บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์หรือBTS จากการที่รัฐบาลมีแผนจะคุมค่าโดยสารรถไฟฟ้าในกรุงเทพ และ ปริมณฑลไว้ที่ 20 บาทตลอดสายภายในเดือนกันยายน 2568 ผู้บริหารบอกว่าหารือเชิงเทคนิคกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แล้ว โดยจะต้องลงทะเบียนทั้งบัตร EMV และ Rabbit กับรัฐบาลก่อนเริ่มใช้มาตรการ นอกจากนี้ยังต้องแก้กฎหมายเพื่อให้ รฟม. ใช้เงินอุดหนุน 8 พันล้านบาทควบคู่ไปกับการใช้ตั๋วร่วมด้วย คาดว่าโครงสร้างราคาใหม่นี้จะทำให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพู และ เหลืองเพิ่ม 30-40% ซึ่งตามนโยบายนี้จะไม่มีการแก้สัญญาสัมปทานโดยกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตกลงที่จะผลักดันนโยบายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายร่วมกับรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลจะรับผิดชอบต้นทุนการดำเนินงาน และซ่อมบำรุง (O&M)
ในส่วนของรถไฟฟ้าสายต่าง ๆนั้น กระทรวงคมนาคมให้ความสำคัญสูงสุดกับการใช้ค่าตั๋ว 20 บาทตลอดสายกับสายสีเขียว เพราะจำนวนผู้โดยสารในสายนี้คิดเป็น 60-70% ของผู้โดยสารในระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมด เราคิดว่าการต่อสัมปทานสายสีเขียวซึ่งจะสิ้นสุดปลายปี 2572เป็นไปได้น้อยลงเมื่อมีการใช้ค่าโดยสารอัตราใหม่ เราจึงคิดว่ามูลค่าของรถไฟฟ้าสายสีเขียวไม่น่าจะเพิ่มในการประเมินมูลค่าของบริษัทหลังปี 2572 ซึ่งจะทำให้กองทุน BTSGIF หมดอายุลงไปด้วยตามสัญญาสัมปทานหลัก สำหรับหนี้ส่วนที่เหลือของ กทม. นั้นสภากรุงเทพฯ จะประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีที่สองของ กทม. ในส่วนของหนี้คงค้าง 1.2 หมื่นล้านบาทจากการดำเนินงานและ ซ่อมบำรุง (O&M) ในเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ ยังอาจจะมีคดีในส่วนของงาน O&M ที่ยังไม่ได้ส่งฟ้องศาลอีก 1.9 หมื่นล้านบาท
BTS ตั้งเป้ารายได้ปี FY69F ที่ 2.85 หมื่นล้านบาท สูงกว่าประมาณการของเรา 8% การเติบโตของรายได้ที่สูงขึ้นมากในปี FY68 เกิดจากการปรับโครงสร้างกลุ่มโดยถือหุ้น RABBIT กับ ROCTEC เพิ่มเป็น 65.4% และ 63.2% ตามลำดับ ซึ่งกลายเป็นบริษัทย่อยของ BTS
เราปรับลดประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักเป็น 231 ล้านบาทในปี FY69F และ 359 ล้านบาทในปี FY70F โดยมีผลขาดทุนสูงกว่าคาดการณ์เดิมของรถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลือง โดยเราได้ปรับสมมติฐานดังต่อไปนี้ i) ปรับเพิ่มประมาณการยอดขายในปี FY69F และ FY70F ขึ้น ii) ปรับลด margin ปี FY69F และ FY70F ลง 3.3-3.7ppts และ iii) ปรับเพิ่มสัดส่วน SG&A/ยอดขายปี FY69F ลง 6.5ppts และ ปี FY70F ลง 3.5ppts
เรายังคงคำแนะนำถือ โดยประเมินราคาเป้ามาย SOTP ปี FY69 (เมษายน 2568-มีนาคม 2569) ใหม่ที่ 5.10 บาท จากเดิม 6.30 บาท เนื่องจากอายุสัมปทานคงเหลือสายสีเขียวที่ลดลงเหลือ 4.5 ปี
ปัจจัยเสี่ยงจากCOVID-19 ระบาด, เศรษฐกิจฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ และ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี