วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
รัฐบาลต้องสร้างชาติให้ก้าวหน้าและปกป้องแผ่นดินนี้

ดูทั้งหมด

  •  

อาณาจักรสุโขทัย ได้รับการยอมรับว่าเป็นอาณาจักรแรกของชาติไทย  ก่อตั้งขึ้นในปีพุทธศักราช ๑๗๑๘  พระมหากษัตริย์พระองค์แรกของอาณาจักรซึ่งนับว่าเป็นพระองค์แรกของชาติไทยด้วยคือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ มีพระนามเต็มว่ากมรเตงอัญศรีอินทรบดินทราทิตย์ และพระนามเดิมคือพ่อขุนบางกลางหาว ซึ่งเดิม ปกครองเมืองบางยาง

การสร้างอาณาจักรสุโขทัยได้นั้น พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ต้องทำศึกสงครามโดยร่วมกับพ่อขุนผาเมือง เจ้าเมืองราด กระทำรัฐประหารขอมสบาดโขลญลำพง ซึ่งปกครองแผ่นดินบริเวณนั้นอยู่ โดยพ่อขุนบางกลางหาวตีเมืองศรีสัชนาลัยได้ และพ่อขุนผาเมืองตีเมืองสุโขทัยได้ แต่ก็ได้ยกให้พ่อขุนบางกลางหาวครองเมืองสุโขทัย รวมทั้งมอบพระขรรค์ไชยศรีให้กับพ่อขุนบางกลางหาวด้วย นำมาซึ่งการสถาปนากรุงสุโขทัยเป็นราชธานี นับเป็นต้นราชวงศ์พระร่วง


อาณาจักรสุโขทัย มีความเข้มแข็งขึ้นตามลำดับ พระมหากษัตริย์พระองค์ต่อมาคือพ่อขุนบาลเมืองผู้เป็นพระราชโอรสของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ และหลังจากสวรรคต พ่อขุนรามคำแหงผู้เป็นพระอนุชาก็ขึ้นครองราชย์แทน ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๑๘๒๒ เป็นต้นมา

พ่อขุนรามคำแหงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เป็นมหาราชพระองค์แรกของชาติ ทรงเป็นผู้ที่มีความสามารถในด้านการรบและมีความกล้าหาญเป็นอย่างยิ่ง โดยพระองค์ได้เคยตามเสด็จพระราชบิดาคือพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ในการออกไปรบ กับพ่อขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด ที่ยกทัพมารุกรานเมืองศรีสัชนาลัยที่อยู่ภายใต้การปกครองของกรุงสุโขทัย โดยทรงไสช้างเข้าขวางช้างของพ่อขุนสามชนที่กำลังจะได้เปรียบพ่อขุนศรีอินทราทิตย์และได้เข้าต่อสู้แทนจนเอาชนะได้ ทัพของพ่อขุนสามชนแตกพ่ายไป ในขณะนั้นพระองค์มีพระชนมายุเพียง ๑๙ พรรษา

เมื่อขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ ทรงได้แสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถในการปกครองบ้านเมืองหลายประการ ทั้งเรื่องการต่อสู้ปกป้องบ้านเมือง การขยายอาณาเขต การเศรษฐกิจ การค้า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การศาสนาซึ่งล้วนแต่ทำให้ประชาราษฎร์อยู่อย่างเป็นสุข และที่สำคัญยิ่งที่สุดคือการประดิษฐ์อักษรไทยเมื่อปีพ.ศ.๑๘๒๖

ในส่วนของการขยายอาณาเขต ต้องกล่าวว่าอาณาจักรสุโขทัยในยุคของพระองค์มีอาณาเขตที่กว้างใหญ่ไพศาล โดยทางทิศเหนือ ได้ขยายจนถึงแคว้นล้านนารวมทั้งลำปาง แพร่ น่าน  เมืองปัว ข้ามฝั่งแม่น้ำโขง ไปหลวงพระบาง เวียงจันทน์ และเวียงคำในประเทศลาว

ด้านทิศตะวันตก ก็ขยายอาณาเขตจนครอบครองอาณาจักรมอญไว้ได้ทั้งหมด โดยได้มีการชุบเลี้ยง มะกะโท อำมาตย์เชื้อสายมอญผู้มีสติปัญญา ให้มารับราชการใกล้ชิด ซึ่งในที่สุดได้พาพระราชธิดาของพระองค์หลบหนีไป แต่พระองค์ก็มิได้เอาผิด และได้สนับสนุนให้มะกะโทได้เป็นใหญ่ครอบครองเมืองมอญ ได้กระทำพิธีราชาภิเษกและพระราชทานนามให้ว่าพระเจ้าฟ้ารั่ว และพระองค์ยังสามารถครอบครอง เมาะตะมะ และหงสาวดีด้วย

ทางด้านทิศใต้ หลักฐานตามหลักศิลาจารึกกล่าวว่าพระองค์ทรงขยายอาณาเขต ไปจดแหลมมาลายู ได้เมืองต่างๆ มาเกือบทั้งหมด ทั้งนครศรีธรรมราช มะละกา ทวาย ตลอดรวมไปถึงเมืองยะโฮ และเกาะสิงคโปร์ในปัจจุบันนี้

ในส่วนของภาคกลาง พระองค์ได้ขยายอาณาเขตครอบคลุมตั้งแต่พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ อู่ทอง เพชรบูรณ์ ศรีเทพ ลงไปถึง ราชบุรี เพชรบุรี ตะนาวศรี และเมืองอื่นๆ โดยรอบ ก่อนที่สามารถจะเอาชนะอาณาจักรขอม ซึ่งมีเมืองละโว้ หรือลพบุรีเป็นจุดศูนย์กลางได้ในที่สุด

ทางด้านทิศตะวันออก พระองค์ทรงยกทัพไปตีเขมรและครอบครองได้สำเร็จในปีพุทธศักราช ๑๘๔๒  โดยก่อนหน้านั้นได้ทรงสร้างสัมพันธไมตรีกับราชวงศ์หงวนของจีน เพื่อป้องกันมิให้จีนยกมารุกรานบริเวณดังกล่าว จึงกล่าวได้ว่า อาณาจักรสุโขทัยในสมัยของพ่อขุนรามคำแหงนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมาก

ในเรื่องเศรษฐกิจการค้า ซึ่งส่งผลถึงการทะนุบำรุงบ้านเมือง พระองค์ทรงสนับสนุน เรื่องการค้าพาณิชย์เป็นอย่างมาก โดยให้มีการยกเลิกการเก็บภาษีอากรและจังกอบ  เปิดโอกาสให้ผู้คนไปมาค้าขายได้สะดวกขึ้น ดังมีข้อความปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ ๑ ว่า “เพื่อนจะจูงวัวไปค้า ขี่ม้าไปขาย ใครจะใคร่ค้าช้างค้าใครจักใคร่ค้าม้าค้า ใครจะใคร่ค้าเงือนค้าทองค้า”  นอกจากนี้พระองค์ยังเสด็จไปประเทศจีนถึง ๒ ครั้ง เพื่อนำเอาช่างปั้นถ้วยชามมาฝึกสอนคนไทยให้รู้จักวิธีทำถ้วยชามเครื่องเคลือบดินเผา อันเป็นที่มาของเครื่องสังคโลก ที่มีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบันนี้ และทำให้มีชาวจีนเดินทางเข้ามาค้าขายที่กรุงสุโขทัยด้วยเช่นกัน

ด้านการศาสนา ต้องกล่าวว่าเป็นยุคที่ศาสนาพุทธมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก เพราะพระองค์ทรงเลื่อมใสศรัทธาในศาสนาพุทธ และยังให้คนไทยที่ได้ไปบวชเรียนตามลัทธิลังกาวงศ์ที่ประเทศศรีลังกา เมื่อกลับมาเมืองไทยได้เผยแพร่พระพุทธศาสนาที่เมืองนครศรีธรรมราช ก็ได้เดินทางไปพบ แล้วนิมนต์พระภิกษุนั้นให้มาเป็นพระสังฆราชอยู่ที่กรุงสุโขทัย เพื่อเผยแพร่ศาสนา เพื่อให้ราษฎรได้ใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข รวมทั้งยังได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากลังกาด้วย

ในเรื่องการปกครองนั้น พระองค์ทรงทำให้อานาประชาราษฎร์มีความเป็นอยู่อย่างเป็นสุข เพราะพระองค์จะทรงถือเสมือนว่าเป็นบิดาของราษฎรทั้งหลาย ดังข้อความในหลักศิลาจารึกที่ว่า “เมื่อชั่วพ่อกู กูบำเรอแก่พ่อกู กูได้ตัวเนื้อตัวปลา กูก็เอามาแก่พ่อกู กูได้หมากส้มหมากหวาน อันใดกินอร่อยดี กูเอามาแก่พ่อกู กูไปตีหนังวังช้างได้ กูเอามาแก่พ่อกู กูไปท่อบ้านท่อเมือง ได้ช้างได้งวง ได้ผัวได้นาง ได้เงินได้ทองกูเอามาแวนแก่พ่อกู” ทรงให้คำแนะนำสั่งสอนเช่นเดียวกับบิดาจะมีต่อบุตรโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ และหากราษฎรผู้ใดมีเรื่องจะร้องทุกข์ ก็อนุญาตให้เข้าเฝ้าได้ โดยให้มาสั่นกระดิ่งที่ติดไว้ที่ประตูพระราชวัง และพระองค์จะทรงรับเรื่องและพิจารณาตัดสินอย่างเป็นธรรม โดยจะเสด็จออกไปประทับที่พระแท่นศิลาอาสน์เพื่อตัดสินเรื่องราวต่างๆ และยังใช้พระแท่นนี้ให้เป็นที่นั่งของพระสงฆ์เพื่อสั่งสอนศาสนาให้ราษฎรด้วย

พ่อขุนรามคำแหงมหาราชจึงเป็นตัวอย่างของพระมหากษัตริย์ชาติไทยที่นอกจากจะทรงต่อสู้ทำศึกสงครามป้องกันบ้านเมืองและขยายอาณาเขตแล้ว ยังปกครองบ้านเมืองให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในทุกทาง และราษฎรได้อยู่อาศัยอย่างเป็นสุข สมกับชื่อของคำว่า สุโขทัย ซึ่งแปลว่า รุ่งอรุณแห่งความสุข

มาถึงการบริหารบ้านเมืองในยุคนี้ของประเทศไทย ที่กล่าวกันว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งให้ประชาชนมาเป็นผู้แทนราษฎรจัดตั้งรัฐสภา โดย ผู้แทนส่วนหนึ่งเป็นรัฐบาล มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บริหารสูงสุด

สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนจากการบริหารบ้านเมืองโดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็คือ เกือบตลอดระยะเวลา ๙๐ ปีที่ประเทศไทยปกครองโดยระบอบนี้ รัฐบาลที่เข้ามาในแต่ละยุค ยังไม่อาจจะสร้างความเจริญก้าวหน้าให้บ้านเมือง ตลอดจนทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมีสุขได้ถ้วนหน้าอย่างแท้จริง และยังมีนักการเมืองระดับผู้นำของประเทศตลอดจนผู้ที่มีสายสัมพันธ์ ได้กระทำการทุจริตประพฤติมิชอบไม่มากก็น้อยโดยเสมอมา จนประเทศไม่อาจจะมีความก้าวหน้าและถูกพัฒนาให้ทันสมัยได้อย่างแท้จริง

การบริหารของรัฐบาลในหลายยุค มุ่งเน้นนโยบายประชานิยม เพียงเพื่อหวังคะแนนเสียง มีเพียงน้อยครั้งที่จะคำนึงถึงการปรับโครงสร้างการบริหาร เพื่อการสร้างเศรษฐกิจที่มีความเชื่อมโยงตั้งแต่ระดับรัฐบาลลงไปถึงระดับของชุมชน อันจะทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข ในด้านการศึกษาก็มีความตกต่ำมาก โดยขณะนี้มีเด็กที่ต้องอยู่นอกระบบการศึกษามากกว่า ๑ ล้านคน จนน่าเป็นห่วงว่าอนาคตของชาติจะหาคนดีมาบริหารประเทศได้อย่างไร ตลอดจนสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชนก็ไม่ดีขึ้น  ต้องบอกเลยว่าเศรษฐกิจของชาติขณะนี้กำลังเข้าสู่อาการขั้นโคม่าจากการบริหารการเงินการคลังและงบประมาณที่ไม่มีแผนมี่ดีและไม่มีความชัดเจน ทำให้ดัชนีมวลรวมของประเทศตกต่ำมาโดยตลอด

ประชาชนคงต้องรอโดยไม่อาจคาดหวังได้ว่าเศรษฐกิจซึ่งผูกโยงกับความเป็นอยู่ของประชาชนจะดีขึ้นเมื่อไร แต่ประเด็นที่สำคัญมากขณะนี้คือความห่วงใยของประชาชนที่รัฐกำลังดำเนินการทางอ้อมให้มีการขายพื้นที่ของประเทศ ทั้งในรูปแบบของอาคารเช่าและที่ดินเพื่อการใช้สอย ที่ผลประโยชน์ส่วนใหญ่จะตกอยู่ในมือเจ้าของธุรกิจที่ดินและอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ๆเท่านั้น จนน่าเป็นห่วงว่าในที่สุดจะมีชาวต่างชาติถือครองแผ่นดินไทยและที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมากเกินที่จะนับ จนแผ่นดินนี้กลายเป็นของต่างชาติไปเรื่อยๆ แล้วชาวไทยที่จะอยู่ไปในอนาคตจะอยู่กันได้อย่างไร

รัฐบาลควรจะต้องดำเนินการทุกอย่างเพื่อปกป้องแผ่นดินของชาติ แผ่นดินที่พระมหากษัตริย์ในอดีตตั้งแต่สมัยอาณาจักรสุโขทัยได้อุทิศทั้งเลือดเนื้อและชีวิตหาไว้ให้ แต่หากรัฐบาลไม่ทำ ก็คงต้องถึงเวลาแล้วที่พวกเราชาวไทยจะต้องร่วมกันต่อสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินผืนนี้ให้เป็นของชาติและชาวไทยตลอดไป

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:06 น. กทม. ต้อนรับคณะกรุงปักกิ่ง ส่งเสริมสัมพันธ์ไทยจีน 50ปี กระชับเมืองพี่เมืองน้อง
15:01 น. ย้อนเลือดสาด!‘บิ๊กเล็ก’สวน‘ฮุน มาเนต’ประท้วงไทยวางรั้วลวดหนาม วาง‘ทุ่นระเบิด’แรงกว่าหรือไม่
14:51 น. ‘พล.อ.ณัฐพล’รอ‘สมช.’เคาะสร้าง‘รั้วชายแดน’ หลังบางฝ่ายหวั่นเสียดินแดน
14:50 น. 'ชาร์ค ธิติภาส’ ชวนร่วมงานมีตติ้งฉลองครบรอบวันเกิด 26 ปี คัพสลีฟอีเวนต์ (Cupsleeve Event)(คลิป)
14:49 น. เปิดชัดๆ!!! ผลสอบคกก.ที่ดินเขากระโดง ยุค‘ภูมิธรรม-เดชอิศม์’
ดูทั้งหมด
ออกครบแล้ว! ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 กันยายน 2568
'เพลง ชนม์ทิดา'ร่ายความในใจ หลังถูกจับตาความสัมพันธ์'เป๊ก เศรณี'
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงกายกรรมจากจีน
'มล.รจนาธร'โพสต์ขอบคุณ'ลิซ่า ลลิษา' สวมจิวเวลรีแบรนด์ไทยในลุค After party Emmy Awards
(คลิป) 'ฮุนเซน' ออกโรงแจงด่วนกลางดึก ยึดทรัพย์ 'ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์' ในเขมร
ดูทั้งหมด
วัคซีนและยาลดความรุนแรงจากโรคติดเชื้อ RSV
อลัชชีหุ้มจีวร
‘หนู-1’รัฐบาลชั่วคราวไม่ค้างคืน
ไทยต้องปรับปรุงด่วน ถ้ายังอยากอยู่ในสายตานักลงทุนโลก
หนึ่งวันพันเหตุการณ์
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘พล.อ.ณัฐพล’รอ‘สมช.’เคาะสร้าง‘รั้วชายแดน’ หลังบางฝ่ายหวั่นเสียดินแดน

ตั้งข้อสังเกต!!! ทหารเขมร ปลอมเป็นพระ? เอ๊ะเหตุป่วนบ้านหนองหญ้าแก้ว หรือบวชเมื่อวาน???

คารวะ‘เจ๊ปอง’ ‘ประสาร’ร่ายกลอน บุญคุ้มครองคนดี‘ไพรีรัก’

ชายแดนระอุอีก! ม็อบเขมรปรากฏตัวใกล้บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารตั้งรับสถานการณ์เดือด

‘ภูมิธรรม’ซัด‘ปชน.’ ยื่นดาบ‘ภูมิใจไทย’จนอำนาจล้นฟ้า เย้ยผูกพันอะไรขนาดนั้น

แรงมากแม่! 'น้ำชา ชีรณัฐ'โพสต์ไอจีเดือดฟาดรัวๆ ซัพพอร์ต'ออม สุชาร์'ปมดราม่าร้อน

  • Breaking News
  • กทม. ต้อนรับคณะกรุงปักกิ่ง ส่งเสริมสัมพันธ์ไทยจีน 50ปี กระชับเมืองพี่เมืองน้อง กทม. ต้อนรับคณะกรุงปักกิ่ง ส่งเสริมสัมพันธ์ไทยจีน 50ปี กระชับเมืองพี่เมืองน้อง
  • ย้อนเลือดสาด!‘บิ๊กเล็ก’สวน‘ฮุน มาเนต’ประท้วงไทยวางรั้วลวดหนาม วาง‘ทุ่นระเบิด’แรงกว่าหรือไม่ ย้อนเลือดสาด!‘บิ๊กเล็ก’สวน‘ฮุน มาเนต’ประท้วงไทยวางรั้วลวดหนาม วาง‘ทุ่นระเบิด’แรงกว่าหรือไม่
  • ‘พล.อ.ณัฐพล’รอ‘สมช.’เคาะสร้าง‘รั้วชายแดน’ หลังบางฝ่ายหวั่นเสียดินแดน ‘พล.อ.ณัฐพล’รอ‘สมช.’เคาะสร้าง‘รั้วชายแดน’ หลังบางฝ่ายหวั่นเสียดินแดน
  • \'ชาร์ค ธิติภาส’ ชวนร่วมงานมีตติ้งฉลองครบรอบวันเกิด 26 ปี คัพสลีฟอีเวนต์ (Cupsleeve Event)(คลิป) 'ชาร์ค ธิติภาส’ ชวนร่วมงานมีตติ้งฉลองครบรอบวันเกิด 26 ปี คัพสลีฟอีเวนต์ (Cupsleeve Event)(คลิป)
  • เปิดชัดๆ!!! ผลสอบคกก.ที่ดินเขากระโดง ยุค‘ภูมิธรรม-เดชอิศม์’ เปิดชัดๆ!!! ผลสอบคกก.ที่ดินเขากระโดง ยุค‘ภูมิธรรม-เดชอิศม์’
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ศาลดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

ศาลดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม

15 ก.ย. 2568

แย่งชิงบ้านเมือง เพื่อใคร

แย่งชิงบ้านเมือง เพื่อใคร

8 ก.ย. 2568

ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชาติหรือเพื่อใคร

ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชาติหรือเพื่อใคร

1 ก.ย. 2568

ไทยจะยอมเป็นม้าอารีอีกต่อไปหรือ

ไทยจะยอมเป็นม้าอารีอีกต่อไปหรือ

18 ส.ค. 2568

พันท้ายนรสิงห์ กับนักการเมืองในปัจจุบัน

พันท้ายนรสิงห์ กับนักการเมืองในปัจจุบัน

11 ส.ค. 2568

ทหาร ผู้ปกป้องและรักษาชาติ

ทหาร ผู้ปกป้องและรักษาชาติ

4 ส.ค. 2568

หรือไทยจะต้องพิชิตศึกละแวกอีกครั้ง

หรือไทยจะต้องพิชิตศึกละแวกอีกครั้ง

28 ก.ค. 2568

คนไทยจะไม่ยอมให้ใครรุกรานดินแดน

คนไทยจะไม่ยอมให้ใครรุกรานดินแดน

21 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved