก่อง-แก้ว’ตัวตึงแห่งสวนสัตว์เขาเขียว
08:28 น. ซิ่งกระบะขนต่างด้าว! หลบหนีจับกุมกลางดึก หวิดพุ่งชนรถตำรวจ
08:27 น. ‘ทัพเรือ’พร้อมยกระดับ ลุยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง-กลบคูเลต ‘เขมร’รุกล้ำ 3 พื้นที่‘ชำราก’
ดูทั้งหมด
น้ำตาคลอทั้งโซเชียล! 'เกลือ'ตั้งคำถาม'ทำไมทหารพรานต้องใส่ชุดดำ' ได้คำตอบสุดสะเทือนใจ
'เพลง ชนม์ทิดา'ร่ายความในใจ หลังถูกจับตาความสัมพันธ์'เป๊ก เศรณี'
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงกายกรรมจากจีน
'เป๊ก-เพลง'ไปต่อหรือพอแค่นี้? วงในเมาท์แรงหลังจัดตั้งครม. รู้เรื่อง!
'พุทธ อภิวรรณ'ชวนจับตา!!! คาดมีข่าวใหญ่ คนดังมีลูกศิษย์ทั่วฟ้าเมืองไทย ถูกสอบโยงผู้หญิง-เงินบริจาค
ดูทั้งหมด
ในความต่างระหว่างสีผิว
นักการเมืองปล้นอำนาจประชาชนฉีกทิ้ง รธน.
บุคคลแนวหน้า : 16 กันยายน 2568
เปิดด่านเพื่อ...?
เตโชเบาะสะแก ซำแต
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'เจนี่'โพสต์ชี้แจงแล้ว หลัง'เป้ย ปานวาด'ถอนตัวจากซีรีส์

ไม่ได้ดึง มันตึงเอง! ส่องความน่ารัก‘กิง-ก่อง-แก้ว’ตัวตึงแห่งสวนสัตว์เขาเขียว

ซิ่งกระบะขนต่างด้าว! หลบหนีจับกุมกลางดึก หวิดพุ่งชนรถตำรวจ

'เป้ย ปานวาด'ปล่อยโฮกลางวงสื่อ เผยเหตุผลถอนตัวจากซีรีส์

บีบหัวใจ! ชาย63ทำงานกู้ชีพ ร่ำไห้เก็บศพหลานชาย จยย.แหกโค้งเสียชีวิต

ร่องมรสุมพาดผ่าน! ‘ทั่วไทย’ฝนตกหนัก-‘กทม.’ฟ้าคะนอง70%ของพื้นที่

  • Breaking News
  • ศึกชิง‘หัวหน้าพรรค ปชป.’ใครคุมเกม-ได้เปรียบ วัดใจโหวตเตอร์เลือก‘เพื่อใคร’? ศึกชิง‘หัวหน้าพรรค ปชป.’ใครคุมเกม-ได้เปรียบ วัดใจโหวตเตอร์เลือก‘เพื่อใคร’?
  • \'เจนี่\'โพสต์ชี้แจงแล้ว หลัง\'เป้ย ปานวาด\'ถอนตัวจากซีรีส์ 'เจนี่'โพสต์ชี้แจงแล้ว หลัง'เป้ย ปานวาด'ถอนตัวจากซีรีส์
  • ไม่ได้ดึง มันตึงเอง! ส่องความน่ารัก‘กิง-ก่อง-แก้ว’ตัวตึงแห่งสวนสัตว์เขาเขียว ไม่ได้ดึง มันตึงเอง! ส่องความน่ารัก‘กิง-ก่อง-แก้ว’ตัวตึงแห่งสวนสัตว์เขาเขียว
  • ซิ่งกระบะขนต่างด้าว! หลบหนีจับกุมกลางดึก หวิดพุ่งชนรถตำรวจ ซิ่งกระบะขนต่างด้าว! หลบหนีจับกุมกลางดึก หวิดพุ่งชนรถตำรวจ
  • ‘ทัพเรือ’พร้อมยกระดับ ลุยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง-กลบคูเลต ‘เขมร’รุกล้ำ 3 พื้นที่‘ชำราก’ ‘ทัพเรือ’พร้อมยกระดับ ลุยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง-กลบคูเลต ‘เขมร’รุกล้ำ 3 พื้นที่‘ชำราก’
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อายัดบัญชีเหวี่ยงแห  ทางแก้ (จบ)

อายัดบัญชีเหวี่ยงแห ทางแก้ (จบ)

16 ก.ย. 2568

อายัดบัญชีเหวี่ยงแห  แต่ใครซื้อทองคำตุนในกัมพูชา

อายัดบัญชีเหวี่ยงแห แต่ใครซื้อทองคำตุนในกัมพูชา

15 ก.ย. 2568

คดีอาญา ป่วยทิพย์ชั้น 14  คุกหนักกว่า 1 ปี แน่นอน

คดีอาญา ป่วยทิพย์ชั้น 14 คุกหนักกว่า 1 ปี แน่นอน

12 ก.ย. 2568

นายกฯไทยคนแรกที่ติดคุก  จากคดีทุจริตประพฤติมิชอบ

นายกฯไทยคนแรกที่ติดคุก จากคดีทุจริตประพฤติมิชอบ

11 ก.ย. 2568

ทักษิณติดคุกจากกรรมเก่า  และเสี่ยงถูกแจ้งข้อหาใหม่เพิ่มจากปมชั้น14

ทักษิณติดคุกจากกรรมเก่า และเสี่ยงถูกแจ้งข้อหาใหม่เพิ่มจากปมชั้น14

10 ก.ย. 2568

คืนชีพ ‘คนละครึ่ง’  แต่ต้อง ‘ไม่หยุดแค่คนละครึ่ง’

คืนชีพ ‘คนละครึ่ง’ แต่ต้อง ‘ไม่หยุดแค่คนละครึ่ง’

9 ก.ย. 2568

ทักษิณอัสดง  เพื่อไทยฝ่ายค้าน

ทักษิณอัสดง เพื่อไทยฝ่ายค้าน

8 ก.ย. 2568

นักการเมืองแย่งอำนาจกัน  อย่าบังอาจกดดันเบื้องสูง

นักการเมืองแย่งอำนาจกัน อย่าบังอาจกดดันเบื้องสูง

5 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved