ชาวโลกต่างปั่นป่วน ฮือฮา และหวาดหวั่นกันไปทั่วหน้าหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 45 ด้วยมีสไตล์การบริหารราชการ และการดำเนินความสัมพันธ์กับต่างประเทศด้วยชั้นเชิงทางการทูตที่ไม่มีใครเหมือน และไม่เหมือนใคร นั่นคือ ไม่ต้องใส่ใจความนุ่มนวล ไม่สนใจการค่อยพูดค่อยจา ประคับประคอง แต่เลือกที่จะว่ากันตรงๆ โจ่งแจ้ง จริงจัง ซึ่งที่ผ่านมา ก็แสดงออกมาอย่างชัดเจน ผ่านทั้งทางการให้สัมภาษณ์ คำปราศรัย และโดยเฉพาะสื่อสมัยใหม่ คือระบบส่งข้อความทวิตเตอร์ (Twitter) เรียกว่าเปิดไพ่เล่นกันไปเลย
ในแง่หนึ่ง ก็ดูเป็นอเมริกันๆ สไตล์คาวบอยดี แต่อย่าลืมว่าโดยพื้นฐานแล้ว การทูตนั้นเป็นเครื่องมือวิธีการเพื่อหาข้อยุติ โดยไม่ต้องการให้ไปถึงที่สุดแบบเอาเป็นเอาตายกัน แต่การที่ ปนธ.ทรัมป์ เป็นนักธุรกิจมาก่อน จึงมีนิสัยไม่ชอบให้เรื่องค้างคา ยืดเยื้อ จึงมักจะหาข้อยุติตกลงกันให้ได้ทันที และจะไม่ยอมเสียเปรียบ หรือไม่ยอมให้ใครมาเอาแต่ได้แต่ฝ่ายเดียว ซึ่งเมื่อใครเกิดเป็นคู่กรณีกันก็จะต้องมายื่นหมูยื่นแมว และต้องจัดการกันให้จบ (deal making)
ฉะนั้น ในการดำเนินความสัมพันธ์กับต่างประเทศ โดยวิธีการเจรจาแบบการทูตแบบ ปนธ.ทรัมป์ จึงยืนอยู่บนพื้นฐานแห่งการต่อรอง ตกลงแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ คือ ฝ่ายฉันให้อย่างนี้ ฝ่ายเธอก็ต้องตอบแทนอย่างนั้น (Transaction)
จึงเห็นได้ว่า ซาอุดีอาระเบีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ที่ต่างต้องพึ่ง “ร่มเงา” แสนยานุภาพ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาเพื่อความมั่นคงอยู่รอด ก็ได้รับการเรียกร้องให้ต้องตอบแทนการคงอยู่ของกองกำลังสหรัฐฯ ไม่ว่าจะด้วยการ
1. จ่ายค่าใช้จ่ายทางการทหารให้กับสหรัฐฯ
2. จัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ เป็นหลัก
และในกรณีขององค์การร่วมมือด้านความมั่นคงภาคพื้นมหาสมุทรแอตแลนติก (NATO) ฝ่ายสหรัฐฯ ก็บีบให้ทุกประเทศสมาชิกปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาและพันธกรณี คือต้องเพิ่มงบประมาณการทหารให้ได้ตามเป้าคือร้อยละ 2 ของจีดีพี โดยมีนัยว่า จะเกิดการซื้ออาวุธจากสหรัฐอเมริกาด้วย ฉะนั้น ต่อจากนี้ จะไม่มีเรื่องแบบที่ฝ่ายสหรัฐฯ แบบรับภาระอยู่แต่ฝ่ายเดียวแบบอดีตที่ผ่านมาอีกต่อไป
ในขณะเดียวกัน สไตล์โดนัลด์ ทรัมป์ อีกอย่างก็คือ อะไรร่วมทำกันได้ก็ทำกันไป แต่ถ้าล้ำเส้น (เช่น กรณีรัสเซียบุกรุกยูเครน หรือกรณีตุรกีรุกล้ำดินแดนซีเรีย หรือจีนยังไม่เล่นตามกติกาสากล ว่าด้วยการทำมาค้าขาย) ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ไม่ลังเลที่จะใช้มาตรการคว่ำบาตร (Sanctions) หรือขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศเหล่านี้กันซึ่งๆ หน้าอย่างไม่รีรอ และยังสามารถเพิ่มระดับได้อีก หากสถานการณ์เลวร้ายลง
นอกจากนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ยังชอบที่จะเจรจาหารือหรือต่อกรกับพวกผู้นำที่เข้มข้น (Strongman) แบบตนเองไม่ว่าจะเป็น ปูตินแห่งรัสเซีย คิม จอง อึน แห่งเกาหลีเหนือหรือเหล่าผู้นำจีนคอมมิวนิสต์ เสมือนว่า ผู้นำที่เด็ดเดี่ยวเหล่านี้พูดจาภาษาเดียวกัน ชนิดคำไหนคำนั้น
ซึ่งก็สะท้อนว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ส่วนตัว โดยให้ความสำคัญกับเส้นทางติดต่อที่ไม่เป็นทางการ แสดงให้เห็นถึงความเหนื่อยหน่ายกับระบบราชการที่อืดอาด ล่าช้า รอบคอบเกินควร ไม่ได้ดั่งใจ
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เลือกเอาเรื่องผลประโยชน์และการเจรจาต่อรองเป็นที่ตั้ง โดยไม่ใส่ใจเรื่องหลักการ หรืออุดมการณ์ที่ว่าด้วยการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ สังคมเปิด สังคมประชาธิปไตย ดังที่ผู้นำสหรัฐอเมริกาคนก่อนๆ ยึดถือ แถมยังไม่เอาด้วยกับเวทีพหุภาคีต่างๆ เพราะมองว่ามีแต่การพูดจาที่ไร้การดำเนินการเป็นรูปธรรม และเป็นช่องทางให้ประเทศเล็กๆ สามารถรวมตัวกันก่อหวอดกับสหรัฐอเมริกา
ก็จัดได้ว่าโลก โดยเฉพาะของประเทศเล็กๆ ที่ถูกประเทศรอบบ้านที่ใหญ่กว่ารังแก นั้นจะหวังพึ่งพาสหรัฐอเมริกาเหมือนเดิมลำบาก ก็คงจะต้องหันไปช่วยตนเอง โดยอาจจะต้องหาพันธมิตรเล็กๆ เป็นสำคัญ
ในขณะเดียวกัน ไทยยังเป็นเพียงประเทศเล็กๆในสายตาพญาอินทรี จึงเป็นเรื่องที่น่าคิดว่า เราจะมีอะไรไปต่อรองกับสหรัฐอเมริกา หรือจะเลือกยอมตกอยู่ในอาณัติของจีนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อคานอำนาจสหรัฐฯ แบบที่เป็นอยู่ต่อไป
กลับมาที่ตัวประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สไตล์การทูตแบบหมูไปไก่มา (Transactional) นั้น ดูจะเลยเถิด เมื่อประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ บอกกับยูเครน ว่า จะยังไม่ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์จนกว่าฝ่ายยูเครนจะร่วมมือสืบสวนเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจในยูเครนของครอบครัวไบเดน (Biden) ซึ่งไบเดนผู้พ่อกำลังจะเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไป กับโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เท่ากับว่า โดนัลด์ ทรัมป์ เอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาโยงกับเรื่องการเมืองส่วนตัว ก็กำลังจะถูกตั้งข้อหาให้ถูกถอดถอน (Impeachment) สไตล์การทูตแบบทรัมป์ จะร้ายหรือดี โลกกำลังรอดูอยู่
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี