ประเทศสิงคโปร์เล็กมากมีพื้นที่เพียง 900 ตารางกิโลเมตร ขนาดพอกับเกาะภูเก็ตของเรา ปัจจุบันประกอบด้วยประชากรประมาณ 7 ล้านคน เป็นชาวจีนประมาณ 70% ชาวมลายู 14% ชาวอินเดีย 8% ชาวยุโรปเจ้าอาณานิคมเดิมอีกส่วนหนึ่ง จึงมีลักษณะประชากรที่ค่อนข้างจะแตกต่างกันทั้งด้านภาษา ความเป็นอยู่และอาหารการกิน ลำพังชาวจีนยังแยกเป็นอีกหลายกลุ่มเช่น ฮกเกี้ยน ฮากกา แต้จิ๋ว กวางตุ้ง เป็นต้น
วัฒนธรรมการกินจึงมีอยู่หลากหลายรวมถึงอาหารของเหล่าลูกผสมของพวกเปอรานากัน หรือนอนญ่า และอาหารอินเดียทั้งเหนือและใต้
อินเดียเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมในแต่ละภูมิภาค ซึ่งมีอาหารจานพิเศษเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ความแตกต่างอาจจะมาจากวัฒนธรรมท้องถิ่นและภูมิศาสตร์ว่าอยู่ใกล้กับทะเล ทะเลทราย หรือภูเขา รวมทั้งสถานะทางเศรษฐกิจ โดยอินเดียทางตอนเหนือ จะนิยมบริโภคโรตี อินเดียทางตอนใต้จะนิยมบริโภคข้าว โดยข้าวที่นิยมกันมากที่สุดในอินเดีย คือ ข้าวบาสมาติ (basmati) ซึ่งเป็นข้าวที่มีลักษณะเม็ดเรียวยาว
ใช้เครื่องเทศ สมุนไพรและผักหรือผลไม้มาก มีทั้งพืชผักที่ปลูกในประเทศอินเดียและจากที่อื่นๆ นิยมกินอาหารมังสวิรัติ ในสังคมชาวอินเดีย แต่ละครอบครัวจะเลือกสรรและพัฒนาเทคนิคการทำอาหารทำให้มีความแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางด้านประชากรของอินเดีย
ตามความเชื่อของชาวฮินดูและวัฒนธรรมมีบทบาทต่อวิวัฒนาการของอาหารอินเดีย อาหารทั่วประเทศอินเดียพัฒนามาจากความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมทั้งจากชาวมองโกลและยุโรปทำให้เกิดอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง การค้าเครื่องเทศระหว่างอินเดียและยุโรปเป็นตัวหลักสำหรับการค้นพบอินเดียของชาวยุโรปยุคอาณานิคมได้ทำให้เกิดการผสมระหว่างอาหารยุโรปกับอาหารอินเดียจนเพิ่มความหลากหลายมากยิ่งขึ้น อนึ่ง อาหารอินเดียยังมีอิทธิพลต่ออาหารทั่วโลกโดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และหมู่เกาะแคริเบียน
ใบตองสะอาดแทนจานปูบนพื้นโต๊ะ
ร้านอาหารอินเดีย Samy’s Curry มีสถานที่ตั้งของร้านในสโมสรข้าราชการพลเรือนของสิงคโปร์ สมัยเมื่อหลายปีก่อนลูกค้าที่ไม่ได้เป็นสมาชิกก่อนเข้าร้านจะต้องสมัครเป็นสมาชิกรายวันก่อนในราคา 50 เซ็นต์ ต่อมาเมื่อโดนบ่นมากเข้าจึงยกเลิกกติกานี้
ที่ร้านนี้ยังรักษาวิถีการกินข้าวบนแผ่นใบตองปูโต๊ะ ข้าวบาสมาตีหุงมา 3 สี (Biryani) เป็นข้าวหมกที่หอมจนกินเปล่าๆ ยังอร่อยได้รส หากไม่นิยมก็มีข้าวขาวให้เลือก ยังดีมีช้อนส้อมให้ไม่ต้องเปิบเหมือนธรรมเนียมอินเดีย หรืออาจจะกินกับแผ่นโรตีปิ้ง (Naan) ก็ไม่ผิดกติกาอันใด ยังมีแผ่นข้าวเกรียบบาง ปาปาดัม (Papadum) ทอดให้กินเรียกน้ำย่อย ด้วยผักโขมผัดและถั่วผัดเครื่องเทศอีก 2 ชนิดสำหรับกินแนมแก้เลี่ยน
ข้าวหมก (Biryani)
ต้นกำเนิดโดยชาวเปอร์เซีย (อิหร่านในปัจจุบัน) จนแพร่หลายนิยมชมชอบไปทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยสันนิษฐานว่า เจ้าพระยาบวรราชนายก (เฉกอะหมัด) นับเป็นต้นสายสกุลหรือวงศ์เฉกอะหมัด (บุญนาค) มาแต่แผ่นดินพระเจ้าทรงธรรมเป็นผู้นำมาเผยแพร่ จนอาจกล่าวได้ว่าอิทธิพลอาหารเปอร์เซียได้แพร่หลายจากสกุลบุญนาคจนเป็นเครื่องสำรับในวัง ดังกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ทรงพระราชนิพนธ์ถึง
๏ ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลูกเอ็น
ใครหุงปรุงไม่เป็น เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ
อีกทั้งได้ทรงพระราชนิพนธ์ถึงแกงมัสมั่น
๏ มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา
ผักโขมผัดถั่ว
บริกรจะตักวางข้างกองข้าวบนแผ่นใบตอง อีกคนจะถือหม้อน้ำแกง 2 ชนิดให้เลือกตักราดข้าวบนแผ่นใบตอง
บริการตักน้ำแกงราดข้าว
โรตี
แผ่นโรตีที่เรารู้จักกันดี นวดมาเป็นชั้นทอดในกระทะแบนจนผิวกรอบ จิ้มกินกับแกง
แกงกะหรี่หัวปลากะพง
แกงนี้เป็นรายการทีเด็ดของร้านเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่ารสดีที่สุดในสิงคโปร์ หัวปลาเลือกมาสด แกงมาในหม้อดิน รสแกงกำลังเหมาะรสไม่จัดจนเกินไป ใส่มะเขือและผลกระเจี๊ยบมาในน้ำแกงด้วย มีรสเปรี้ยวเล็กน้อยเพื่อตัดความมันจากกะทิ เป็นอาหารจานประยุกต์ระหว่างจีนกับอินเดีย เมื่อเอ่ยถึงสิงคโปร์ผู้เขียนจะนึกถึงแกงกะหรี่หัวปลานี้เป็นลำดับแรก
ไก่เทนดูรี
อีกหนึ่งรายการอันเป็นยอดนิยมของร้าน เนื้อไก่บ้านหมักกับขิงบดหอมแดงบดผสมนมเปรี้ยวและผงเครื่องเทศเทนดูรีโดยเฉพาะ ไก่เทนดูรีเป็นไก่ย่างที่ชาวโลกรู้จักกันดีด้วยความหอมของเครื่องเทศที่ไม่มีใดเหมือน
แกงแห้งเนื้อแพะ (Mysore Mutton)
มีข้อสังเกตว่าในบรรดาอาหารอินเดียมักจะปรุงแบบแห้งเป็นส่วนมาก อาจจะด้วยวัฒนธรรมการกินโดยวิธีใช้มือเปิบ จึงไม่สะดวกต่อการกินอาหารประเภทซุป อย่างดีก็เป็นจำพวกแกงขลุกขลิกไว้จิ้มหรือไว้ราดข้าว แกงแห้งนี้เป็นแกงชนิดดั้งเดิมที่มีกลิ่นรสเครื่องเทศที่หอมแบบชวนเจริญอาหาร
กุ้งย่างเทนดูรี
กุ้งปอกเปลือกไว้หัวและหาง หมักกับเครื่องเทศเทนดูรีจนหนา เสียบเหล็กย่างเตาเดียวกับไก่เทนดูรี เนื้อกุ้งสดขนาดหัวกุ้งยังติดแน่นกับตัว
ปลาจาระเม็ดดำทอด
ปลาจาระเม็ดดำเนื้อหนาจนต้องบั้งเป็นหลายบาก ทอดกับน้ำมันร้อนท่วมตัวปลาจนกรอบนอก ตักชิ้นปลาเต็มปากเต็มคำ เครื่องเทศที่หมักจางๆ ก่อนทอดหอมพอไม่ให้คาว
แกงกุรหม่าไก่
แกงไก่แบบขลุกขลิกด้วยเครื่องเทศมาสซาล่าที่หอมยวนใจ ได้เปลี่ยนจากกลิ่นและรสแกงที่คุ้นเคยของพะแนงไก่กับมัสมั่นไก่ รสหอมเข้มแต่ไม่เผ็ดจัดจ้านเหมือนแกงของเรา
สำรับอาหารอินเดียบนใบตองที่อนุรักษ์ มีน้ำมะนาวเย็นๆ ไว้จิบแก้กระหาย
ที่ตู้กระจกโชว์ถาดอาหารเหมือนร้านข้าวแกงในบ้านเรา
ชุดข้าวหมก 3 สีรวมมิตร
อันประกอบด้วยกุ้ง หมึกไข่ และไก่ จัดระเบียบเพียงแค่เห็นก็ท้องร้อง
กุหลาบจามูน (Gulab Jamun) และราสมาลัย (Rasmalai)
ลูกสีน้ำตาลด้านบนคือ “กุหลาบจามูน” (Gulab Jamun) ของหวานอันอมตะของอินเดียตอนใต้ที่แอบซ่อนมาแต่นานนม เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญของพ่อครัวส่วนพระองค์ของจักรพรรดิ์ Shah Jahan ซึ่งกุหลาบจามุนนี้เป็นขนมที่ทำจากนมควาย (Buffalo milk) ผสมแป้ง และปั้นเป็นลูกกลมๆ ทอดในเนยกี (ghee) จากนั้นราดด้วยน้ำเชื่อมที่มีส่วนประกอบของ น้ำดอกกุหลาบ ลูกกระวาน และหญ้าฝรั่น มีรสชาติหวานมาก นิยมทานคู่กับน้ำชา และไอศกรีมน้ำตาลถ้วยบนคือกุหลาบจามุน ขนมหวานที่ชาวโลกถือว่าอร่อยที่สุดติด 1 ใน 10 ของโลก
ถ้วยล่างที่ตักเป็นลูกคล้ายไอศกรีมนั้นคือ “ราสมาลัย” (Rasmalai) ขนมหวานจากอินเดียแถบตอนเหนือ ทำจากแป้งนุ่มหอมสูตรพิเศษที่ทำจากชีสและนม อาจโรยหน้าด้วยแผ่นเงินที่สามารถกินได้ ราดราสมาลัยซอส เพิ่มความมันด้วย ถั่วพิตาชิโอ อัลมอน คาราเมล ก็เพิ่มความอร่อยได้ไม่น้อย ถ้าแช่ในตู้เย็นแล้วเอาออกมาชิมจะหอมมาก ชาวอินเดียวนิยมถวายบูชาพระกฤษณะ
เลสซี่มะม่วง (Lassi Mango)
นมเปรี้ยวเย็นปั่นกับมะม่วงสุก เครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมชมชอบไปทั่วโลก ทำจากโยเกิร์ต นม และเนื้อมะม่วงสุก บางสูตรจะไม่ผสมน้ำตาล มักเสิร์ฟมาในแก้วทรงสูง โรยด้วยถั่วพิตาชิโอ บางทีก็ใส่ไอศกรีม เพิ่มความสดชื่น
การเดินทางไปร้าน
ร้านอยู่ห่างออกไปทางนอกเมืองประมาณ 7 กม. แท็กซี่ทุกคันสามารถพาไปได้ด้วยอุปกรณ์นำทาง อีกทั้งร้านนี้เป็นร้านดังเก่าแก่ที่คนสิงคโปร์โดยมากจะรู้จัก หรืออาจจะให้ที่อยู่ด้านล่างนี้กับรถแท็กซี่
25 Dempsey Road
สิงคโปร์ 249670
+65 6472 2080
www.samyscurry.com
Email: samyscurry96@gmail.com
เวลาทำการ: 11:00 - 15:00, 18:00 - 22:00
หยุดทุกวันอังคาร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี