วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันศุกร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
รัฐบาลต้องเปิดใจ แก้เศรษฐกิจตรงจุด อย่าสร้างปัญหาใหม่

ดูทั้งหมด

  •  

นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ยังปฏิบัติหน้าที่ได้ต่อไป หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีไว้พิจารณาแล้วก็ตาม

นับว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังเมตตาต่อนายกฯ เศรษฐา


สมัยอดีตนายกฯลุงตู่ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด

จึงนับเป็นโอกาสที่นายกฯเศรษฐาจะได้เร่งเครื่องทำงาน เพราะโอกาสการทำงาน ไม่ทราบว่าจะมียาวนานแค่ไหน

ถ้าเป็นฟุตบอล นายกฯเศรษฐาควรเร่งเครื่องทำงาน เหมือนเตะอยู่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

1. นายกฯ เศรษฐาให้สัมภาษณ์จากประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า วันจันทร์ที่ 27 พ.ค.นี้ เวลา 16.00 น.จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.ศก.)

โดยเรียกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาพูดคุยกัน เพื่อหามาตรการ หรือไอเดียต่างๆ ที่จะต้องทำ หลังตัวเลขจีดีพีไตรมาสแรก โตแค่เพียง 1.5% ต่ำที่สุดในอาเซียน

นายกฯ เอ่ยปากว่า จะไม่คอยผลจากโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ที่ตามแผนจะเริ่มไตรมาสสี่ แต่ต้องเริ่มทำงานก่อน เพราะจีดีพีโตแค่ 1.5% ถ้าไม่มีภาคบริการที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เราก็จะตกอยู่ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย อันนี้น่าเป็นห่วง และยังมีอีกหลายเรื่อง ทั้งบัตรเครดิต หนี้เสีย และหนี้ครัวเรือน

เมื่อถามว่าจะมีโครงการระยะสั้นออกมากระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่?

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตรงนี้เป็นที่มาของการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจดังกล่าว ซึ่งต้องมานั่งคุยกัน และตนได้บอกทุกคนไปว่าเวลามาให้มีข้อมูล และมาด้วยใจที่เปิดกว้าง พร้อมกับไอเดีย ไม่ได้ให้มาเพื่อที่จะสั่งว่าต้องทำอะไร การประชุมครั้งนี้คงยังไม่มีโครงการอะไรออกมาเซอร์ไพรส์แน่นอน ต่อไปจะมีการประชุมทุกสัปดาห์ อีกทั้งยังมีการประชุมวงเล็ก ซึ่งตนอยากฟังความคิดเห็นของทุกคน จะมีทั้งภาคการค้าระหว่างประเทศ ภาคการเกษตร ภาคกฎหมาย ภาคนโยบายซึ่งต้องฟังทุกคน และมีข้อสรุปออกมา

2. นี่คือสิ่งที่เคยเรียกร้องและเสนอแนะต่อรัฐบาลมาแล้วหลายครั้ง

คือ อย่าไปรอหวังพึ่งโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ไตรมาสสี่

เพราะโครงการยังลูกผีลูกคน เงินจาก ธ.ก.ส.จะใช้ได้โดยไม่ผิดกฎหมายหรือไม่ ก็ยังไม่มีความชัดเจน

ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า แม้จะไม่ใช่ภาวะวิกฤตความมั่นคงของระบบเศรษฐกิจภาพรวม แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่มีอาการออกมาจุด เช่น กำลังซื้อในระดับฐานราก เช่น ตลาดชาวบ้านเงียบเหงา ค่าครองชีพสูงขึ้นหนี้ครัวเรือนสูงต่อเนื่อง ความสามารถในการแข่งขันของหลายภาคธุรกิจลดลง การลงทุนของภาครัฐยังล่าช้า ฯลฯ

เพราะฉะนั้น ขอสนับสนุนให้รัฐบาลเร่งเครื่องอย่างเต็มที่

และขอให้ “ทำด้วยใจเปิดกว้าง” อย่างแท้จริง

บางอย่าง หากทำมาตรการเหมือนสมัยลุงตู่ทำแล้วจะเกิดผลดีรัฐบาลเศรษฐาก็ไม่ควรจะกลัวว่าจะเสียเชิง เสียรังวัด

ยกตัวอย่าง เช่น โครงการคนละครึ่ง เพื่อรักษาระดับกำลังซื้อ จะมีผลดีต่อตลาดฐานราก ตลาดชาวบ้านโดยตรง (การบริโภคภาพรวมยังขยายตัว)

หรือการแจกจ่ายเงินสำหรับกลุ่มเปราะบางเฉพาะกลุ่ม เป็นต้น

สำคัญ คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะออกมาอย่างรวดเร็วนั้น จะต้องแม่นยำ ตรงจุดตรงกลุ่มที่มีปัญหา

3. ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สะท้อนชัดเจนถึงภาพรวมเศรษฐกิจ

ระบุว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2567 ขยายตัวที่ 1.5% YoY

แม้ว่าจะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด แต่ก็ถือขยายตัวอยู่ในระดับต่ำ

ปัจจัยกดดันหลัก มาจากการลงทุนภาครัฐที่หดตัวลงอย่างมากเนื่อง จากการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้าถึงเดือนเม.ย. 2567 ส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังภาคก่อสร้างและภาคอุตสาหกรรม โดยภาคการผลิตอุตสาหกรรมยังคงชะลอลงต่อเนื่อง

ผลผลิตทางการเกษตรออกสู่ตลาดน้อยกว่าช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า จากผลกระทบของสภาพอากาศที่ร้อนจัดและภัยแล้ง

การส่งออกไทยหดตัวจากปีก่อนหน้า เนื่องจากปัจจัยฐานสูง ประกอบกับการสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันของสินค้าไทยที่ส่งผลให้การส่งออกไทยฟื้นตัวช้า

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2567 มาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง โดยส่วนหนึ่งได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

ทั้งนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีแนวโน้มทยอยขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้น (YoY) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้

โดยได้รับแรงหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณจากทางภาครัฐที่มีทิศทางเร่งตัวขึ้นหลังจากงบประมาณปี 2567 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนเม.ย. 2567 นอกจากนี้ การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปีนี้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยปีนี้ที่ 36 ล้านคน

การส่งออกมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า แต่เนื่องจากผลจากปัจจัยฐานที่อยู่ในระดับสูงของปีก่อนหน้าคงมีลดลง ส่งผลให้การส่งออกไทยมีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้ในไตรมาสที่เหลือของปีนี้

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2567 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดคาดการณ์การขยายตัวเติบโตจาก 2.8% มาอยู่ที่ 2.6% จากปัจจัยดังต่อไปนี้

1. การลงทุนและการบริโภคภาครัฐมีแนวโน้มหดตัวมากกว่าที่เคยคาดแม้จะมีการเร่งเบิกจ่ายในช่วงที่เหลือของปีนี้ แต่คาดว่าจะไม่เร่งตัวมากพอที่จะชดเชยการหดตัวในช่วงไตรมาส 1/2567 ได้

2. การส่งออกไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่เคยคาด ตามทิศทางการค้าโลกท่ามกลางภาคการผลิตทั่วโลกที่ยังอ่อนแรง ประกอบกับมีความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าและและปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ อีกทั้งการส่งออกไทยเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างจากความสามารถทางการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดโลกที่ลดลง ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดคาดการณ์ลงจาก 2.0% เป็น 1.5%

3. ภาคการผลิตยังมีแนวโน้มอ่อนแรงต่อเนื่อง จากอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอลงและอุปสงค์นอกประเทศที่ฟื้นตัวช้า ประกอบกับการเข้ามาตีตลาดของสินค้าราคาถูกจากจีน

4. ผลผลิตทางการเกษตรได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่รุนแรง สภาพอากาศที่ร้อนจัดได้ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรในไตรมาส 1/2567 และคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางเกษตรบางส่วนในไตรมาส 2/2567

5. ติดตามผลกระทบหากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาททั่วประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ และอาจมีผลต่อไปยังการจ้างงานและการลงทุนในประเทศ

6. มาตรการกระตุ้นทางการคลังในประเทศยังมีความไม่แน่นอน โดยแม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่ภาครัฐอาจออกมาตรการกระตุ้นในช่วงปลายปีนี้ แต่ผลต่อเศรษฐกิจไทยยังคงมีความไม่แน่นอน

4. การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันทั่วประเทศ

หนึ่งในปัจจัยที่ต้องจับตามอง คือ การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันทั่วประเทศ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า หากมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันทั่วประเทศและมีผลบังคับใช้จริงในเดือนต.ค.2567 คาดว่า จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อไปยังการจ้างงาน การลงทุน รวมถึงส่งผลให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ ผลบวกต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคจากแรงงานที่ได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นอาจมีไม่มากนัก

การปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่ใช้แรงงานจำนวนมากให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจที่จ่ายค่าจ้างขั้นต่ำในสัดส่วนสูง เช่น ภาคเกษตร งานในครัวเรือนส่วนบุคคล และที่พักและบริการด้านอาหาร

ขณะที่ผลบวกต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคจากแรงงานที่ได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้น อาจมีไม่มากนัก ท่ามกลางค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

อีกทั้ง เนื่องจากแรงงานในประเทศที่อิงค่าแรงขั้นต่ำมีสัดส่วนเป็นแรงงานต่างด้าวค่อนข้างมาก ซึ่งแรงงานต่างด้าวเหล่านี้มีแนวโน้มโอนเงินค่าจ้างที่ได้รับกลับไปยังประเทศตนเองราว 30-40%  ของรายได้ต่อเดือน ส่งผลให้ภาพรวมแรงงานที่ได้รับค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้นมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายในการบริโภคในประเทศน้อยกว่าค่าจ้างที่ได้รับเพิ่มขึ้น (Marginal Propensity to Consume : MPC น้อยกว่า 1) ส่งผลให้ผลบวกต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคในปี 2567 คาดว่าจะมีไม่มากนัก

“...โดยสรุป แม้การปรับเพิ่มขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำจะทำให้แรงงานมีรายได้เพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็มีความเสี่ยงจากราคาสินค้าและบริการที่จะเพิ่มขึ้นตามรวมถึงการถูกเลิกจ้างงานในบางกิจการ

โดยก่อนหน้านี้มีสินค้าและบริการบางรายการปรับไปรอค่าจ้างที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น

ซึ่งหากภาครัฐไม่ได้มีมาตรการคู่ขนานในการควบคุมดูแลราคาสินค้าและบริการร่วมด้วย ทำให้ท้ายที่สุดแล้วความสามารถในการใช้จ่ายของแรงงานคงไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก

และอาจต้องเผชิญความเสี่ยงถูกเลิกจ้างจากผู้ประกอบการรายใหญ่ที่อาจมีการหันไปประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น

หรือบางกิจการ โดยเฉพาะ SMEs ที่อาจแบกรับต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นไม่ไหวจนต้องปิดตัวลง” – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย

นี่คืออีกหนึ่งประเด็นปัญหาใหญ่ ที่รัฐบาลและนายกฯเศรษฐาจะต้องเปิดใจพิจารณาอย่างจริงจัง มิใช่มุ่งแต่ผลทางการเมืองเฉพาะหน้า

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
21:51 น. 'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
21:49 น. 'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
21:39 น. ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
21:22 น. 'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
21:19 น. 'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
ดูทั้งหมด
ขอบคุณ'คุณจ๋า'! ภรรยานายกฯอนุทิน เลือกใช้ 'กระเป๋า' ฝีมือคนไทยสู่สายตานานาชาติ
งานหมั้น'มายด์-พาย'สุดอบอุ่น! ตระกูล'ภิรมย์ภักดี'พร้อมหน้าต้อนรับสะใภ้คนใหม่
ปภ.เตือน 10 จังหวัดภาคกลาง-กทม. เฝ้าระวังเจ้าพระยาเพิ่มสูง เตรียมพร้อมขนของขึ้นที่สูง
ปิดตำนาน! ประกาศเลิกกิจการ 2 โรงเรียนดังย่านลาดพร้าว
'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์ไอจีล่าสุด! ประกาศสถานะชัดทำชาวเน็ตแห่คอมเมนต์
ดูทั้งหมด
(นัก) การเมืองไทย ไม่มี (คน) ดี
บุคคลแนวหน้า : 9 พฤศจิกายน 2568
ไทยแลนด์ : ดินแดนฟอกเงินเทา?
‘สุขภาพดี ด้วยวิถีนายแพทย์เฉก ธนะสิริ’
บทบรรณาธิการ : 9 พฤศจิกายน 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้

ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่

'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น

'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

(คลิป) 'ชูวิทย์'ชำแหละ! ศึกตำรวจล้างตำรวจ

ส่องความอลังการ! 'อียิปต์'เปิดพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังใช้เวลาก่อสร้างนาน20ปี

  • Breaking News
  • \'อ.เจษฎ์\'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้ 'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
  • \'ปราชญ์ สามสี\'ฟาด! \'พรรคส้ม\' ใช้ \'สองมาตรฐาน\' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค 'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
  • ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่ ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
  • \'กัน จอมพลัง\' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น 'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
  • \'กัมพูชา\'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ 'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ต่ออายุให้ไทยเป็นเจ้าภาพ โมโต จีพี  คุ้มหรือไม่? พิจารณายังไง?

ต่ออายุให้ไทยเป็นเจ้าภาพ โมโต จีพี คุ้มหรือไม่? พิจารณายังไง?

7 พ.ย. 2568

เดินหมากทีละตา  ลำดับความสำคัญ

เดินหมากทีละตา ลำดับความสำคัญ

6 พ.ย. 2568

อย. = อำนาจ และผลประโยชน์  ใครตรวจสอบ อย.?

อย. = อำนาจ และผลประโยชน์ ใครตรวจสอบ อย.?

5 พ.ย. 2568

เหยื่อจากขบวนการปลุกปั่นรายต่อไป

เหยื่อจากขบวนการปลุกปั่นรายต่อไป

4 พ.ย. 2568

ฝ่ายทำงานจริง  กับฝ่ายรอปั่นกระแส สร้างวาทกรรม

ฝ่ายทำงานจริง กับฝ่ายรอปั่นกระแส สร้างวาทกรรม

3 พ.ย. 2568

อย่ากลัว MOU แรร์เอิร์ธไทย

อย่ากลัว MOU แรร์เอิร์ธไทย

31 ต.ค. 2568

สันติภาพ ย่อมดีกว่าสงคราม  และต้องเป็นสันติภาพที่มีศักดิ์ศรี

สันติภาพ ย่อมดีกว่าสงคราม และต้องเป็นสันติภาพที่มีศักดิ์ศรี

30 ต.ค. 2568

ราคาทองคำปรับฐาน  วิกฤตหรือโอกาส?

ราคาทองคำปรับฐาน วิกฤตหรือโอกาส?

29 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved