พรรคการเมืองได้รับการยอมรับเชิงวิชาการด้านการเมืองการปกครองว่า เป็นสถาบันหนึ่งที่สำคัญในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองคือที่รวมตัวของนักการเมือง ซึ่งแสดงตนว่าจะเข้าไปทำหน้าที่ตัวแทนของประชาชนโดยผ่านการเลือกตั้ง หากประชาชนส่วนใหญ่ให้การยอมรับพรรคการเมืองใด และนักการเมืองรายใด ก็หมายความว่าพรรคการเมืองและนักการเมืองนั้นๆจะได้เข้าไปทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหารในที่สุด
เมื่อดูตามหลักวิชาการแล้ว ก็ต้องกลับมาย้อนถามว่า พรรคการเมืองและนักการเมืองในเมืองไทยคือใคร ตั้งพรรคการเมืองเพื่อวัตถุประสงค์ใด และเป็นนักการเมืองเพื่อเป้าประสงค์อะไร ระหว่างการสร้างผลประโยชน์ให้สาธารณะ กับแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว
Edmund Burke บอกว่าพรรคการเมืองคือองค์กรที่ผู้คนไปรวมตัวกันโดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์สาธารณะที่ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมภายใต้หลักการสำคัญที่เห็นพ้องต้องกัน
ยังมีคำนิยามพรรคการเมืองอีกมากมายในวิชารัฐศาสตร์ ด้านการเมืองการปกครอง แต่ในที่นี้ขอยกคำกล่าวของ Edmund Burke มาใช้อธิบายโดยสังเขปเท่านั้น หากสนใจเรื่องนี้สามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้จากตำรารัฐศาสตร์ด้านการเมืองการปกครอง
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าพรรคการเมืองมิได้มีเฉพาะในการปกครองระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น เพราะยังมีพรรคการเมืองในระบอบเผด็จการด้วย เพียงแต่เป้าประสงค์และการทำงานของพรรคการเมืองในระบอบการปกครองทั้งสองแตกต่างกันไป พรรคการเมืองในระบบเผด็จการเน้นเรื่องการสร้างและแสวงหาอำนาจการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองเท่านั้น ซึ่งต่างจากพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่เน้นการสร้างผลประโยชน์เพื่อสาธารณะเป็นสำคัญ
ทีนี้กลับมาดูพรรคการเมืองและนักการเมืองในประเทศไทย ก่อนอื่นก็ต้องแยกแยะว่าพรรคและนักการเมืองของไทยอยู่ในจำพวกใด ระหว่างทำงานเพื่อผลประโยชน์สาธารณะ กับแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว เรื่องนี้คนไทยสามารถตอบคำถามนี้ได้ชัดเจนว่านักการเมืองไทยส่วนใหญ่เข้าสู่แวดวงการเมืองด้วยวัตถุประสงค์ใด
ประเด็นต่อมาที่สังคมไทยวิพากษ์และตั้งคำถามนักการเมืองค่อนข้างมากคือ นักการเมืองไทยเป็นคนดี หรือคนไม่ดี (บางคนใช้คำว่าคนเลว) นักการเมืองไทยมาจากนักเลงอันธพาลหรือมาจากคนที่เสียสละเพื่อส่วนรวมโดยแท้จริง นักการเมืองไทยมีสติปัญญา มีความรู้ความสามารถแท้จริง เป็นคนมีความละอาย หรือเป็นพวกที่โง่เขลาเบาปัญญา ไร้ยางอาย
มีคำถามตลอดเวลาว่า ทำไมนักเลงอันธพาลจึงเข้าไปเป็นนักการเมือง เป็น สส. เป็นรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีในประเทศไทยได้
คำตอบของคำถามนี้อยู่ที่คนเลือก เพราะว่ามีคนเลือกนักเลงอันธพาล โจร เข้าไปเป็นนักการเมือง ก็จึงทำให้บ้านเมืองของเรามีโจร มีอันธพาลเป็น สส. เป็นรัฐมนตรี
การเลือกตั้ง สส. ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยจะมี สส. และรัฐมนตรีโจรหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเลือกของผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ หากคนส่วนใหญ่เลือกโจรเข้าไปเป็น สส. ก็หมายความว่าไทยมีโอกาสสูงที่จะมีรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีที่มาจากโจร
ส่วนกรณีที่โจรในพรรคการเมืองใดก็ตามจะสนับสนุนให้โจรรายใดได้ครองตำแหน่งรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญคือ พรรคการเมืองที่ว่านั้นมีโจรอยู่ในพรรคมากน้อยเพียงใด
บ้านเมืองของเราเคยมีโจรเป็นรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เรื่องนี้คนไทยประจักษ์แจ้งอยู่แก่ใจเป็นอย่างดี แล้วในอนาคตจะมีโจรเข้าไปเป็นรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีอีกหรือไม่ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการมีพรรคการเมืองโจรที่ส่องสุมนักการเมืองโจรไว้มากน้อยเพียงใด แล้วที่สำคัญที่สุดคือมีคนไทยสนับสนุนให้โจรเข้าไปเป็น สส. และเป็นรัฐมนตรี หรือเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่
ไม่ต้องหวังว่าพรรคการเมืองโจรจะต่อต้านหรือปฏิเสธนักการเมืองโจร แต่คนที่จะต่อต้านขัดขวางมิให้โจรเข้าไปเป็น สส. และรัฐมนตรี รวมถึงนายกรัฐมนตรีได้ก็คือประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งหากประชาชนสนับสนุนโจรก็จะได้โจรเป็น สส. เป็นรัฐมนตรี และเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ต้องสงสัย
คุณผู้อ่านคิดว่าประชาชนไทยจะสนับสนุนให้ใครเป็น สส. รัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ระหว่างคนดี กับโจร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี