พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ชื่อว่าเป็น “คนดี”โดยเฉพาะกับคนที่เชียร์ท่านสุดลิ่มทิ่มประตู พลอยทำให้รัฐบาลของท่าน ถูกเรียกว่า “รัฐบาลคนดี” ตามไปด้วย แต่หากพิจารณาให้ถี่ถ้วน จะพบว่า พล.อ.ประยุทธ์ ท่านอาจขึ้นสู่อำนาจด้วย “นั่งร้าน” ที่ไม่ได้ “ดีจริง”
เวลานี้ท่านโชคดีว่า โคโรนาไวรัสช่วย “กลบ” เรื่องสำคัญๆ ให้ท่านได้หลายเรื่อง
1) นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ “แรมโบอีสาน” หลุดคดีล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยาได้ เพราะตำรวจควบคุมตัวไปส่งฟ้องศาลไม่ทัน คดีหมดอายุความ ตำรวจพัทยาบอกว่า “งานเยอะ” ถามว่าไม่ใครเชื่อบ้าง ว่านั่นคือเหตุผลที่แท้จริง และคนดีอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ก็มีแรมโบ้อีสานนี่แหละ ที่คอยเดินตาม เวลาลงพื้นที่ เคยคิดไหมครับว่า ประชาชนจำนวนหนึ่งจะรู้สึกว่า“ตำตาตำใจ” เหลือเกิน
2) นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ แจ้งกับ ป.ป.ช. ว่ามีที่ดินอยู่ 1,000 กว่าไร่ ที่ “เข้าทำประโยชน์”แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ มีแต่ใบชำระภาษีท้องถิ่น ซึ่งทางการสั่งให้เลิกเก็บตั้งนานแล้ว พอเรื่องนี้เป็นคดีขึ้นมา ที่ดินหดเหลือ 600 กว่าไร่ ด้วยการไปแจ้ง ป.ป.ช.ใหม่ เพราะว่าบางแปลงมัน “ซ้ำซ้อนกัน” ที่ดินจึงหดน้อยลงได้ นั่นขั้นที่หนึ่ง ขั้นที่สอง ที่เดินเริ่มถูกพิสูจน์ทราบครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุด ส่วนมากกลายเป็นที่ ส.ป.ก. ซึ่งเพียงแค่ส่งคืนก็พ้นความผิด ส่วนจุดที่ต้องสงสัยว่า อาจเป็นที่ “รุกป่า” รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็งงงวย จนต้องให้กฤษฎีกาช่วยตีความว่า ถ้าจะเอาเรื่อง ต้องให้ ส.ป.ก. เป็นเจ้าภาพ หรือ กรมป่าไม้เป็นเจ้าภาพ นี่กฤษฎีกาตีความเสร็จหรือยังหนอ โคโรนาไวรัสกลบเรื่องนี้ซะเงียบกริบ ตกลงจะมีใครเอาผิดปารีณาได้ไหม หรือแท้ที่จริงแล้วเธอไม่ผิดอะไร อ้อ! กรุณาอย่าไปอ่านไลน์หลุดที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้นะครับ “ไม่ช่วยเลย” คือคำสำคัญในไลน์หลุดนั้น แต่เอาเถอะ มันก็แค่ไลน์หลุดน่ะ (ฮา...)
3) พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ รู้หน้ารู้ตามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่เหมือนโจรชิงทองที่คลุมหน้าคลุมตา ยังตามหาไม่เจอเลย ทั้งๆ ที่มีหมายจับวันแรกที่มีหมายศาลเพื่อให้ควบคุมตัวไปฟังคำพิพากษา พ.ต.ท.ไวพจน์ ยังมาประชุมสภาฯ ร่วมลงมติได้เลย แต่ตอนหลัง ไม่ไปฟังคำพิพากษา ศาลอ่านคำพิพากษามีโทษจำคุก และให้ออกหมายจับ คิดว่าจะจับได้กันไหมครับจับไม่ได้หรือไม่พยายามจะจับก็ไม่เป็นไรหรอก แต่นี่ถึงกับมีแนวโน้มว่า จะส่ง “ลูกชาย” ของ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ลงแข่งในการเลือกตั้งซ่อม เพราะไวพจน์พ้นสภาพการเป็น สส. ต้องเลือกตั้งในเขตดังกล่าวใหม่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ก็ฝากพี่น้องประชาชนเทียวถามให้หน่อยนะครับ เวลาที่เขาและผู้ใหญ่ในพรรคลงพื้นที่หาเสียง คือ ถามว่า พ่อคุณไปไหนครับ ทำไมไม่มาเข้าคุกครับ คุณคิดว่าคนที่ประพฤติตนแบบนี้ดีหรือไม่ดีครับ อะไรทำนองนี้ให้ที ดูซิ ทั้งพรรคพลังประชารัฐจะตอบว่ายังไงกัน ที่แน่ๆ คือ “คนละคนกันครับ นี่ลูก ไม่ใช่พ่อ” แต่พ่อประพฤติตนเช่นนั้น ลูกควรได้สัมปทานลงสมัครต่อไหมครับ ถามจริง?
4) ประธานวิปรัฐบาล นายวิรัช รัตนเศรษฐ ถูก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ฐานทุจริตการจัดสร้างสนามฟุตซอล โดยมีภรรยาและเครือญาติร่วมถูกชี้มูลด้วย แต่เดิมสมัยเป็นประธาน คสช.พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ ม.44 เด้ง ผู้มีตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกจากตำแหน่งไว้ก่อนระหว่างสู้คดีหรือถูกตรวจสอบ ไยไม่ใช้ “บรรทัดฐานเดียวกัน” ขอให้นายวิรัช งดเว้นการมีตำแหน่งทั้งหลายไว้ก่อนล่ะครับ? นี่คือ พล.อ.ประยุทธ์ คนเดียวกันกับคนที่บรรทัดฐานทางจริยธรรมเข้มแข็ง “คนนั้น” ใช่ไหมครับ?
5) เรื่องเสียบบัตรแทนกัน กดบัตรแทนกัน
กรณี นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ สส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ได้เปิดเผยข้อมูลจนกระจ่ายเลยว่า นายฉลองขึ้นเครื่องบินเดินทางไปสนามบินหาดใหญ่ เวลา 20.50 น. ขณะที่สภายังประชุมกัน เพื่อพิจารณาพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 แต่ปรากฏว่าลงมติเห็นชอบ มาตรา 31 ในเวลา 20.55 น. และร่วมลงมติตลอดจนถึงมาตรา 39 และปิดประชุมในเวลา 01.08 น. และร่วมลงมติต่อเนื่องในวันที่ 11 มกราคม ตั้งแต่มาตรา 40 เวลา 11.10 น.ไปจนถึงลงมติวาระที่ 3 เห็นชอบร่างทั้งฉบับเวลา17.32 น. และเห็นชอบกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการฯ เวลา 17.38 น. ทั้งที่มีหลักฐานปรากฏในFacebook ว่าวันที่ 11 มกราคม นายฉลองลงพื้นที่เป็นประธานเปิดงานวันเด็กทั้งวัน ทั้งเทศบาลตำบลอ่างทอง อำเภอศรีนครินทร์ และองค์การบริหารส่วนตำบลชะมวง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง และขึ้นเครื่องจากสนามบินนครศรีธรรมราช มาสนามบินดอนเมืองอีกครั้งในวันที่ 13 มกราคม เวลา 11.55 น.
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะอ้างว่าเสียบบัตรคาไว้ แล้วมีคนไปกดแทน เนื่องจากไม่สามารถเก็บบัตรไว้ข้ามคืนได้ เพราะเจ้าหน้าที่จะนำบัตรออกจากเครื่องลงคะแนน เพื่อรีเซตระบบใหม่และเตรียมใช้ในวันถัดไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงหมายความว่ามีเจตนาจงใจใช้บัตรแทนกัน นำบัตรของนายฉลองไปกดลงมติ ทั้งที่ไม่อยู่ในห้องประชุม แต่ไม่รู้ว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำ
อีกคนคือ นางนาที รัชกิจประการ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย โดยพบว่านางนาที และคณะเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปยังเมืองเจิ้งโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 11 ม.ค.63 ด้วยสายการบินไทยสมายล์เที่ยวบิน เที่ยวบิน WE680 ซึ่งช่วงเวลาเดียวกับการประชุมสภาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2563 แต่กลับปรากฏชื่อของนางนาทีในการลงคะแนนด้วย
นายนิพิฏฐ์ แจงว่า นางนาทีเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 15.28 น.แต่เมื่อตรวจสอบย้อนกลับไปถึงการลงมติพบว่าในเวลา 15.46 น. ได้ลงมติในมาตรา 49 ว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายประสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก มาตรา 48 ว่าด้วยงบประมาณสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่ระดับภาค เวลา 15.19 น. มาตรา 47 ว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เวลา 15.17 น. มาตรา 46 ว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาผู้ประกอบการและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสู่สากล เวลา 14.56 น.และมาตรา 45 ว่าด้วยงบประมาณสำหรับแผนงานบูรณาการพัฒนาด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ เวลา 14.51 น.
“ผมเพียงแต่มาแถลงความจริงว่ากระบวนการตราร่างกฎหมายไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วนสส.จะดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่สส. เพราะผมไม่มีสิทธิยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะผมต้องการขอแถลงข้อเท็จจริงต่อประชาชน ไม่เพียงแต่จะทำให้ร่างพระราชบัญญัติไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และเจ้าของบัตรอาจมีความรับผิดทางอาญาเนื่องจากรู้เห็นเป็นใจให้บุคคลอื่นใช้สิทธิแทนคน” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
บัดนี้ เราไม่เห็นเสียงแห่ง “บรรทัดฐานทางจริยธรรม” ดังออกมาจากปาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เลยนะครับ
พล.อ.ประยุทธ์ ผู้เคยถามประชาชน เมื่อ 26 พ.ค. 2560 ในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ว่า รัฐบาลและคสช. ยืนยันว่า การเป็นประชาธิปไตยของไทย จะต้องไม่เป็นประชาธิปไตยที่ล้มเหลว จะต้องเป็นประชาธิปไตยที่มีรัฐบา ลซึ่งยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล นำพาให้ชาติ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ภายใต้ศาสตร์พระราชาให้ได้ โดยตนอยากฝากประเด็นคำถามไว้ 4 ข้อ เพื่อรับทราบความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน และนำมาพิจารณาแนวทางการทำงานต่อไป คือ
1.ท่านคิดว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลหรือไม่
2.หากไม่ได้ จะทำอย่างไร
3.การเลือกตั้งเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของประชาธิปไตย แต่การเลือกตั้งอย่างเดียวที่ไม่คำนึงถึงอนาคตของประเทศ และเรื่องอื่นๆ เช่น ประเทศชาติจะมียุทธศาสตร์และการปฏิรูปหรือไม่นั้น ถูกต้อง หรือไม่ถูกต้อง
และ 4.ท่านคิดว่า กลุ่มนักการเมือง ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในทุกกรณี ควรจะมีโอกาสเข้ามาสู่การเลือกตั้งอีกหรือไม่ หากเข้ามาได้อีก เกิดปัญหาอีก แล้วจะให้ใครแก้ไข และแก้ไขด้วยวิธีอะไร
วันนี้อยากให้ท่านถามคำถามเดิม แต่ไม่ใช่ถามกับคนอื่น ให้ถามกับตัวท่านเอง และตอบดังๆให้ประชาชนได้ยินได้ไหมครับ เพราะพฤติกรรมหลายอย่างที่ “นั่งร้าน” ของท่านปฏิบัติ คนอยากได้ยินคำตอบทาง “ธรรมาภิบาล” ในฐานะผู้นำของท่าน...จริงๆ!!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี