วันพฤหัสบดี ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
มีข่าวคราวออกมาว่า รัฐบาลมีดำริที่จะลดภาษีนำเข้า หรือภาษีศุลกากร ซึ่งเป็นการเก็บภาษีทางอ้อม (Indirect taxation) กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากต่างประเทศ จึงเกิดการตีความจากหลายมุมมอง เช่น รัฐบาลคงตั้งใจจะลดรายได้จากการเก็บภาษีศุลกากร แล้วจะไปชดเชยรายได้ที่ขาดไปด้วยการเก็บภาษีโดยตรงจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งน่าจะทำรายได้ให้กับประเทศมากกว่าการเก็บรายได้จากภาษีศุลกากร
แต่ว่ามีคำถามต่อไปว่า หากรัฐบาลมีนโยบายที่จะให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อหาและเพิ่มรายได้แล้ว ก็จะเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปอีกด้วย และมีนัยว่าการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชนพลเมืองที่จะเลือก หรือไม่เลือกบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยฝ่ายรัฐ หรือรัฐบาลไม่มีหน้าที่ที่จะไปห้ามปราม หรือตัดสินใจให้ เพราะจะเป็นการละเมิดสิทธิพลเมือง
อีกทั้งฝ่ายรัฐบาลมิใช่องค์กรทางศาสนา ก็ไม่ควรเอาคำสั่งสอนทางศาสนาว่าด้วยการห้ามการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาเป็นกฎหมาย กฎระเบียบปฏิบัติของบ้านเมือง แต่ควรปล่อยให้ทางฝ่ายศาสนาจะพูดจาบ่มเพาะการปฏิบัติตนของผู้นับถือศาสนานั้นๆ ด้วยองค์กรศาสนานั้นเอง และเป็นเรื่องที่ผู้ที่นับถือศาสนาจะพิจารณารับคำสั่งสอน หรือปฏิบัตตามนั้น เป็นการแยกแยะกิจการของฝ่ายบ้านเมืองออกจากภาระหน้าที่ของฝ่ายองค์กรทางศาสนา
อย่างไรก็ตาม การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเรื่องไม่บังควรสำหรับเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นหลักการและหลักปฏิบัติสากล ฉะนั้น ทางฝ่ายบ้านเมืองก็ต้องมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยและอนาคตของเยาวชนด้วย และในขณะเดียวกันการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เกินขอบเขตก็จะเป็นอันตรายต่อตัวผู้บริโภค ต่อผู้ที่อยู่รอบข้าง ต่อความปลอดภัยของสาธารณชนและสาธารณสมบัติโดยทั่วไป เพราะฉะนั้นก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายบ้านเมืองที่จะต้องมีกฎเกณฑ์กำกับควบคุมดูแล เพื่อให้การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่ในขอบเขตที่พอดีพอควร หรือให้มีการบริโภคอย่างรู้ขอบเขตและมีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อสังคม (Responsible Consumption)
ฉะนั้น จึงเป็นหน้าที่ของทางฝ่ายบ้านเมืองที่จะต้องมีการควบคุมป้องกันอย่างเคร่งครัด เพื่อมิให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันตรายหรือบ่อนทำลายเยาวชน และในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการให้ความรู้ต่อสาธารณชนในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยความระมัดระวังและด้วยความรับผิดชอบ
อีกทั้งการบังคับใช้ซึ่งกฎหมาย กฎเกณฑ์กติกา ต้องมีความเข้มงวดเอาจริงเอาจัง และการลงโทษต่อผู้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการขายและการบริการที่ไม่สมเหตุสมผลนั้นจะต้องก่อให้เกิดความสำนึกว่า โทษนั้นจะหนักหน่วง หรือโทษนั้นจะทำให้ชีวิตต่อไปในอนาคตไม่ราบรื่น ก็จะพึงได้มีความระมัดระวังและมีความเข็ดหลาบ
คนทั่วๆ ไปไม่ค่อยเกรงกลัวกฎหมาย กฎเกณฑ์ว่าด้วยการเสียค่าปรับเมื่อได้ก่อเหตุอันสืบเนื่องมาจากการบริโภคเครื่องดื่ม
แอลกอฮอล์อย่างไร้ความรับผิดชอบ โดยเฉพาะผู้ที่มีอันจะกินก็จะไม่แยแสต่อค่าปรับที่เห็นว่าก็ยังเล็กน้อย ไม่กระทบกระเทือนต่อรายได้หรือทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่มากมาย ฉะนั้น การจะลงโทษด้วยวิธีปรับเป็นเงินก็มักจะไม่ก่อให้เกิดความเกรงกลัว ซึ่งในหลายๆ ประเทศก็ได้ปรับวิธีลงโทษ เช่น การยึดใบขับขี่ การบังคับให้ไปฝึกการขับรถยนต์ใหม่ ไปจนถึงการต้องมีภารกิจต่อสังคม ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลา และฉะนั้น จะมีผลกระทบต่อการทำงานทำการและวิถีชีวิตประจำวัน ซึ่งจะหนักหน่วงมากกว่าการเสียค่าปรับ เป็นต้น
ในหลายประเทศเมื่อผู้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึงจุดมึนเมาแล้ว ก็เป็นภาระหน้าที่ของร้านอาหาร บาร์ หรือสถานเริงรมย์ที่มีบริการเครื่องดื่มที่จะต้องช่วยนำตัวผู้มีอาการมึนเมาส่งกลับบ้าน นัยหนึ่งก็เป็นการให้ผู้ให้บริการต้องสอดส่องระดับการบริโภคของแขก เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องมารับภาระและเสียเวลากับการจัดการส่งตัวกลับบ้าน จะพึงคิดแต่การขายให้ได้มากเพื่อให้ได้ซึ่งกำไรมากๆ มิได้ เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย
นอกจากนั้น การลดภาษีนำเข้าหรือภาษีศุลกากรให้กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากต่างประเทศ ก็จะทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากต่างประเทศมีราคาถูกลง ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตในประเทศ ก็เท่ากับว่าเป็นการสนับสนุนการแข่งขัน และเป็นการลดการผูกขาด หรือกึ่งผูกขาดไปในตัวด้วย และถึงแม้ว่าจะไม่มีการลดภาษีศุลกากรก็มีนัยว่าเป็นการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ ก็ไม่เป็นเรื่องผิดอะไร แต่ที่จะผิดก็คืออุตสาหกรรมภายในประเทศนั้นจะต้องไม่มีการผูกขาดหรือกึ่งผูกขาด
และฉะนั้น สิ่งที่ฝ่ายรัฐบาลควรจะคำนึงถึงก็คือ การเปิดเสรีให้มีการแข่งขันอย่างทัดเทียมและยุติธรรม เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมภายใน โดยเฉพาะจากฝ่ายผู้ผลิตรายย่อยและในระดับชุมชน ซึ่งการลดและการขจัดการผูกขาดใดๆ นั้น เป็นเรื่องสำคัญกว่าการจะมีภาษีนำเข้าสูง หรือต่ำ กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากต่างประเทศ ประเทศไทยเรามีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ท้องถิ่นที่จัดว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน และใช้วัตถุดิบจากเมล็ดข้าว ผัก พืชผลไม้ในประเทศ ก็น่าที่ฝ่ายรัฐบาลจะให้ความสำคัญในเรื่องนี้อย่างจริงจัง ดังจะเห็นได้ว่าในประเทศเล็กๆ หลายๆ ประเทศในยุโรปนั้น มีเครื่องดื่มโดยเฉพาะเบียร์มากมายเป็นร้อยชนิด ซึ่งก็มิได้มาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่มาจากบริษัทขนาดกลางและย่อย และบ่งบอกซึ่งขีดความสามารถและภูมิปัญญาท้องถิ่น แล้วทำไมประเทศไทยจะมีเหล้าโรง เหล้าขาว และเหล้าอื่นๆ ที่เป็นฝีมือของชุมชนและผู้ผลิตรายย่อยไม่ได้ โดยภาครัฐมีหน้าที่แค่กำกับดูแล กำหนดกฎเกณฑ์เพื่อประกันเรื่องความสะอาด สุขลักษณะ และความปลอดภัยเป็นสำคัญ การนี้ก็จะเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมพื้นบ้านและการจ้างงานไปได้ทั่วประเทศ
ในการดำริที่จะลดภาษีนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครั้งนี้ก็อาจจะมีการทักท้วงว่า ฝ่ายรัฐบาลกำลังส่งเสริมการบริโภคเครื่องดื่มมึนเมาหรือเปล่า? ซึ่งก็สมควรต้องมองกันหลายแง่หลายมุม ทั้งในเรื่องสิทธิ เรื่องการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบเรื่องการส่งเสริมอุตสาหกรรมและการจ้างงาน และภูมิปัญญาท้องถิ่น เรื่องการแข่งขันที่เสรีไม่มีการผูกขาด และเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยประชาชนพลเมืองก็ต้องรับผิดชอบต่อตนเองในแง่คำสั่งสอนทางศาสนา และความรับผิดชอบต่อสังคมแต่ต้องมิใช่เรื่องของการสั่งการโดยภาครัฐ หรือการที่ภาครัฐจะมุ่งเอาเรื่องศาสนาเข้ามาพัวพันกับการบริหารจัดการบ้านเมือง
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com

‘อดีตผู้พิพากษา’ชี้นายกฯยุบสภาได้ จนกว่าประธานสภาบรรจุวาระยื่นซักฟอก
ดราม่าระดับชาติ! ดาราฟิลิปปินส์ถ่ายพรีเวดดิ้งบนตู้กดน้ำในญี่ปุ่น โดนวิจารณ์แรงจนต้องลบรูป
นายกฯ นำคณะบินเหนือ ตรวจราชการเชียงใหม่ ลั่นเน้นงานราชการ การเมืองไว้ก่อน
'ดร.จักษ์' เปรียบฝ่ายอนุรักษ์ 'ตลาดนัดนักการเมือง' ชี้แพ้เพราะชอบฆ่ากันเอง
'มดดำ'เปิดแชทเพื่อนสนิท หลังเจอโยง 'น.' ชวนลงทุนเสียหาย 400 ล้าน!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี