วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เส้นใต้บรรทัด
เส้นใต้บรรทัด

เส้นใต้บรรทัด

จิตกร บุษบา
วันอาทิตย์ ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
‘ผู้หญิง’ ใน ‘ประชาธิปัตย์’

ดูทั้งหมด

  •  

นักวิเคราะห์การเมืองทุกสำนักต่างวิเคราะห์ตรงกันว่า การประกาศ “สละสิทธิ์” ในบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐของนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ชนิดตั้งโต๊ะแถลงข่าวไม่มองหน้า ไม่สบตา กับนายวิรัช รัตนเศรษฐ ที่พยายามจะถามไถ่ และไม่ไปร่วมเวทีปราศรัยย่อยด้วยการแจ้งว่า“ท้องเสียกะทันหัน” นั้น นัยที่แท้จริงคือการ “เรียกร้องสิทธิ”เรียกร้องความสำคัญ และเรียกร้องการทบทวน

บางคนถึงขั้นแซะว่า เป็นการเดินเกมการเมืองที่ขาดวุฒิภาวะ และเป็นอารมณ์แบบผู้ญิ้งผู้หญิง


ผมกลับมองว่า แยกความเป็นผู้หญิงออกไปก่อนดีกว่า เพราะมนุษย์ไม่ว่าจะเพศไหน วัยใด ตำแหน่งฐานะใด ล้วนมี “อารมณ์ชอบใจ-ไม่ชอบใจ-ผิดหวัง-สมหวัง” และอยากสื่อสาร/แสดงออกกันทุกคน หัวใจของเรื่องที่ทุกคนควรจับต้อง คือ “ความยุติธรรม” ต่อตัวบุคคล และความเหมาะสมในทางการเมืองสำคัญที่สุดคือ เพื่อ “ประโยชน์ของส่วนรวม”

เช่นกันกับกรณี “ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์” ของ “ตั๊น จิตภัสร์ กฤดากร” พรรคประชาธิปัตย์ ก็ถูกตีความไปในเชิงเดียวกัน คือ ปัญหาเรื่อง “การจัดอันดับ” ในบัญชีรายชื่อ

เพียงแต่ต่างกันตรงที่ พรรคประชาธิปัตย์นี้ เขามี “ธรรมเนียม” การให้ความสำคัญกับผู้หญิง” อย่างจริงจัง ชนิดเป็น “พรรคแรกและพรรคเดียว” ที่ “คำนึงถึงสัดส่วนชาย-หญิง” ผ่านการจัดลำดับบัญชีรายชื่อ เช่นเดียวกับเป็นพรรคแรกและพรรคเดียว ที่หัวหน้าพรรค “มาจากการเลือกตั้ง” โดยไม่เคย “เคลม” ว่าตนเองเป็น “บิดามารดาแห่งประชาธิปไตย” เป็น “หัวหอกของฝ่ายประชาธิปไตย” เหมือนพวก “ประชาธิปไตยจอมปลอม” ที่อ้างอยู่ในรอบหลายปีมานี้ จนถึงทุกวันนี้

พอมี “ข้อความของตั๊น” ปรากฏ นักวิเคราะห์ทั้งหลายก็ออกโรงมาร่วมสนุกกันยกใหญ่

เช่น วิเคราะห์กันว่า สงสัยลำดับของมาดามเดียร์-วทันยา บุนนาค หรือ ดร.รัชดา ธนาดิเรก หรือแม่กระทั่ง มัลลิกาบุญมีตระกูล มหาสุข (ในฐานะลูกน้องคนสนิทของหัวหน้าพรรค)คงจะมาก่อน และอยู่ใน “เซฟโซน” ที่มีโอกาสได้เป็น สส.มากกว่า หรืออย่างน้อยๆ ก็ต้องแย่งชิงกันว่า ใครจะเป็น “ผู้หญิงคนที่สอง” ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์

กระนั้นก็ตาม ทุกสำนักวิเคราะห์ต่างกล่าวตรงกันว่า“สุภาพสตรี” ท่านแรก ที่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน คือ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ชนิดเป็นเอกฉันท์ ไม่มีใครโต้แย้ง หรือเห็นว่าไม่ถูกต้องเพราะอะไร เดี๋ยวเราจะมาวิเคราะห์กัน

1) ดร.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ “ทำความเข้าใจโควตาผู้หญิง #ประชาธิปัตย์ มองให้ลึกจะเห็นว่าเรามีดี” เนื้อความระบุว่า...

“...ขอใช้โอกาสช่วงนี้ ที่ผู้คนให้ความสนใจกับการจัดลำดับบัญชีรายชื่อผู้สมัคร สส.หญิง พรรคประชาธิปัตย์ ชวนมองให้ลึกไม่ใช่แค่ว่าใครอยู่เบอร์ไหน ใครพวกใคร จะเห็นชัดเจนว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่มีผู้หญิงเข้ามาทำงานการเมืองจำนวนมาก เป็นผู้มีประสบการณ์ในสภาผู้แทนราษฎร และความเชี่ยวชาญในงานด้านต่างๆ ที่จะเป็นตัวแทนประชาชน เป็นปากเป็นเสียงสะท้อนมุมมองที่หลากหลาย และผลักดันนโยบายที่จะสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ประชาชนมั่นใจได้ว่า พวกเราไม่ได้มาเล่นๆไม่ได้มาเป็นแค่ไม้ประดับ แต่เราตั้งใจจริงและทำได้จริง

...งานการเมือง ไม่ใช่พื้นที่ของผู้ชายเพียงเท่านั้น แต่เป็นของคนทุกเพศ ทุกวัย ที่มาจากหลายสาขาอาชีพ พรรคประชาธิปัตย์ส่งเสริมให้ผู้หญิงเข้ามามีบทบาททางการเมือง อยากให้เข้าไปทำหน้าที่ในสภา เพราะเรามั่นใจในศักยภาพผู้หญิงในการทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร เสริมเติมมุมมองและประสบการณ์ของผู้ชาย

...แต่ด้วยในช่วงก่อนหน้านี้ มีผู้หญิงเข้าสู่การเมืองน้อยมาก การกำหนดสัดส่วนหญิง-ชาย หรือโควตาผู้หญิงในการสมัครสส.แบบบัญชีรายชื่อจึงเป็นเรื่องจำเป็น ทำให้พรรคกำหนดให้อย่างน้อย!! ทุกๆ 5 คน ต้องมีผู้หญิง 1 คน และประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคการเมืองไทยพรรคแรกที่ผลักดันในเรื่องนี้

...แต่เมื่อบริบทเปลี่ยนไป มีผู้หญิงเข้าสู่การเมืองมากขึ้น ผลงานเป็นที่ประจักษ์ การจัดอันดับบัญชีรายชื่อ จึงไม่ใช่ว่าผู้หญิงจะต้องอยู่ที่อันดับ 5, 10, 15 ฯลฯ เท่านั้น เพราะนั่นจะกลายเป็นการปิดโอกาสผู้หญิงที่มีความสามารถ จึงต้องขอย้ำว่า “โควตา” เป็นการกำหนดให้ “อย่างน้อยต้องมีผู้หญิงในทุกๆ 5 คน” โดยการพิจารณาจะเป็นไปตามความเหมาะสม และใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน ทั้งหญิงและชาย ซึ่งทางพรรคมีเกณฑ์การพิจารณาที่ใช้เป็นหลักมาตลอดอยู่แล้ว

...สำหรับผลการจัดลำดับ ย่อมจะมีคนที่ผิดหวังทั้งชายและหญิง เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับทุกพรรคอย่างแน่นอน ไม่ใช่เฉพาะกับประชาธิปัตย์หรือเฉพาะกับผู้หญิงเท่านั้น ในเมื่อลำดับบัญชีรายชื่อแต่ละลำดับ มีได้เพียงคนเดียว แต่ที่สำคัญทุกการตัดสินใจ ต้องตอบผู้มีส่วนได้ส่วนเสียว่า ลำดับนั้นมาได้อย่างไร”

2) หากขีด “เส้นใต้บรรทัด” ที่คำว่า “...จะเห็นชัดเจนว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่มีผู้หญิงเข้ามาทำงานการเมืองจำนวนมาก เป็นผู้มีประสบการณ์ในสภาผู้แทนราษฎร...”ผมก็นึกถึง “กันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์” ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ และ สส.พังงา พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้นำที่ดี เป็นสมาชิกสภาที่สุภาพ ไม่ก่อปัญหาและนำปัญหาของประชาชนเข้าสู่กระบวนการแก้ไข ใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองทำงานร่วมกับสมาชิกสภาท่านอื่นๆ เพื่อแก้ปัญหาของประชาชนและประเทศชาติ ไม่หมกมุ่นและคลุ้มคลั่งต่อการเอาปัญหาของประชาชนและประเทศชาติมาสร้างชื่อหรือ “หิวแสง” นี่คือตัวอย่างของ “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” ที่ดี ดีต่อประชาชนที่เลือกเธอเข้ามาดีต่อสภา และดีต่อประเทศชาติ

นั่นรวมถึง ดร.รัชดา ธนาดิเรก เจ้าของคำพูดนี้ด้วย ที่ก็ทำงานเต็มที่ ไม่มีฝักมีฝ่าย แต่มีจุดยืน เมื่อได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ทำหน้าที่ “กรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ด้านประสานการมีส่วนร่วม” นอกเหนือจากตำแหน่งรองโฆษกรัฐบาล เธอก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ อุทิศเวลา และให้ความสำคัญกับประชาชนและโอกาสที่ดีของประชาชนเสมอมา โดยไม่ “เล่นการเมือง” และ “ไม่หิวแสง” เช่นเดียวกัน

3) เมื่อขีด “เส้นใต้บรรทัด” ที่คำว่า “...เป็นตัวแทนประชาชน เป็นปากเป็นเสียงสะท้อนมุมมองที่หลากหลาย และผลักดันนโยบายที่จะสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน...” ผมก็นึกถึง ดร.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล สส.ระบบัญชีรายชื่อ ที่รอบนี้ลงสมัครเป็น สส.เขต จ.กระบี่ แม้เข้ามาเป็น สส.สมัยแรก แต่ก็ชัดเจนว่า ดร.พิมพ์รพี ทุ่มเทเวลาและสติปัญญาทั้งหมดให้แก่ความเป็น “ผู้แทนราษฎร” โดยไม่เสียเวลาจิกกัดฟัดกับ “สุนัขตัวใด” เธอนำปัญหาของเกษตรกร ชาวประมง และกลุ่มชาติพันธุ์ ภาคใต้ เข้าสู่สภา เรียกร้องและเสนอแนวทางแก้ปัญหา ร่วมปรารถ ร่วมเสนอแนะ ร่วมอภิปรายนโยบายและกฎหมายฉบับต่างๆ ที่เข้าสู่สภา โดยท้วงติงอย่างสร้างสรรค์ เมื่อได้รับเลือกจากพรรคประชาธิปัตย์ให้ร่วมเป็นกรรมาธิการงบประมาณ เธอให้เวลาทั้งหมดในชีวิตของเธอ ทำหน้าที่พิจารณาการจัดสรรงบประมาณแบบหามรุ่งหามค่ำ “งบประมาณคือเลือดที่จะไปหล่อเลี้ยงร่างกายที่เรียกว่าประชาชนค่ะพี่” เธอบอกกับผม “เลือดดังกล่าวจึงควรหล่อเลี้ยงให้ทั่วร่างอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม เพื่อให้ร่างกายที่เรียกว่า “ประชาชนคนไทย” แข็งแรง...” เธอเป็น สส.ที่คำนึงถึง “คนไทยทั้งประเทศ”ไม่ได้บ้าคลั่งอยู่กับความเป็นประชาธิปัตย์และภาคใต้ เธอให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนถ้วนหน้า

4) ประชาธิปัตย์ยังมี ผู้หญิง” อย่าง “เจิมมาศ จึงเลิศศิริ”ที่ดูแลประชาชนในพื้นที่เขต 1 กรุงเทพมหานคร แบบไม่เคยทอดทิ้ง ไม่ว่ายามที่เธอถูกเลือกหรือถูกลืม เพราะผู้เลือกไหลไปตามกระแสการเมืองที่ถูกชี้นำ ทำให้กลัว โกรธ เกลียด จนลืมว่า “ผู้แทนที่แท้จริง” ในพื้นที่ของเขาควรจะเป็นใคร4 ปีที่ผ่านมา ที่เจิมมาศไม่ได้เป็น สส. เธอก็ไม่เคยหายไปไหน ลงพื้นที่ ดูแลปัญหา ประสานงานไปสู่การแก้ไข ในยามเกิดโรคระบาดโควิด-19 เธอก็มิได้กลัวภัย ลงพื้นที่เยี่ยมยามถามไถ่ จัดสิ่งของหยูกยาที่พอจะช่วยได้ลงมอบให้แก่ประชาชนที่ขาดกำลังในการดูแลป้องกันตนเอง ประสานรถ ประสานเตียง แก่ผู้ติดเชื้อ เพื่อให้ทั้งผู้ป่วย ครอบครัว และคนในชุมชนปลอดภัยไปด้วยกัน เหมือนๆ กับ “อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์”เขต 2 ที่ก็ไม่ได้รับเลือกในครั้งที่ผ่านมา แต่ผู้คนก็ยังนึกว่า “เจิมมาศ-อรอนงค์” เป็น สส. เพราะเธอทั้งสองลงพื้นที่ดูแลประชาชน “ยิ่งกว่า สส.ตัวจริง”

5) ผมจึงคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่ครั้งนี้ มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบใบหนึ่งเลือก สส.เขต ใบหนึ่งเลือก สส.ระบบบัญชีรายชื่อประชาชนไม่ควรหลงคารมและแคมเปญการหาเสียงที่ “ฉกฉวย” มากกว่าสร้างความยั่งยืน เช่น ถ้าอยากเอา 3 ป.ออกไปให้เลือกเรา ในความเป็นจริงไม่ใช่ คนที่ยังเลือกพรรคพลังประชารัฐที่มี ป.ประวิตร เป็นบัญชีรายชื่อเบอร์ 1 กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มี ป.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯก็ยังมี เลือกยังไง 2 ป. นี้ก็ยังอยู่ ส่วน ป.ป๊อก อนุพงษ์ เผ่าจินดาเขาประกาศวางมือแล้ว ที่สำคัญ คือ คะแนนมันอยู่คนละกลุ่ม คนที่จะเทคะแนนให้พรรคก้าวไกล ไม่ใช่คนที่จะเลือก 3 ป. อยู่แล้วและคนที่จะเลือก 3 ป. เขาก็รับไม่ได้กับจุดยืนและท่าทีเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ของพรรคก้าวไกล การบอกให้เลือกตัวเองเพื่อขจัด 3ป. จึงเป็นการสร้างวาทกรรมหลอกลวง อาศัยอารมณ์ “โกรธ เกลียด” ของผู้คน เป็นประโยชน์ทางการเมืองให้แก่ฝั่งตัวเองอย่างมักง่าย ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องพิสูจน์ตัวเองว่าดีอย่างไร เก่งอย่างไร จะพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้ดีอย่างไร

6) ดังนั้น บัตรเลือก สส.เขต ประชาชนพึงพิจารณาที่ “ตัวผู้สมัคร” เป็นรายบุคคล ว่า เขา “ยึดโยงกับคนในเขต”กับปัญหาของคนในเขต มากกว่าความบ้าคลั่งทางการเมือง มากกว่าความเป็นขี้ข้าของเจ้าของพรรคหรือไม่ เมื่อเขาได้คะแนนไปจากคุณแล้ว เขายังมีสำนึกความเป็น “ผู้แทนเขต”ของคุณเพียงใด เลือก “คนที่อยู่กับคุณ” เป็น “ผู้แทนของคุณ”ครับ ส่วน สส.ระบบบัญชีรายชื่อ เอาชื่อ 20 คนแรกของทุกพรรคมานั่งดู แล้วถามตัวเองง่ายๆ ว่า 20 คนไทยควรอยู่ในสภา กาให้พรรคนั้น จบ!

7) ทั้ง สส.เขต และ สส.บัญชีรายชื่อ คือ “อิฐที่ประกอบกันเป็นกำแพง เป็นฐานรากของความมั่นคงเข้มแข็งของสภา” มีหน้าที่กลั่นกรองงบประมาณ ตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของฝ่ายบริหาร และทำหน้าที่นิติบัญญัติ คือ กลั่นกรองกฎหมาย ถ้าประชาชนเลือกโดยไม่ดูความรู้ ความดีความเฮงซวย สภาก็จะประกอบไปด้วย “คนเฮงซวย-ขี้ข้า-คนบ้า-คนหิวแสง” เข้าไปนั่งรก สกปรกอยู่ในสภา เปลืองภาษี เปลืองเงินเดือน เปลืองสวัสดิการ ฯลฯ ไปเปล่าๆ

8) อ้าว! แล้วนโยบายดีๆ กับ นายกฯ รัฐมนตรีล่ะไม่ต้องดูเลยหรือ? ดูก็ได้ แต่ให้ดู “ความเป็นอิสระและความสุจริต”เป็นสำคัญ ว่าที่นายกฯ คนนั้น พรรคการเมืองพรรคนั้น เป็นอิสระ หรือเป็นนอมินี-ขี้ข้า มีคนสั่งหันซ้ายหันขวา หรือมีวิจารณญาณในฐานะ “ผู้แทนปวงชนชาวไทย” อย่างแท้จริงกระนั้นก็ตาม นโยบายของทุกพรรคการเมืองนั้น แก่นแกนล้วนเป็นเรื่องใกล้เคียงกัน และตัวนายกฯ รัฐมนตรีนั้น ถึงเวลา “ฝ่ายการเมือง” เขาไปตกลงกัน ซึ่งเป็นเรื่อง “เกินมือประชาชน” จริงๆ ของจริงที่อยู่ในมือประชาชน คือ “สส.” ครับ เรื่อง สส. ให้ดี ให้ได้สมาชิกสภาที่มีคุณภาพ ส่วนใครจะเป็นนายกฯ เดี๋ยวสภาเขาจะเลือก หลังจากพรรคการเมืองเขาไปตกลงเจรจากันมาแล้ว นโยบายที่จะทำก็ไปคุยกันใหม่ โปรดจำว่า พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายกฯ ไว้ 3 คน ถึงเวลาไปเสนอชื่อหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไม่ใส่ใจคำสัญญาที่ตัวเองให้ไว้กับประชาชน ทรยศและหักหลังทันทีหลังจากที่เขาได้คะแนนของคุณไปแล้ว พรรคพลังประชารัฐ เชิดชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ถึงเวลา ก็มิได้นำพาหรือใส่ใจ จะผลักดันนโยบายที่พรรคพลังประชารับหาเสียงไว้ ให้เป็นที่ชมชอบของประชาชนเลย มีแต่พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น ที่มุ่งมั่นทำนโยบาย “ประกันรายได้” กับพรรคภูมิใจไทยที่ “ปลดล็อกกัญชา” ทว่า ก็ยังหละลวม ไม่รอบคอบในทางปฏิบัติ

9) กลับมาที่ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ที่คนทั้งประเทศตลอดจนคนในพรรคประชาธิปัตย์ควรยกย่องเชิดชูให้เป็น “นักการเมืองตัวอย่าง” ที่ทุ่มเททำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ เคารพเทิดทูนทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ให้เกียรติผู้ร่วมงาน ทำงานด้วยสติปัญญา ความรู้ มีกระบวนการทำ มีการติดตามงานมีการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาเนื้องานอยู่เสมอ ไม่เป็น“มลพิษ” ทางการเมืองแก่คนกลุ่มไหน หรือรสนิยมทางการเมืองแบบใดเลย เป็น “นักการเมืองหญิงที่ดีที่สุด” ในรอบหลายสิบปีมานี้ และอาจกล่าวได้ว่า ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยเลยก็ได้ ซึ่งก่อนนี้ ก็มี คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์พรรคประชาธิปัตย์ ที่ประชาชน ตลอดจนนักการเมืองด้วยกันชื่นชมและเชิดชู นี่คือประจักษ์พยานเรื่อง “นักการเมืองผู้หญิง”ในพรรคประชาธิปัตย์ ว่ามีคุณภาพ และพรรคให้การสนับสนุนทัดเทียมกับคนทุกเพศทุกวัย

10) ถูกต้องแล้ว ที่ชื่อของ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช จะเป็นชื่อ “สุภาพสตรีคนแรก” ในบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าเมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีไทยไม่กี่คนที่ความรู้ความสามารถ “ตรงกับตำแหน่ง” นับแต่มีตำแหน่งรัฐมนตรีมา เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่ท่านดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

11) กระนั้นก็ตาม น่าเสียดายว่า พรรคประชาธิปัตย์ “ตามไม่ทันวิสัยทัศน์” ของ ดร.คุณหญิงกัลยา จน “งาน” ที่คุณหญิงทำไว้ในครั้งนี้ ไม่ถูกยกขึ้นมาเป็น “นโยบาย” ไม่ว่าจะเป็นการปฏิวัติและปฏิรูประบบการศึกษาผ่านนโยบาย “โค้ดดิ้ง” ซึ่งเป็นกระบวนการจัดการศึกษาที่ทันสมัยที่สุด ด้วยการติดตั้ง “สมองกล” ลงไปในสมองคน ให้ลูกหลานเราเกิด “ทักษะอัจฉริยะ” ทั้ง “ทักษะวิชาการ-ทักษะวิชาชีพ และทักษะชีวิต” ทำงานได้เป็นระบบและเปี่ยมประสิทธิภาพ ที่จะเป็นรากฐานสู่ความสำเร็จของตัวบุคคลและประเทศชาติไปพร้อมๆ กัน ทรัพยากรมนุษย์ของเราจะเรียนรู้ คิด ทำ แข่งขัน และสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด สอดรับกับยุคสมัยที่เด็กเกิดใหม่น้อยลง พีระมิดประชากรกำลังกลับหัว มีแต่คุณหญิงเท่านั้นที่แหลมคมพอที่มองเห็น-มองไกล จนนำไปสู่การจัดการศึกษาระบบโค้ดดิ้งขึ้นทันที เพื่อให้ทรัพยากรมนุษย์วัยเรียนและวัยทำงานที่น้อยลงเรื่อยๆ นั้น เปล่งประสิทธิภาพสูงสุด จน “น้อย = มาก” ได้

ยังไม่รวมการขับเคลื่อน T-wave ที่จะนำพลังของไทย-ทีน-เทคฯ” มาประสานกัน จนเกิดเป็น “พลังสร้างชาติ และชนะในพื้นที่โลก ซึ่งเป็นภารกิจ “สร้างคน-สร้างอนาคต” แทนการปลุกปั่นเอาคนรุ่นใหม่ไปเป็นอาวุธประหัตประหารกันทางการเมือง ท่านเลือกจะใช้วัน-วัย-ประสบการณ์-ความรู้ ของผู้ใหญ่ไปสร้าง “อนาคตคนรุ่นใหม่-อนาคตประเทศไทย” แทน เสียดายที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ถือเอา “ภารกิจนี้” เป็นภารกิจสูงสุดขององค์กร

แม้กระทั่งเรื่องที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งที่ ดร.คุณหญิงกัลยาทำ และสอดคล้องกับความชำนาญของพรรคประชาธิปัตย์ คือเรื่องการเกษตร ทำไมผู้บริหารและฝ่ายนโยบายพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ผลักดันนโยบาย “1 ตำบล 1 ชลกร” ตามหลักสูตรชลกร (นักจัดการน้ำ) ที่คุณหญิงทำไว้ ที่ทั้งเรียนฟรี อยู่ฟรี ซึ่งสามารถผลักดันให้มี “นักบริหารจัดการน้ำ” ประจำตำบลประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่าง “อบต.” ได้ ยิ่งถ้าพ่วง “เกษตรอาชีวะ” ที่คุณหญิงกัลยาก็ทำไว้เข้าไปอีก ประชาธิปัตย์จะถือ 2 ภารกิจสำคัญที่ชัดเจนเป็น “เป็นความหวัง” ของ“คนและชาติ” คือ “การศึกษาและเกษตรความรู้” ที่ให้ผลลัพธ์ คือ “สร้างคน สร้างเงิน สร้างชาติ”

ยังไม่สายนะครับ ที่จะรับสิ่งที่คุณหญิงทำไว้อย่างเป็นรูปธรรมไปผลักดันให้สุดแรง ให้เป็นที่ประจักษ์ว่า “ปัญญาผู้หญิง” ท่านนี้ คือ “อนาคต” ของลูกหลานและชาติบ้านเมืองเรา เอาประเทศออกจากสงครามไปสู่การพัฒนาได้ ซึ่งเป็นหนทางที่ต่างไปจากหลายขั้วการเมืองขณะนี้ได้แล้ว !!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
21:09 น. 'หมอวรงค์'สอนมวย'นพดล' หยุดถูไถ!ก้มหน้าก้มตาปกป้อง'คนชั้น 14'
21:02 น. 'สืบตม.อุบลฯ'ลุยตรวจสถานประกอบการ สกัดกันค้ามนุษย์ผิดกฎหมาย
20:54 น. 'พิพัฒน์'ขับเคลื่อนความร่วมมือแรงงานอาเซียน พบ'รมว.เกาหลี–มาเลเซีย' เตรียมยกระดับแรงงานไทยสู่มาตรฐานสากล
20:53 น. 'สมเด็จพระสังฆราช'ประทานพระคติธรรมเนื่องในวันวิสาขบูชา
20:48 น. 'ในหลวง'ทรงมีพระราชสาส์นแสดงความยินดี สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 14
ดูทั้งหมด
ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
'สมชาย'เคลียร์ชัดๆ ไขกระจ่าง'วิษณุ'ไปศาลอาญาทำไม?
(คลิป) หลอกหลอน 'โฆษกพรรคเพื่อไทย' ไปตลอดชีวิต
ดูทั้งหมด
สังคมที่ ‘ชิงชัง’ ทักษิณ ชินวัตร? แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร
แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร
ยกเลิกมาตรา 370 ภารกิจรัฐบุรุษ(ตอน40) หลังอินเดียประกาศอิสรภาพ
บุคคลแนวหน้า : 11 พฤษภาคม 2568
บ่อนกาสิโน-แพทองธาร ชินวัตร : ภาพลักษณ์ไทย
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

(คลิป) เจ๊ปอง เผย! 'ตั๋วกาสิโน 10 ใบ' ลอเรนซ์โอ-กอร์ดอน ถัง คนสนิทตระกูลชินวัตร

กระตุ้นคนตายเพิ่ม?! คำถามตัวโตๆถึง‘รัฐบาล’ ขายน้ำเมา 'วันพระใหญ่’

ปิดหีบเลือกตั้งเทศบาล!! 'กกต.'เผยพบฉีกบัตร 6 ราย ‘นนทบุรี’งามหน้า จับหัวคะแนนพร้อมโพย

คาดปมหึงหวง! หนุ่มยิงเมีย-ลูก 5 ขวบดับก่อนจบชีวิตตัวเอง

(คลิป) 'เจ๊ปอง'เผยพิกัด'เมียน้อย'อยู่เกาะฮ่องกง ให้'เมียหลวง'สิงคโปร์ภรรยานายทุน'กาสิโน'

สง่างาม! 'โอปอล สุชาตา'เปิดตัวสุดอลังการในชุดไทยบนเวที Miss World 2025

  • Breaking News
  • \'หมอวรงค์\'สอนมวย\'นพดล\' หยุดถูไถ!ก้มหน้าก้มตาปกป้อง\'คนชั้น 14\' 'หมอวรงค์'สอนมวย'นพดล' หยุดถูไถ!ก้มหน้าก้มตาปกป้อง'คนชั้น 14'
  • \'สืบตม.อุบลฯ\'ลุยตรวจสถานประกอบการ สกัดกันค้ามนุษย์ผิดกฎหมาย 'สืบตม.อุบลฯ'ลุยตรวจสถานประกอบการ สกัดกันค้ามนุษย์ผิดกฎหมาย
  • \'พิพัฒน์\'ขับเคลื่อนความร่วมมือแรงงานอาเซียน พบ\'รมว.เกาหลี–มาเลเซีย\' เตรียมยกระดับแรงงานไทยสู่มาตรฐานสากล 'พิพัฒน์'ขับเคลื่อนความร่วมมือแรงงานอาเซียน พบ'รมว.เกาหลี–มาเลเซีย' เตรียมยกระดับแรงงานไทยสู่มาตรฐานสากล
  • \'สมเด็จพระสังฆราช\'ประทานพระคติธรรมเนื่องในวันวิสาขบูชา 'สมเด็จพระสังฆราช'ประทานพระคติธรรมเนื่องในวันวิสาขบูชา
  • \'ในหลวง\'ทรงมีพระราชสาส์นแสดงความยินดี สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 14 'ในหลวง'ทรงมีพระราชสาส์นแสดงความยินดี สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 14
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

สังคมที่ ‘ชิงชัง’ ทักษิณ ชินวัตร? แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร

สังคมที่ ‘ชิงชัง’ ทักษิณ ชินวัตร? แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร

11 พ.ค. 2568

‘พีระพันธุ์’ จะรอดหรือจะร่วง

‘พีระพันธุ์’ จะรอดหรือจะร่วง

7 พ.ค. 2568

‘ทักษิณ’ จะต้อง ‘ติดคุก’ หรือไม่?

‘ทักษิณ’ จะต้อง ‘ติดคุก’ หรือไม่?

4 พ.ค. 2568

ไอ้นี่มัน ‘เหวง’ ไม่หาย

ไอ้นี่มัน ‘เหวง’ ไม่หาย

30 เม.ย. 2568

‘กฎหมาย’ หรือ ‘ชะตา’ ที่ไล่ล่า ‘แพทองธาร’

‘กฎหมาย’ หรือ ‘ชะตา’ ที่ไล่ล่า ‘แพทองธาร’

27 เม.ย. 2568

เรื่องของ ‘ทราย สก๊อต’

เรื่องของ ‘ทราย สก๊อต’

23 เม.ย. 2568

‘ไชยชนก ชิดชอบ’ ปิดจ๊อบได้สวย

‘ไชยชนก ชิดชอบ’ ปิดจ๊อบได้สวย

20 เม.ย. 2568

เอา ‘ทักษิณ’ ไปเก็บซะ!

เอา ‘ทักษิณ’ ไปเก็บซะ!

16 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved