รายงานข่าวแจ้งว่า ทักษิณ ชินวัตร นักโทษเด็ดขาดคดีทุจริตประพฤติมิชอบอยู่ระหว่างการพักโทษ มีโปรแกรมจะเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่

จะพักค้าง 2 คืน คือ คืนวันที่ 14 - 15 มี.ค.

โดยจะกลับไปไหว้บรรพบุรุษ ทั้งปู่ ย่า รวมถึงช่วงที่พี่สาวเสีย ทักษิณก็ไม่ได้อยู่เมืองไทย

รายงานระบุว่า จะเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษ ที่วัดโรงธรรมสามัคคี อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

1. กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม จะต้องชี้แจงต่อสังคม

ทำไมอนุญาตให้ทักษิณ นักโทษเด็ดขาดที่อยู่ระหว่างการพักโทษ พำนักที่บ้านจันทร์ส่องหล้า กทม. สามารถเดินทางไปพักค้างที่เชียงใหม่ได้ถึง 2 คืน?

ผู้อยู่ระหว่างการพักโทษรายอื่น สามารถขอเดินทางไปไหว้บรรพบุรุษ พบปะญาติพี่น้อง ได้เช่นเดียวกันนี้ ใช่หรือไม่?

การเดินทางไปเชียงใหม่ครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษาอาการป่วยเลยแม้แต่น้อย และไม่ใช่เหตุว่าจะไปงานศพภรรยา พ่อหรือแม่หรือลูกเลยการอนุญาตเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ทักษิณโดยมิชอบ ใช่หรือไม่?

2. กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม โรงพยาบาลตำรวจ จะต้องชี้แจงต่อสังคม

ตอนพักโทษทักษิณ อ้างว่าเจ็บป่วยเรื้อรังไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ และต้องได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด มิฉะนั้นอาจเกิดภาวะฉุกเฉินเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

บัดนี้ ทักษิณจะเดินทางไกลหลายร้อยกิโลเมตร ขึ้นเครื่องบิน ต่อรถ เดินทางไปค้างอ้างแรมในสนามกอล์ฟ ห่างเครื่องมือแพทย์

แบบนี้ ตอกย้ำว่า การพักโทษให้ทักษิณด้วยข้ออ้างข้างต้นนั้นเป็นข้ออ้างเท็จหรือไม่? แหกตาประชาชนหรือไม่?

3. ทักษิณ ชินวัตร พึงสำเหนียก

ว่าตนเองได้กระทำตามที่กราบทูลขอพระราชทานอภัยโทษไว้หรือไม่?

อย่าลืมว่า ที่ทักษิณ ชินวัตร ยื่นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ระบุถึงคำพิพากษา 3 คดี ได้แก่ คดีเอ็กซิมแบงก์ คดีหวยบนดิน คดีแปลงสัมปทาน โทษจำคุกรวม 8 ปี โดยระบุว่า น.ช.ทักษิณเคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด ขอรับโทษตามคำพิพากษา

ระบุด้วยว่า เคยเป็นนายกฯ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

จากนั้น มีพระบรมราชโองการ พระราชทานพระมหากรุณาอภัยลดโทษให้ น.ช.ทักษิณ เหลือโทษจำคุก 1 ปี

ปรากฏว่า ทักษิณไม่ได้นอนในคุกเลยแม้แต่คืนเดียว

โดยใช้วิธีป่วย นอนที่โรงพยาบาลตำรวจยาวต่อเนื่อง จนได้รับการพักโทษ ตามหลักเกณฑ์กรมราชทัณฑ์

เป็นอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบตามกฎหมายของรัฐบาล นำโดยนายกฯเศรษฐาและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ว่าการบังคับโทษจำคุก 1 ปี เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายและความยุติธรรมหรือไม่? ได้รับการพักโทษถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่? รวมถึงได้รับอนุญาตให้เดินทางไปเชียงใหม่ระหว่างพักโทษถูกต้องตามกฎหมายและกฎระเบียบแท้จริงหรือไม่?

4. ขณะนี้ ทักษิณยังมีคดี 112 ที่อดีตอัยการสูงสุดเคยสั่งฟ้องไว้แล้ว แต่ทักษิณยื่นขอความเป็นธรรม และอัยการสูงสุดคนปัจจุบันกำลังพิจารณา

จะกลับคำสั่งเดิมของอดีต อสส. เป็นสั่งไม่ฟ้องหรือไม่?

จะเข้าอีหรอบเดียวกับคดีบอสหรือไม่?

5. พึงพิจารณา... ก่อนหน้านี้ ทักษิณมีพฤติกรรมจาบจ้วง ปลุกปั่น อย่างไร ตามปรากฏในคลิปเสียง วีดีโอคลิป การปราศรัยกับคนเสื้อแดงการสนทนาต่างกรรมต่างวาระ ฯลฯ

จากคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่แผ่นดิน (ซึ่งทักษิณยอมรับการกระทำตามคำพิพากษาเองแล้ว)

ย้อนหลังกลับไปสัก 10 ปี หลายคนเชื่อแน่ว่า ทักษิณตายในต่างประเทศแน่นอน

แม้แต่นายทักษิณเองก็ถึงกับเคยอัดคลิป ตายไม่ให้เผา เก็บชีวิตไว้เป็นอนุสรณ์

มาบัดนี้ เมื่อมีโอกาสได้กลับมาเมืองไทย ก็เหมือน “ตายแล้วเกิดใหม่”

แสดงออกว่ากลับตัวกลับตน จงรักภักดี

พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล มีโอกาสบริหารบ้านเมือง แสดงผลงาน

เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว นายทักษิณ ชินวัตร ควรใช้ชีวิตที่เสมือน “ตายแล้วเกิดใหม่” สร้างคุณงามความดีเพื่อทดแทนบุญคุณแผ่นดิน

เป็นส่วนหนึ่งของการปกปักรักษาแผ่นดินและสถาบันหลักของประเทศชาติด้วยชีวิต

ส่งสัญญาณให้ชัดเจนว่า จะไม่มีวันเนรคุณสถาบันเบื้องสูงด้วยการจับมือกับพรรคการเมืองที่ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างเด็ดขาด

ให้รัฐบาลเพื่อไทยบริหารประเทศอย่างซื่อสัตย์สุจริต เป็นรัฐบาลที่ทำเพื่อประชาชนทุกภาคส่วน ไม่เกรงใจพรรคพวกล้มล้างสถาบันเดินหน้าจัดการอย่างเด็ดขาด ขุดรากถอนโคน คดีต่างๆ มากมายที่คาราคาซังอยู่

แบบนี้ จึงจะถือว่า “ตายแล้วเกิดใหม่” กลับไปไหว้บรรพบุรุษได้อย่างไม่อายบรรพบุรุษ

ไม่เช่นนั้น ระวังกรรมคืนสนอง

คราวนี้ จะไม่มีโอกาสใหม่ครั้งที่สอง เสียใจจนชั่วลูกชั่วหลาน

สารส้ม