วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
Soft Power ต้องรักษาวัฒนธรรมไทยไว้ได้ด้วย

ดูทั้งหมด

  •  

ประเทศไทยของเรามีขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมที่ดีงามหลายอย่าง ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่ครั้งอดีตกาล ถือเป็นภูมิปัญญาที่สำคัญยิ่ง การที่สิ่งดีๆ ต่างๆเหล่านี้ยังคงถูกรักษาไว้ได้เพราะชนรุ่นหลังๆ ได้ช่วยกันสืบสาน และเป็นเรื่องที่จะต้องทำต่อไป เพื่อคงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์และสัญลักษณ์ของชาติ

งานที่เกี่ยวข้องกับประเพณีและวัฒนธรรมที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนนี้คืองานประเพณีลอยกระทง ซึ่งเป็นเรื่องที่สืบสานกันมายาวนาน ตั้งแต่สมัยอาณาจักรสุโขทัย ที่ได้มีการกล่าวกันไว้ว่าพระร่วงเจ้าซึ่งน่าจะหมายถึงพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ได้จัดให้มีงานเผาเทียนเล่นไฟ  ตามที่มีการจารึกปรากฏอยู่ในศิลาจารึกหลักที่ ๑  ว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งงานนี้น่าจะเป็นงานลอยกระทงที่ถูกสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง


การลอยกระทงเป็นวัฒนธรรมที่ปรากฏในแถบเอเชีย ที่มีความเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับศาสนาทั้งพุทธและพราหมณ์ เป็นการกระทำเพื่อเป็นพุทธบูชาต่อสิ่งที่ให้ความเคารพนับถือ เชื่อกันว่าเป็นการรอรับเสด็จพระพุทธเจ้า หลังจากที่พระองค์เสด็จไปโปรดพระมารดา และที่เกี่ยวโยงในสมัยพุทธกาลก็คือ เชื่อว่าเมื่อพระพุทธเจ้ารับข้าวมธุปายาสที่นางสุชาดานำมาถวาย หลังจากเสวยแล้วก็ทรงนำถาดทองมาลอยน้ำ และอธิษฐานว่าหากในภายภาคหน้าจะสำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ขอให้ถาดทองลอยทวนน้ำ เมื่อพญานาคแห่งเมืองบาดาลเห็นเช่นนั้น จึงมีศรัทธาและขอให้พระพุทธเจ้าประทับรอยพระบาทไว้ ณ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เพื่อที่เหล่าพญานาคจะได้ขึ้นมาสักการะ ซึ่งเมื่อนางสุชาดาทราบเรื่องนี้ จึงนำถาดใส่เครื่องหอมและดอกไม้เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาทเช่นเดียวกัน จึงกลายเป็น ประเพณี ที่จะทำกันทุกวันเพ็ญเดือน ๑๒

ส่วนประวัติการลอยกระทงที่คนไทยคุ้นเคยคือตำนานนางนพมาศ ที่ยึดถือตามหนังสือตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์  ที่เชื่อว่านางนพมาศผู้เป็นพระสนมของพระร่วง แห่งกรุงสุโขทัย  เป็นกุลสตรีผู้คิดประดิษฐ์รูปดอกบัวโกมุทเพื่อใช้ในพระราชพิธี รอยพระประทีป ซึ่งเป็นที่พอพระราชหฤทัยของพระร่วง จึงมีการปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน

สรุปความเชื่อในปัจจุบันของคนไทยเกี่ยวกับการลอยกระทงก็คือ เป็นการบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยให้น้ำเป็นพาหนะนำทาง และเป็นการขอขมาต่อแม่น้ำลำคลองและพระแม่คงคา และประการสุดท้ายคือเปรียบเสมือนการลอยความทุกข์ไปกับกระทงที่ไหลไปกับสายน้ำ พร้อมทั้งตั้งจิตอธิษฐานขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

อีกเรื่องหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นวัฒนธรรมที่สำคัญของไทยคือเรื่องประเพณีสงกรานต์ ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดมาอย่างยาวนานในแถบประเทศเอเชียอาคเนย์ ในอดีตนั้นวันสงกรานต์ของไทยตรงกับวันที่ ๑๓ เมษายน ถือว่าเป็นวันปีใหม่ไทย เนื่องจากคำว่าสงกรานต์ซึ่งมาจากภาษาสันสกฤต มีความหมายว่าการเคลื่อนย้าย วันสงกรานต์เป็นช่วงเวลาของการเคลื่อนย้ายของจักรราศี นั่นก็คือการเคลื่อนสู่ปีใหม่ แต่ในปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ รัฐบาลในยุคจอมพลแปลก พิบูลสงคราม ได้ปรับเปลี่ยนให้วันปีใหม่ของประเทศไทยเป็นวันที่ ๑ มกราคมของทุกปีโดยอ้างว่าเพื่อให้เป็นไปตามแบบแผนสากลนิยม

ประเพณีอย่างหนึ่งของวันสงกรานต์คือการแห่นางสงกรานต์ ซึ่งตามตำนานเล่าว่า เกิดจากการที่เศรษฐีคนหนึ่งไม่มีบุตร  จึงไปขอบุตรกับพระจันทร์และพระอาทิตย์อยู่หลายปีแต่ก็ไม่ได้ จนกระทั่งในฤดูร้อนปีหนึ่งจึงนำข้าวสารซาวน้ำ ๗ สี หุงบูชาด้วยสมุนไพร พร้อมเครื่องถวาย ไปตั้งจิตอธิษฐานขอบุตรกับพระอินทร์ จึงได้ลูกชาย ชื่อว่าธรรมบาลกุมาร เป็นคนฉลาดหลักแหลม ทำให้เท้ากบิลพรหมต้องการท้าทายปัญญา โดยถามปัญหา ๓ ข้อและให้ธรรมบาลกุมารตอบภายใน ๗ วัน หากฝ่ายใดแพ้จะถูกตัดศีรษะบูชา  คำถามที่ถูกถามคือ ตอนเช้าราศีอยู่ที่ไหน ตอนเที่ยงราศีอยู่ที่ไหน และตอนค่ำราศีอยู่ที่ไหน  ธรรมบาลกุมารคิดคำตอบอยู่ถึง ๖ วันก็ยังนึกไม่ออก จึงไปนอนอยู่ใต้ต้นไทรโดยคิดว่าถ้าจะต้องตายก็ขอตายในที่ลับ มีนกอินทรี 2 ตัวผัวเมียเกาะทำรังอยู่บนต้นไทร  นางนกอินทรีถามสามีว่า  พรุ่งนี้เราจะไปกินอาหารแห่งใด  นกสามีตอบว่าจะไปกินศพ ธรรมบาลกุมารซึ่งจะถูกท้าวกบิลพรหมฆ่าเพราะตอบปัญหาไม่ได้  นางนกจึงถามว่า คำถามที่ท้าวกบิลพรหมถามคืออะไร เมื่อนกสามีบอกไป นางนกก็เฉลยคำตอบไม่ได้  นกสามีจึงเฉลยว่าตอนเช้าราศีจะอยู่ที่ใบหน้า คนจึงต้องล้างหน้าทุกเช้า ตอนเที่ยงราศีจะอยู่ที่หน้าอก คนจึงเอาเครื่องหอมประพรมที่อก ส่วนตอนเย็นราศีจะอยู่ที่เท้า คนจึงต้องล้างเท้าก่อนเข้านอน ธรรมบาลกุมารจึงจำคำตอบที่นกสามีบอกไว้ไปตอบท้าวกบิลพรหม  ทำให้ท้าวกบิลพรหมพ่ายแพ้ จะต้องถูกตัดศีรษะแต่เนื่องจากหากศีรษะของท้าวกบิลพรหมตกลงพื้นโลกจะเกิดเพลิงไหม้ ถ้าโยนขึ้นไปบนอากาศฝนก็จะแล้ง และถ้าจะทิ้งในมหาสมุทรน้ำก็จะแล้ง  จึงสั่งให้เทพธิดาทั้ง ๗ ซึ่งเป็นบาทบริจาริกาของพระอินทร์หมุนเวียนทำหน้าที่แห่ศีรษะของตนรอบเขาพระสุเมรุปีละ ๑ ครั้ง เมื่อแห่เสร็จก็นำไปเก็บรักษาไว้ในถ้ำคันธุลี ในเขาไกรลาศ ซึ่งวันที่แห่แต่ละวันจะตรงกับช่วงวันมหาสงกรานต์

ประเพณีที่สำคัญในวันสงกรานต์ นอกจากการทำบุญตักบาตรแล้ว อีกเรื่องหนึ่งคือการแห่พระและสรงน้ำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ หลังจากนั้นก็จะมีการรดน้ำดำหัว เพื่อขอพรจากผู้ใหญ่ การบังสุกุลอัฐิ การปล่อยนกปล่อยปลา และการขนทรายเข้าวัด แต่สิ่งที่สร้างความสนุกสนานเบิกบานใจเป็นอย่างมากก็คือการรดน้ำสงกรานต์ ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากการตักน้ำรดซึ่งกันและกัน มาเป็นการสาดน้ำ ฉีดน้ำใส่กันโดยใช้กระบอกฉีดน้ำ แถมยังมีการเอาแป้งดินสอพองปะหน้าลูบหน้าผู้ที่อยู่ใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ชายก็พยายามจะเอาแป้งทาหน้าหรือลูบหน้าฝ่ายสตรี ซึ่งถึงแม้จะดูเหมือนทำให้เกิดความสนุกสนานมากกว่าเดิม แต่ก็ทำให้ประเพณีอันดีงามบางส่วนที่ได้แสดงถึงการมีสัมมาคารวะซึ่งกันและกัน โดยการใช้ขันเล็กๆ ตักน้ำจากขันใบใหญ่ ซึ่งทางภาคเหนือและในหลายพื้นที่ยังนิยมใช้เป็นขันเงิน และนำน้ำที่ตักขึ้นนั้นรดไปยังมือของผู้ใหญ่ผู้เป็นที่เคารพรวมทั้งการขอพร หรือหากเป็นเพื่อนฝูงคนรู้จักหรือคนทั่วๆ ไปก็รดน้ำบริเวณหัวไหล่  เริ่มเลือนหายไปจากสังคมไทยมากขึ้นเรื่อยๆ

ชาติไทยของเราเป็นชาติเก่าแก่ จึงมีสิ่งที่เรียกว่า ภูมิปัญญาที่ได้มีการปฏิบัติสืบต่อกันมานานจนกลายเป็นขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรม และเป็นที่น่ายินดีว่า สิ่งที่เป็นวัฒนธรรมของชาติไทยหลายเรื่อง ได้รับการรับรองว่าเป็นมรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ซึ่งก็คือมรดกโลกนั่นเอง โดยในปี ๒๕๖๖ นี้ องค์การยูเนสโก(UNESCO) ที่มีชื่อเต็มว่าองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ได้ประกาศรับรองและขึ้นทะเบียน สงกรานต์ในประเทศไทย ให้เป็นมรดกดังกล่าว เป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง

จนถึงปัจจุบันนี้ ประเทศไทยมีวัฒนธรรมซึ่งได้รับการประกาศรับรองให้เป็น มรดกของมนุษยชาติแล้วจำนวน 4 เรื่อง เรื่องแรกที่ประกาศรับรองในปี ๒๕๖๑ คือโขน ในปี ๒๕๖๒ คือนวดไทย และในปี ๒๕๖๔ คือโนรา ดังนั้นสงกรานต์ในไทยจึงเป็นวัฒนธรรมที่เกิดจากภูมิปัญญาอันเป็นมรดกโลกรายการที่ ๔ ของชาติเรา  และเชื่อว่าในอนาคตอีกไม่นาน งานลอยกระทง ก็จะได้รับการประกาศให้เป็นวัฒนธรรมจากภูมิปัญญาที่เป็นมรดกโลกเช่นเดียวกัน

ขณะนี้รัฐบาลของนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ได้มีความพยายามอย่างมากในการนำสิ่งที่เรียกว่า Soft Power ซึ่งเชื่อว่ายังจะต้องมีการสื่อสารอีกอย่างมากเพื่อให้ประชาชนคนไทยได้เข้าใจตรงกันว่าคืออะไรกันแน่ เพราะแม้แต่คำแปลของภาษาอังกฤษ ๒ คำนี้ ก็ยังไม่ได้มีการกำหนดอย่างแน่นอน ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ แม้ราชบัณฑิตยสถานแห่งประเทศไทยจะได้กำหนดคำแปลไว้แล้ว ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับ โดยขณะนี้ก็ได้พยายามที่จะขยายผลจากการที่งานสงกรานต์ของไทยได้รับการรับรองให้เป็นภูมิปัญญาที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติแล้วมาเป็น Soft Power อีกเรื่องหนึ่งในปี ๒๕๖๗ โดยตั้งเป้าว่าจะจัดงานประเพณีสงกรานต์ตลอดทั้งเดือน เพื่อดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ออกมาท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว อันจะทำให้เกิดการสร้างรายได้มหาศาลในพื้นที่ที่มีการจัดงาน ซึ่งจะเป็นงานหนึ่งที่ใช้ Soft Power  ในสร้างรายได้เพิ่มให้กับประเทศไทย

ก็หวังว่า Soft Power ที่มีอยู่ในงานสงกรานต์ครั้งต่อไปนี้  จะไม่ทำให้วัฒนธรรมอันดีงามของไทยต้องผิดเพี้ยนไปมากยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้ ซึ่งก็เริ่มมีการผิดเพี้ยนไปแล้วพอสมควร จนในที่สุดคุณค่าแห่งภูมิปัญญาที่มีอยู่จะลดน้อยลงไป เปรียบเสมือนต้นไม้ที่หากไม่รักษารากไว้ให้ดี ต้นและใบที่มีอยู่ คือภูมิปัญญาดังที่กล่าวมาแล้วก็ย่อมต้องเสียหาย และสิ่งที่เป็นวัฒนธรรมอันดีงามของชาติก็จะสูญสลายไปด้วย

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
16:32 น. เปิดศึกปลาร้า! 'กัมพูชา'ซัดไทยใช้ตราสินค้า'ปลาฮกเสียมเรียบ'ที่ขึ้นทะเบียนGIในตลาดต่างประเทศ
16:24 น. 'กัน จอมพลัง'ไม่ทน! เห็นคลิปหลานชายทำร้ายตาวัย 80 บุกมาสอนหลานถึงบ้าน
16:22 น. 'ทิดประดิษฐ์'อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย โชว์ส่งมอบเอกสารวัด ปัดข่าวหอบเงินหนี
16:19 น. 'สะพานเข้าชุมชนถล่ม' ชาวบ้านกว่า30หลังคาเรือน-ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
16:14 น. ‘ขอนแก่น’ยกขบวนศิลปินดัง-สินค้าเด็ด‘ของดีเมืองแคน’บุกเวสต์เกต ครบจบถึง 14 ก.ค.นี้
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ดุ๊ก ภาณุเดช'วอนหยุดบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่ สุดทนคนแห่ถ่ายรูป-เดินชิลเหมือนอยู่คาเฟ่
ดูทั้งหมด
จีนยกระดับปราบ Cyber Scam ฉ้อโกงออนไลน์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว
ฮุนเซน-ทักษิณ (แพทองธาร) มิตรหรือศัตรู
บุคคลแนวหน้า วันที่ 12 ก.ค. 2568
ทักษิณยังคงคุยโวเหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เปิดศึกปลาร้า! 'กัมพูชา'ซัดไทยใช้ตราสินค้า'ปลาฮกเสียมเรียบ'ที่ขึ้นทะเบียนGIในตลาดต่างประเทศ

'กัน จอมพลัง'ไม่ทน! เห็นคลิปหลานชายทำร้ายตาวัย 80 บุกมาสอนหลานถึงบ้าน

อดีตผู้พิพากษาเลคเชอร์ 6 ข้อ ‘ทักษิณ’ทำอย่างน้อย 4 ครั้ง เสี่ยงครอบงำ-‘พท.’อาจถูกยุบพรรค

ติดเชื้อ'ไวรัสซิกา' 7 ราย ใน 4 จังหวัดอีสาน เตือนหญิงตั้งครรภ์เสี่ยงสูง ลูกอาจพิการได้

‘วิสุทธิ์’ย้อนเกล็ด‘ภท’ สส.โหวตสวนเรียก‘งูเห่า’ ตอนย้ายคอกเข้าพรรคบอก‘อุดมการณ์’

เกษตรกรกำแพงเพชร บุกพรรคประชาชน หลัง'ไอซ์'ปูดงบ 'ไผ่' หวั่นเดือดร้อนถูกตัดงบ

  • Breaking News
  • เปิดศึกปลาร้า! \'กัมพูชา\'ซัดไทยใช้ตราสินค้า\'ปลาฮกเสียมเรียบ\'ที่ขึ้นทะเบียนGIในตลาดต่างประเทศ เปิดศึกปลาร้า! 'กัมพูชา'ซัดไทยใช้ตราสินค้า'ปลาฮกเสียมเรียบ'ที่ขึ้นทะเบียนGIในตลาดต่างประเทศ
  • \'กัน จอมพลัง\'ไม่ทน! เห็นคลิปหลานชายทำร้ายตาวัย 80 บุกมาสอนหลานถึงบ้าน 'กัน จอมพลัง'ไม่ทน! เห็นคลิปหลานชายทำร้ายตาวัย 80 บุกมาสอนหลานถึงบ้าน
  • \'ทิดประดิษฐ์\'อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย โชว์ส่งมอบเอกสารวัด ปัดข่าวหอบเงินหนี 'ทิดประดิษฐ์'อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย โชว์ส่งมอบเอกสารวัด ปัดข่าวหอบเงินหนี
  • \'สะพานเข้าชุมชนถล่ม\' ชาวบ้านกว่า30หลังคาเรือน-ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก 'สะพานเข้าชุมชนถล่ม' ชาวบ้านกว่า30หลังคาเรือน-ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
  • ‘ขอนแก่น’ยกขบวนศิลปินดัง-สินค้าเด็ด‘ของดีเมืองแคน’บุกเวสต์เกต ครบจบถึง 14 ก.ค.นี้ ‘ขอนแก่น’ยกขบวนศิลปินดัง-สินค้าเด็ด‘ของดีเมืองแคน’บุกเวสต์เกต ครบจบถึง 14 ก.ค.นี้
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

7 ก.ค. 2568

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

30 มิ.ย. 2568

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

23 มิ.ย. 2568

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

16 มิ.ย. 2568

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

9 มิ.ย. 2568

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

2 มิ.ย. 2568

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

26 พ.ค. 2568

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

19 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved