วันเสาร์ ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
จากกรณีที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) คนหนึ่งได้พูดอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2560 ฉบับปัจจุบัน เมื่อไม่นานนี้พาดพิงถึงสมาชิกวุฒิสภา(สว.) อีกคนหนึ่ง ในลักษณะที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหาย
จนในที่สุด สว. คนนั้นได้ประกาศจะฟ้องคดีอาญา สส. คนที่พูดอภิปรายนั้นในข้อหาหมิ่นประมาท และเรียกค่าเสียหายเป็นเงินสูงถึง 100 ล้านบาท
การพูดอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันนั้นโดยถ่ายทอดผ่านวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และถ่ายทอดโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ จึงมีคำถามเกิดขึ้นมาว่า การอภิปรายของ สส. ดังกล่าว ได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองหรือไม่ และเหตุใดจึงจะถูก สว. ฟ้องทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งหนี้ค่าเสียหายเป็นจำนวนที่สูงถึง 100 ล้านบาท
ความผิดอาญาฐาน “หมิ่นประมาท” ตามมาตรา 326 ประมวลกฎหมายอาญา ผู้กระทำต้องมีเจตนาสื่อสารไปยังบุคคลที่สาม ด้วยข้อความที่เป็นการใส่ความต่อผู้เสียหายในลักษณะที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง เพียงข้อมูลใส่ความดังกล่าวไปถึงบุคคลที่สามถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้ว
ยิ่งการใส่ความ แพร่ผ่านระบบสื่อสารมวลชน (โทรทัศน์ วิทยุ ทางระบบอินเตอร์เนต) ไปยังบุคคลที่สามที่สามารถเข้าถึงรับรู้ข้อมูลใส่ความด้วยสมาร์ทโฟนที่กลายเป็นอุปกรณ์ประจำตัวของแต่ละคนในยุคดิจิทัล กระจายไปทั่วประเทศ จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ในกรณีที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
แม้จะเป็นความผิดต่อส่วนตัวและเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาที่สามารถตกลงค่าเสียหายและยอมความกันได้ ยังถือเป็นความยุ่งยากทั้งแก่ ผู้เสียหาย และผู้ถูกกล่าวหา
การพูดหรือการอภิปรายของ สส. และ สว. ในรัฐสภาจะได้รับเอกสิทธิ์ซึ่งเป็นความคุ้มครองสำหรับสมาชิกรัฐสภา เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกรัฐสภาสามารถแสดงความคิดเห็นของตนได้อย่างเป็นอิสระ โดยไม่ต้องเกรงกลัวหรือหวั่นเกรงต่อความรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา
อย่างไรก็ตาม เอกสิทธิ์ความคุ้มครองดังกล่าว จะไม่ได้รับหากเป็นการอภิปรายในรัฐสภาที่มีการถ่ายทอดเสียงและภาพผ่านสื่อมวลชนไปทั่วประเทศ ดังนั้น ผู้ที่พูดอภิปรายจะต้องแสดงความรับผิดชอบ ในการกล่าวพาดพิงไปถึงผู้ใดและอาจก่อให้เกิดความเสียหาย จะมีโอกาสถูกดำเนินคดีทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งได้
ในการดำเนินคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาท ที่เผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนไปทั่วประเทศ ในหลายกรณี ผู้เสียหายมีสิทธิแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าพนักงานตำรวจ หรือฟ้องคดีเอง ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศซึ่งสามารถทำได้ เพราะเมื่อพูดอภิปรายเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนทั่วประเทศ ถือว่าได้กระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทในทุกพื้นที่ของประเทศไทย
หากผู้เสียหายเป็นผู้ที่มีกำลังทรัพย์ สามารถที่จะดำเนินการดังกล่าวได้โดยไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น สร้างความยุ่งยากและเดือดร้อนให้กับผู้ถูกกล่าวหาเป็นอย่างมาก เพราะจะต้องไปให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ต่างๆ มากมาย หรือต้องขึ้นศาลในเขตอำนาจศาลต่างๆ ทั่วประเทศ
ในสถานการณ์เช่นนั้น ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขอรวมการพิจารณาทุกคดีในทุกศาลให้อยู่ในศาลเดียวกัน เพราะการกระทำความผิด ตลอดจนมูลคดีที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องเดียวกัน เพื่อลดความยุ่งยากและการทำงานที่ซ้ำซ้อน
อย่างไรก็ตาม สส. ที่พูดอภิปรายแสดงความคิดเห็นในสภาผู้แทนราษฎร แม้อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลใด และอาจเข้าข่ายมีความผิดคดีอาญาในข้อหาหมิ่นประมาท
หากพิสูจน์ได้ว่า การพูดอภิปรายแสดงความคิดเห็นนั้น เป็นการแสดงความคิดเห็น ติ ชม ด้วยความชอบธรรม เป็นความจริง และเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ไม่ถือว่า เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทและไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย
สิ่งที่ สส. ได้กล่าวอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรและพาดพิงถึงบุคคลอื่นที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายในขณะนี้ไม่มีใครทราบว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวถูกต้องหรือผิดประการใด เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์เพื่อหาความจริง
หากการพิสูจน์หาความจริง โดยกระบวนการทางกฎหมาย ปรากฏผลออกมา น่าจะมีใครสักคนตกม้าตาย หรือบาดเจ็บสาหัส อย่างแน่นอน

‘กรมการแพทย์’ชู 3 เทคโนโลยีการรักษาฟื้นฟู‘กะโหลกเทียม แขนขาเทียมและตาปลอม’
ช็อกกันทั้งซอย กล้องหน้ารถจับภาพ ชายป่วยซึมเศร้าโดดตึก3ชั้นสาหัส
วางขายแล้ว! จาก‘ข้าวดอ’สู่‘ข้าวเม่า’ ขนมโบราณ ฝีมือชาวนาอำนาจเจริญ
ประเทศแรกในเอเชีย! ‘ฟีฟ่า’เลือก‘ไทย’ เจ้าภาพฟุตบอลหญิง รายการ FIFA Series 2026tm
‘สืบยโสธร’รวบเครือข่ายโจรกรรมรถ จยย.ข้ามชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี