ช่วงตั้งแต่ 13/5/64 จนถึง 24/5/64 ผมเสียวมาตลอด เสียวแบบไม่ดี ไม่ชอบ เสียวแบบไม่ชอบ คือ เสียวฟัน เสียวตอนดูแมนยูฯเล่น แต่ผมโชคดี ไม่ค่อยได้ดูเพราะมันเล่นตี 2 เวลาไทย เสียวเวลาไป Disney World นั่งรถเข้าถ้ำผี แล้วอยู่ดีๆ ผีก็โผล่ออกมาทันทีทันใด ฯลฯ 555!?
นี่เสียวเพราะว่าที่บ้านมีแม่บ้านที่มาเช้า-เย็นกลับ มา 10 โมงเช้า กลับ 19.00-20.00 น. เป็นคนที่ไปตลาดซื้อกับข้าว ที่บ้านเขามีครอบครัวหลายคน และที่บ้านผมยังมีเด็กรับใช้อีกคนที่พักอยู่ที่บ้าน ทำอาหาร ล้างจาน ซักผ้ารีดผ้า ทำความสะอาดทุกห้องรวมทั้งห้องนอน ห้องทานอาหาร ฯลฯ
แล้วประมาณวันเสาร์ ที่ 8/5/64 แม่บ้านเริ่มไม่สบายมีไข้ 1 วันมีน้ำมูก ฯลฯ ขอลาหยุด รายงานว่าเป็นหวัด ผมจึงให้ไปหาหมอตามโรงพยาบาลที่เขาใช้สิทธิ์กันอยู่ ตอนแรกแกก็จะไม่ไปบอกว่าหายแล้วฯลฯ แต่ผมสั่งให้ไป แกไปที่โรงพยาบาลเอกชนตามสิทธิ์หมอไม่ตรวจโควิดให้ บอกไม่เหมือน ถ้าจะตรวจต้องจ่ายตังค์ แกก็เลยไม่ได้ตรวจ กลับมารายงาน ภรรยาผมเลยให้ไปตรวจที่ รพ.รัฐ แห่งหนึ่งวันที่13/5/64 พบว่ามีเชื้อโควิด ทราบวันรุ่งขึ้นที่ 14/5/64 ผม ภรรยา เด็กรับใช้ ลูกสาว หลานสาว 3 คน (ที่อยู่คนละตึกแต่ในที่ดินเดียวกัน) แต่ทุกคนห่างจากเด็กรับใช้มากกว่าผม ผมอยู่ใกล้ชิดที่สุด รองลงมาคือ ภรรยา รองลงมาคือ ลูกสาว และหลานๆ ทั้งหมดจึงไปตรวจโควิดกัน ผมและเด็กรับใช้ตรวจที่จุฬาฯ ปรากฏว่าเด็กรับใช้ติดเชื้อ ตรวจ 14 ทราบผล 15/5/64 ส่วนผมไม่ติด คนอื่นๆ ก็ไม่ติด
แม่ครัวมีอาการประมาณ 8/5/64 ตรวจ 13/5/64 ทราบผล 14/5/64 คนในบ้านจึงไปตรวจ 14/5/64 ทราบผลวันเสาร์ 15/5/64 เด็กรับใช้ตรวจที่จุฬาฯโชคดี รพ.เรียกเข้าไปแอดมิทที่จุฬาฯ วันเสาร์ ที่ 15/5/64
ผมตรวจไม่พบเชื้อแต่ต้องกักตัวและตรวจอีกครั้งใน 7 วันข้างหน้าเนื่องจากผมไม่ค่อยได้พบ/อยู่ใกล้ชิดแม่บ้าน (ที่มาเช้า-เย็นกลับ แต่มาสายมาก ผมออกไปก่อนเวลาประมาณ 06.15 น.) ผมจึงค่อนข้างแน่ใจว่าผมไม่น่าติดจากแม่บ้าน แต่กับเด็กรับใช้ใกล้ชิดมาก เพราะเขาเป็นคนทำความสะอาดห้องนอน ห้องน้ำ ทำอาหาร จับโน่นนี่ เสื้อผ้า ฯลฯ ให้ผม ผมจึงมีความเสี่ยงมาก ช่วง 15-24/5/64 ผมจึงกักตัวอยู่ที่บ้านตามคำสั่งของแพทย์ทางด้านนี้ แต่ก็ประชุม online ตลอด ลูกชาย ลูกสาว ลูกสะใภ้ หลานสาว(ตา) ก็ช่วยส่งกำลังบำรุง บำเรอ(!?) อาหารต่างๆ นานา หุงข้าว ทำกับข้าว ล้างจานให้ เพราะเราไม่มีเด็กรับใช้ ภรรยาก็เข้าครัว ทำโน่นนี่ด้วย
แต่ผมมีไพ่อยู่ในมืออันหนึ่ง คือ ผมได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว คือ Astra ตั้งแต่วันที่ 1/4/64 ถือว่าฉีดเป็นเวลาประมาณ 4 สัปดาห์ก่อนแม่บ้าน(คนแรก) มีอาการ และ 5 สัปดาห์ก่อนเด็กรับใช้คนที่ 2 จะมีอาการซึ่งผมก็ติดตามข่าวจาก WHO กรมควบคุมโรค คุณหมอดังๆ ที่น่าเชื่อถือสำหรับผมมาตลอด ก็พอที่จะมีความรู้บ้าง รวมทั้งอ่านข่าวมากมาย จาก CNN, BCC Dr.Antony Fauci ผู้เคยได้รับรางวัลเจ้าฟ้ามหิดลจากไทยเรามาแล้ว จึงทราบว่าหลังฉีด Astra วัคซีนเพียงเข็มเดียว หลัง 4 สัปดาห์ จะมีภูมิคุ้มกันได้ถึง 94%! ผมก็เลยได้แต่หวังว่าวัคซีนจะช่วยป้องกันการติดเชื้อของผมได้บ้าง และหรือถ้าผมติด ก็หวังว่าจะไม่เป็นรุนแรง ต้องเข้า รพ. หรือเข้า ICU หรือใส่ท่อและเครื่องช่วยหายใจ และจะไม่ตาย ฯลฯ
ข้อมูลการศึกษาของอังกฤษเปรียบเทียบผลการฉีดวัคซีนของ Pfizer – BioNTech Vaccine และ Astra Zeneca – Oxford Vaccine พบว่า Vaccine effectiveness หลังเข็มแรก (ระหว่าง 7-13 วัน) ของ Pfizer and Astra คือ 38% และ 70% ตามลำดับ, 14-20 วันหลังฉีด 60 vs 74%, 21-27 วัน 72% vs 84%, 28-34 วัน คือ85% vs 94%, หลัง 35-41 วัน คือ 68% สำหรับ Pfizer และหลัง42 วันขึ้นไป 64% สำหรับ Pfizer ส่วนของ Astra ฯลฯ ตอนที่รายงานผลยังไม่มีข้อมูลหลัง 34 วัน
จะเห็นได้ว่าจากข้อมูลนี้ วัคซีนทั้ง Pfizer และ Astra ได้ผลดีมากหลังการฉีดเพียง 1 เข็ม ดีที่สุดคือ หลัง 28 วันจนถึง 34 วัน หลังจากนั้นของ Pfizer จะลดลง แต่ของ Astra ยังไม่มีผลตามดังที่กล่าว
ผมมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังฉีด Astra 1 เข็มไปแล้วประมาณ 4 สัปดาห์พอดี (9/4/64 - 7-14/5/64) ซึ่งเป็นช่วงของการได้ผลสูงสุดจากการฉีดวัคซีน COVID ของ Astra ผมจึงหวังว่าวัคซีนนี้จะช่วยผมบ้าง
แต่พอผมทราบว่าเด็กรับใช้คนที่ 2 ติด (ทราบ 15/5/) ถึงแม้ผล swab ของผมครั้งแรก 14/5/64 จะเป็นลบ แต่ผมก็ต้องรอแบบเสียว เหงื่อตกว่าผลการ swab ในวันจันทร์ ที่ 24/5/64 จะออกมาเป็นอย่างไร แต่ในที่สุดก็ออกมาเป็นลบ
ผมคิดว่าจนถึงขณะนี้ ผมโชคดีมากที่ยังไม่มีอาการ วันที่ 31/5/64 ก็ได้ไปฉีด Astra เข็มที่ 2 ตามที่ รพ.จุฬาฯกำหนดให้ ผมไม่ได้ไปขอร้องให้ผมได้ฉีด เขาเปิดโอกาสเอง เมื่อไหร่ ฉีดอะไร ผมก็รับทั้งนั้น แต่ตอนที่ฉีดเข็มแรกสำหรับผู้สูงอายุ (มากๆ อย่างผม) เขาให้ฉีด Astra เท่านั้น ตอนนั้นยังไม่มีข้อมูลว่า Sinovac ฉีดได้ในผู้สูงอายุ เขาจึงใช้ Sinovac ในคนที่อายุต่ำกว่า 60 ปี แต่ปัจจุบันนี้มีข้อมูลแล้วว่าฉีด Sinovac ได้ในผู้สูงอายุด้วย เขาจึงฉีด Sinovac ให้ผู้สูงอายุแล้ว จนถึง 1/6/64 นี้ ประเทศไทยได้รับวัคซีน Astra เพียง 116,000 โดส Sinovac 4,119,266 โดส และเฉพาะวันที่ 1/6/64 ฉีดทั้งประเทศไป 88,859 โดส(ทั้ง 2 วัคซีน) และรวมตั้งแต่ 28/2/64 - 1/6/64 ฉีดไปทั้งประเทศได้3,753,718 โดส (จากทั้งหมดที่มี 4,235,266 โดส กล่าวคือ มีสำรอง สำหรับเข็ม 2 หรืออะไรก็แล้วแต่เพียง 481,548 โดส ซึ่งถือได้ว่ารัฐบาลได้ฉีดวัคซีนเท่าที่มีให้ประชากรมากที่สุดแล้ว เท่าที่จะทำได้
ต่อไปนี้รัฐบาล ภาคเอกชน คงจะร่วมมือกันลุยฉีดวัคซีนให้ประชาชน ผมขอร้องให้พวกเราไปฉีดวัคซีนกันทุกๆ คนนะครับ วัคซีนอะไรก็ดีทั้งนั้นครับ เพราะการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุดถือว่าเป็นการฆ่าตัดตอนไวรัสครับ ผมแน่ใจว่าถ้าผมไม่ได้ฉีดวัคซีนของ Astra มา1 เข็ม 4 สัปดาห์ก่อนที่จะมีความเสี่ยง ผมคงติดไปแล้ว
ขอให้ทุกๆ คนโชคดี ปลอดภัยนะครับ
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี