วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568

มีเรื่องเล่าต่อกันมาเรื่องภรรยาบอกสามีของตนว่าตอนนี้ตัวเองกำลังตั้งท้องและลูกในท้องไม่ใช่ลูกสามี แต่เป็นลูกของผู้ชายอีกคนด้วยความแค้นสุดขีด สามีเลยไปตัดหัวชายชู้มาให้ภรรยาดูต่างหน้า
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ในปี ค.ศ. 1993 เมื่อจ่าสิบเอกสตีเฟนแชพตกตะลึงอย่างที่สุด เมื่อไดแอน แชพผู้เป็นภรรยาบอกว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งจริงๆแล้วคุณจ่าสมควรจะดีใจเหลือล้นเมื่อภรรยามาแจ้งให้ทราบว่ากำลังจะมีลูกจ่ากลับโกรธแค้นจนแทบกรากไปบีบคอภรรยาเลยทีเดียวเพราะสตีเฟนเป็นหมัน ไม่สามารถมีลูกได้
หลังจากคาดคั้นอยู่นานภรรยายอมปริปากบอกว่าใครที่สวมรอยทำหน้าที่สามีคนที่ 2ในยามสามีแท้ๆ ไม่อยู่บ้าน เมื่อฟังคำสารภาพ
สตีเฟนยิ่งแค้นหนักเข้าไปอีก เพราะชายชู้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่คือเพื่อนรักของตัวเองที่ชื่อ เกรกอรี่ โกลเวอร์ นั่นเองงานนี้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของแท้สตีเฟนได้แต่เก็บงำความแค้นไว้ในใจพลางขบกรามกลั้นใจปลอบภรรยาไปว่า“เธออย่ากังวลใจไปเลยนะ เดี๋ยวเด็กในท้องจะเป็นอันตรายอย่าห่วงเลยว่าผมจะทำอะไรเธอ ทำใจดีๆ เถอะ”
เมื่อภรรยาได้ฟังดังนั้นก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกเพราะคิดว่าสามียอมให้อภัยเธอและเพื่อนรักของตนแต่เธอไม่รู้ว่าสติเฟนมีแผนการบางอย่างในใจสองสามีภรรยาใช้ชีวิตร่วมกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งไดแอนท้องแก่ใกล้คลอด พอเจ็บท้องถี่ๆสามีก็พาเธอไปโรงพยาบาลเพื่อเตรียมคลอด
วันที่ไดแอนเตรียมตัวคลอดใกล้คริสต์มาสพอดีทุกคนดูรื่นเริงเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปีไดแอนนอนรอคลอดอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลรู้สึกว่าจะต้องแจ้งให้พ่อที่แท้จริงของเด็กรู้ว่ากำลังจะเป็นพ่อคน
เธอจึงโทรศัพท์ถึงชู้รัก ซึ่งก็คือเพื่อนรักของสามีนั่นแองระหว่างที่กำลังออดอ้อนกันอยู่นั้น จู่ๆ สายก็ขาดไปไดแอนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นคิดเอาเองว่าเป็นเรื่องของเครื่องมือสื่อสารหรือสภาพภูมิอากาศที่ทำให้โทรศัพท์ใช้การไม่ได้
อีกชั่วโมงต่อมา สตีเฟนก็ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้ามาในห้องของเธอจูบภรรยาเบาๆ ที่หน้าผาก บรรจงวางห่อของหนึ่งข้างเตียงพยาบาลบอกอย่างอ่อนโยนว่า
“ผมนำของที่คุณต้องการมาให้แล้ว”ไดแอนสงสัยเลยรีบแก้ห่อรูปร่างแปลกๆ นั้นดู พลันหวีดร้องสุดเสียงเพราะนั่นคือหัวของเกรกกอรี่ ชู้รักของเธอนั่นเอง สตีเฟนพูดต่อว่า 'ดูสิ..ที่รัก ผมพาคนรักของคุณมาให้แล้วจากนี้ไปคงได้นอนกอดทั้งคืนทั้งวันเลยแหละ'
ส่วนเรื่องจริงอีกเรื่องที่เกิดจากการฆ่าล้างแค้นแต่แทนที่จะเอาศพไปทิ้งกลับอาศัยเทศกาลฮาโลวีนนำศพวางไว้หน้าบ้านให้เห็นอย่างชัดเจน
เรื่องนี้เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม ค.ศ.2009 เมื่อศพชายชราชื่อมุสตาฟา โมฮัมเหม็ด ซาเยต วัย 75 ปีถูกพบบนระเบียงบ้านในแคลิฟอร์เนีย
เมื่อตำรวจมาถึงบ้านที่เกิดเหตุเพื่อนบ้านต่างพากันบอกว่าไม่ได้สังเกตเห็นอะไรเลยเพราะนึกว่าเป็นของตกแต่งวันฮาโลวีนจากการสืบสวนของตำรวจพบว่าชายชราตายมาสามวันแล้วถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม เพราะถูกยิงจ่อตาจนเสียชีวิต
ดังนั้นพอถึงเทศกาลฮาโลวีน จะต้องตรวจดูหน้าบ้านตัวเองบ่อยๆว่ามีใครเอาศพมายัดเป็นเครื่องประดับบ้านบ้างหรือเปล่าการที่นำศพมาเนียนเป็นเครื่องประดับบ้านแบบนี้เป็นเรื่องตลกร้ายที่หัวเราะไม่ออกเอาเลยทีเดียว แถมเป็นฝันร้ายที่ติดตรึงไปอีกนานรวมทั้งสร้างความหวาดผวาแก่เด็กๆที่มาร่วมเทศกาลฮาโลวีนด้วย

'หนูนา'ยกเคสตัวเอง ลั่นฟ้องจริง ทำจริง บอกอ่อนโยนเฉพาะกับสัตว์และคนที่สมควรได้รับ
หงส์กระอัก!‘อิซัค’ผ่าตัดพักยาว3เดือน
โปรดเกล้าฯ เลื่อนยศ 'พลเอก' แม่ทัพกุ้ง และ 14 ทหารราชองครักษ์
ส่งร่างวีรบุรุษกลับชัยภูมิ สดุดี'ส.อ.กัมปนาท ทองแสง' เปิดประวัติทหารเสือฯผู้กล้า
กทม.นำจิตอาสาทำความสะอาดลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตาก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี