วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
เพราะกองทัพเรือพระเจ้าตาก วันนี้จึงยังมีชาติไทย

ดูทั้งหมด

  •  

ในช่วงก่อนปีพุทธศักราช ๒๓๑๐ เล็กน้อย พระเจ้ามังระแห่งอาณาจักรหงสาวดี ได้สั่งให้ยกทัพใหญ่ทั้งจากทางเหนือซึ่งนำมาโดยเนเมียวสีหบดี โดยไปตีกบฏล้านช้างและรวบรวมไพร่พลเพิ่มเติม จนมีกำลังพลมากกว่า ๔๐,๐๐๐ คน ผ่านลงมาทางจังหวัดตาก กำแพงเพชร และอีกทัพหนึ่งมาจากทางใต้ โดยเข้ามาตีเมืองทวายก่อน นำทัพมาโดยมังมหานรธา มีกำลังพล ๓๐,๐๐๐ คน เพื่อจะเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา เพื่อให้ตกเป็นเมืองขึ้นให้จงได้

ในช่วงเวลาดังกล่าว กษัตริย์ที่ปกครองกรุงศรีอยุธยาคือสมเด็จพระเจ้าเอกทัศ ซึ่งเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ ๓๓ ของอาณาจักรอยุธยา ถึงแม้จะได้พยายามต่อสู้ แต่จากการที่กรุงศรีอยุธยาไม่ได้ผ่านการศึกสงครามมาเป็นเวลานาน ความเข้มแข็งของกองทัพจึงลดน้อยลงมาก และในที่สุดกองทัพของอาณาจักรหงสาวดี ก็ตีกรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ และเผาทำลายกรุงศรีอยุธยาจนเกือบจะสิ้นซาก


สามเดือนก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะแตก พระยาวชิรปราการหรือพระเจ้าตากในขณะนั้น ได้รับคำสั่งให้ตั้งทัพรับกองทัพพม่าอยู่ที่ค่ายโพธิ์สามต้น ได้พิจารณาเห็นแล้วว่าในที่สุดกองทัพไทยจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน จึงได้ตัดสินใจยกพล ประมาณ 500 คน ซึ่งมีทั้งทหารไทยตีฝ่าทัพพม่า โดยตั้งเป้าหมายว่าจะหนีออกไปเพื่อรวบรวมไพร่พลให้ได้พอสมควร แล้วจะกลับมากู้กรุงศรีอยุธยาคืน

ทัพของพระเจ้าตากได้หนีออกไปทางด่านเมืองนครนายก แล้ววกลงมาทางฉะเชิงเทรา เมื่อมาถึงบริเวณปากน้ำโจ้โล้ ได้พบกับกองทัพพม่าและเกิดการสู้รบขนานใหญ่ซึ่งถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจน โดยพระเจ้าตากสามารถเอาชนะทัพพม่าได้ หลังจากนั้นจึงได้เคลื่อนพลรวมทั้งรวบรวมไพร่พลจากหัวเมืองชายฝั่งตะวันออกตั้งแต่ชลบุรีจนไปถึงระยอง และได้พักทัพอยู่ที่ระยองเป็นระยะเวลาหนึ่ง

ในที่สุดพระเจ้าตากได้ตัดสินใจที่จะเข้าตีเมืองจันทบูรหรือจันทบุรีในปัจจุบันนี้ เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ ซึ่งหากเอาชนะได้ก็เชื่อว่าจะสามารถรวบรวมไพร่พลและสรรพาวุธต่างๆ เป็นจำนวนมากได้ เพื่อจะยกทัพกลับมาตีเอากรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่า

หลังจากอาหารมื้อเย็น พระเจ้าตากได้สั่งให้ทหารทุบหม้อข้าวหม้อแกงทิ้งทั้งหมด และบอกว่า  ซึ่งเสมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า เราจะต้องเข้าตีเมืองจันท์ และต้องเอาชนะให้ได้ หากไม่สามารถเอาชนะ อาหารเย็นมื้อนี้ก็คืออาหารมื้อสุดท้ายของพวกเรา

พระเจ้าตากได้ยกทัพเข้าตีเมืองจันท์และเอาชนะได้เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งตรงกับเดือน ๗ แรม ๓ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๒๙ ปีกุน นพศก เวลา ๓ ยามเศษ ตรงกับวันที่ ๑๕ มิถุนายน ปีพุทธศักราช ๒๓๑๐ เวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น. ซึ่งเป็นเวลาหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว ๒ เดือน โดยพระเจ้าตากได้ขี่ช้างพังคีรีบัญชร นำทัพเข้าพังประตูเมืองจันทบูร เข้าต่อสู้กับทัพของเจ้าเมืองจันทบูรอย่างเข้มแข็ง เอาชนะได้ในที่สุด โดยเจ้าเมืองจันทบูรและครอบครัวได้ลงเรือหนีออกไปยังเมืองบันทายมาศ

พระเจ้าตากได้ตั้งทัพอยู่ที่เมืองจันทบูร และได้ออกรวบรวมไพร่พล อาวุธยุทโธปกรณ์ ได้เคลื่อนทัพไปยังเมืองตราดซึ่งมีเรือสำเภาจีนที่มาค้าขายมาจอดทอดทุ่นอยู่หลายลำ ได้เจรจากับพ่อค้าจีนเพื่อขอเรือเหล่านั้น เมื่อไม่สำเร็จจึงได้เข้าต่อสู้กันและในที่สุดก็สามารถเอาชนะ และยึดเรือสำเภาจีนไว้ได้ทั้งหมด ตลอดจนได้สร้างอู่ต่อเรือที่บริเวณบ้านเสด็จ จนได้เรือที่จะใช้นำกำลังพลจากเมืองจันทบูร ซึ่งขณะนั้นรวบรวมไว้ได้ประมาณ ๕,๐๐๐ คน ได้ฝึกการรบเป็นอย่างดี เพื่อจะกลับมาต่อสู้กับกองทัพพม่าที่ยังยึดกรุงศรีอยุธยาอยู่

จนกระทั่งถึงเดือนตุลาคมปีพุทธศักราช ๒๓๑๐ ซึ่งสิ้นฤดูมรสุมแล้ว เหมาะกับการที่จะยกทัพเรือ  พระเจ้าตากจึงยกทัพกลับเข้ามา โดยผ่านเข้าทางปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าตีเมืองธนบุรีที่ข้าศึกยังยึดเอาไว้ หลังจากได้ชัยชนะก็เคลื่อนทัพต่อขึ้นไปที่กรุงศรีอยุธยา

กองทัพเรือของพระเจ้าตาก ได้ยกขึ้นไปจนถึงค่ายโพธิ์สามต้น ซึ่งพม่าได้ให้แม่ทัพชื่อสุกี้ตั้งค่ายรักษากรุงศรีอยุธยาไว้ จึงได้เข้าต่อสู้กับทัพพม่า และเอาชนะได้โดยไม่ยาก  โดยแม่ทัพพม่าเสียชีวิตในที่รบ ทำให้พระองค์สามารถกอบกู้กรุงศรีอยุธยาและอิสรภาพของชาติไทยกลับคืนมาได้ เมื่อวันศุกร์ เดือน ๑๒ ขึ้น ๑๕ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๒๙ ปีกุน นพศกเวลาบ่ายโมงเศษ ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ ๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๓๑๐ เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. โดยใช้เวลาเพียง ๗ เดือน ในการกู้ชาติหรือกรุงศรีอยุธยากลับคืนมาเป็นของไทย

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงเป็นนักรบที่มีความกล้าหาญและเชี่ยวชาญการรบ ทางบกทั้งบนหลังม้า และยังเป็นนักรบที่มีความกล้าหาญและเชี่ยวชาญในการรบทางเรือเป็นอย่างยิ่ง ในช่วงที่พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ปกครองแผ่นดินอยู่นั้น ได้กระทำการรบทั้งหมดไม่น้อยกว่า ๓๐ ครั้ง โดยเป็นการรบทางเรือถึง ๑๑ ครั้ง

ในปีพุทธศักราช ๒๓๑๔ พระองค์ได้ยกกองทัพเรือ ซึ่งมีเรือรบจำนวนถึง ๒๐๐ ลำ และเรือเดินทะเลอีก ๑๐๐ ลำ มีกำลังพลมากกว่า ๑๕,๐๐๐ คน เพื่อไปตีเมืองกำปงโสม เมืองฮาเตียนหรือเมืองบันทายมาศ และได้รับชัยชนะกลับมา

กองทัพเรือไทยได้ให้การยกย่องและสดุดีพระองค์เป็นอย่างมากเสมอมา ดังจะเห็นได้ว่า ในฐานทัพเรือหรือจุดที่ตั้งของกองทัพเรือต่างๆ จะมีพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ประดิษฐานอยู่  นอกจากนี้ในประเทศไทยของเรานั้น มีอนุสาวรีย์ที่เป็นรูปหล่อของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชประดิษฐานอยู่ในที่ต่างๆ ทั่วประเทศ มากกว่าอนุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์พระองค์ใดๆ

เหตุการณ์ที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์เป็นเครื่องยืนยันว่า กองทัพเรือหรือราชนาวีไทยนั้นมีความเข้มแข็ง และพร้อมที่จะปกปักรักษาชาติรักษาแผ่นดินมาโดยตลอด อาทิ เหตุการณ์ร.ศ. ๑๑๒ซึ่งกองทัพเรือไทยต้องต่อสู้กับชาติมหาอำนาจฝรั่งเศสที่พยายามรุกรานประเทศไทย โดยหวังจะเอาประเทศไทยเป็นเมืองขึ้นให้ได้ เหมือนกับที่ได้ยึดเอาประเทศในแถบอินโดจีนไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม กัมพูชา หรือลาวเป็นเมืองขึ้นได้ทั้งหมด

ทหารเรือไทยไม่เคยยอมแพ้ใครง่ายๆ ถึงแม้ว่า จะมีกำลังรบที่มีแสนยานุภาพน้อยกว่า แต่ก็ยังสามารถจมเรือรบของฝรั่งเศสในการสู้รบที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา ถึงแม้ในที่สุดต้องยินยอมชดใช้ความเสียหายให้แก่ฝรั่งเศส ที่อ้างเอาสาเหตุของทหารฝรั่งเศสที่เสียชีวิต มาเรียกร้องให้ชาติไทยเราต้องชดใช้เงินเป็นจำนวนมาก เพื่อแลกกับอิสรภาพของชาติ  ซึ่งในที่สุดในหลวงรัชกาลที่ ๕จำเป็นต้องยินยอมนำเงินส่วนพระองค์ที่เรียกว่าเงินพระคลังข้างที่ ที่พระบาทสมเด็จนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ได้ทำมาค้าขาย และเก็บใส่ไว้ในถุงสีแดงและเรียกเงินส่วนนี้ว่าเงินถุงแดงเป็นจำนวนมหาศาลออกมาเพื่อชดใช้ แลกเปลี่ยนกับการที่ไทยจะต้องเสียอิสรภาพอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งชาวไทยทั้งหลายรวมทั้งคนรุ่นใหม่ที่คิดว่ามีความคิดก้าวไกลควรจะต้องตระหนักถึงบุญคุณอันยิ่งใหญ่ของพระมหากษัตริย์ไทยไว้ด้วย อย่าได้หลงใหลไปกับการเอาตัวบทกฎหมายของประเทศฝรั่งเศส ที่คนบางคนได้มีโอกาสไปศึกษามา มาเป็นรูปแบบในการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศเป็นอันขาด

การเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพเรือจึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น และรัฐบาลชุดปัจจุบันจะต้องตระหนักในเรื่องนี้ หากเขี้ยวเล็บทางทะเลของชาติไม่เข้มแข็ง ไม่แสดงให้ประเทศรอบบ้านเห็นถึงแสนยานุภาพนี้ การถูกรุกรานก็เป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ การขอซื้อเพิ่มเติมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยของกองทัพเรือ  อาทิ เรือดำน้ำซึ่งปัจจุบันก็น่าจะคลี่คลายไปได้จากการที่นายทหารเรือระดับสูง ที่เป็นผู้แทนของกองทัพเรือไทย เดินทางไปที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อทำข้อตกลง ในการเปลี่ยนเครื่องยนต์ของเรือดำน้ำจากเครื่องยนต์ของเยอรมัน ไปใช้เครื่องยนต์อื่นซึ่งอาจจะเป็นเครื่องยนต์ของจีนก็ได้ เพื่อให้การต่อเรือดำน้ำที่มีสัญญาและงบประมาณอยู่แล้วได้ดำเนินการต่อไป

ควรจะต้องยอมรับความจริงว่า กองเรือดำน้ำของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น เป็นกองเรือดำน้ำที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใคร และเรือดำน้ำทั้งหลายนั้นก็ผลิตขึ้นเองในประเทศจีนทั้งสิ้น และมีศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่ไม่น้อยกว่ากองเรือดำน้ำของชาติอื่นเป็นแน่

คณะรัฐมนตรีต้องตระหนักในเรื่องนี้ อย่านำการเมืองที่ต้องการสร้างสัมพันธ์ กับพรรคฝ่ายค้านบางพรรค ที่ขณะนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว มาเป็นเครื่องตัดสินในการที่จะยกเลิกการสั่งต่อเรือดำน้ำ ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ด้วย

รัฐบาลใดก็ตามที่เข้ามาบริหารประเทศอย่าได้คิดว่าจะสามารถบริหารประเทศ ที่ขณะนี้มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้บ้านเมืองเกิดความเจริญก้าวหน้า โดยไม่พึ่งพากองทัพของชาติไม่ว่าจะเป็นกองทัพใดๆ ได้เป็นอันขาด

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
08:10 น. 'พุทธิพงษ์'โพสต์ซึ้งถึง'แพทย์ 365 วัน' ชูจรรยาบรรณ-ความทุ่มเท เชื่อคนไทยเข้าใจ
07:56 น. สังคมเสื่อม! พ่อวิปริต จับลูกชายวัย 11 แก้ผ้าถ่ายภาพโป๊เปลือย นำโพสต์ขายกลุ่มลับ
07:50 น. เปิดเคสเด็ก3ขวบป่วยโรคขาดวิตามินซีรุนแรง หมอเผยไม่น่าเชื่อเด็กไทยยังเป็นโรคนี้
07:45 น. จตช.ยันนอตหลุดทำฮ.ตำรวจตก ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอผลตรวจผู้เชี่ยวชาญ
07:35 น. กาฬสินธุ์เดือด! ลูกเขยโหดยกพวกตามง้อไม่สำเร็จ ยิง'เมีย-พ่อตา'ดับ
ดูทั้งหมด
'แพทยสมาคมฯ'มาแล้ว!!! ออกแถลงการณ์ประกาศจุดยืนสนับสนุนมติแพทยสภา
‘เซเลบผ้าท้องถิ่น’จัดหนัก! ถล่ม‘อิ๊งค์’ไร้กาลเทศะ ไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติการทูต
ประวัติศาสตร์!เชลซี ทีมแรกกวาดทุกแชมป์ถ้วยยุโรป
ทุบเปรี้ยง!ยก 5 เหตุผล‘ทักษิณ’ไม่หนี หวั่น‘ปิดประตูตาย’
‘แม่ทัพภาคที่ 2’ฮึ่ม! หากเขมรไม่ถอนกำลังออกไปจาก‘ช่องบก’ ทหารไทยไม่ถอยเช่นกัน
ดูทั้งหมด
แวดวงการเงิน : 31 พฤษภาคม 2568
หุ้นเด่น : 11 พฤษภาคม 2568
สงครามการค้าที่ไทยไม่ควรหวั่นไหวตามความบ้าของสหรัฐ
หากภูมิใจไทย ไม่ได้ครองมหาดไทย
บุคคลแนวหน้า : 31 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

จตช.ยันนอตหลุดทำฮ.ตำรวจตก ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอผลตรวจผู้เชี่ยวชาญ

'เจิมศักดิ์'บอก'ออกอาการแล้ว' หลัง'ทูตรัศม์'โพสต์ป่วยจิตวิปลาส ปลุกหมอล้มรัฐบาลเลือกตั้ง

ชวนชมไลฟ์สดงานเสวนา'Why Nations Fail บทเรียนที่ประเทศไทย ต้องไม่ล้มเหลว'พรุ่งนี้

‘พิสดาร’ระวังเป็น‘ปมด้อย’ แนะพ่อแม่ตั้งชื่อลูกขอให้ยึด‘ประโยชน์สูงสุดของเด็ก’

พปชร.ร่วมปกป้องเกียรติภูมิ-ศักดิ์ศรีแพทยสภา ชื่นชมทำอย่างตรงไปตรงมา

(คลิป) 'สมศักดิ์'แจงยิบ! ปมวีโต้มติแพทยสภา ไม่หวั่นถูกล่าชื่อถอดถอน ปัดคุย'ทักษิณ' ยันไม่มีเอื้อ

  • Breaking News
  • \'พุทธิพงษ์\'โพสต์ซึ้งถึง\'แพทย์ 365 วัน\' ชูจรรยาบรรณ-ความทุ่มเท เชื่อคนไทยเข้าใจ 'พุทธิพงษ์'โพสต์ซึ้งถึง'แพทย์ 365 วัน' ชูจรรยาบรรณ-ความทุ่มเท เชื่อคนไทยเข้าใจ
  • สังคมเสื่อม! พ่อวิปริต จับลูกชายวัย 11 แก้ผ้าถ่ายภาพโป๊เปลือย นำโพสต์ขายกลุ่มลับ สังคมเสื่อม! พ่อวิปริต จับลูกชายวัย 11 แก้ผ้าถ่ายภาพโป๊เปลือย นำโพสต์ขายกลุ่มลับ
  • เปิดเคสเด็ก3ขวบป่วยโรคขาดวิตามินซีรุนแรง หมอเผยไม่น่าเชื่อเด็กไทยยังเป็นโรคนี้ เปิดเคสเด็ก3ขวบป่วยโรคขาดวิตามินซีรุนแรง หมอเผยไม่น่าเชื่อเด็กไทยยังเป็นโรคนี้
  • จตช.ยันนอตหลุดทำฮ.ตำรวจตก ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอผลตรวจผู้เชี่ยวชาญ จตช.ยันนอตหลุดทำฮ.ตำรวจตก ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้องรอผลตรวจผู้เชี่ยวชาญ
  • กาฬสินธุ์เดือด! ลูกเขยโหดยกพวกตามง้อไม่สำเร็จ ยิง\'เมีย-พ่อตา\'ดับ กาฬสินธุ์เดือด! ลูกเขยโหดยกพวกตามง้อไม่สำเร็จ ยิง'เมีย-พ่อตา'ดับ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

26 พ.ค. 2568

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

19 พ.ค. 2568

แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทย์ พึงรักษาศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

12 พ.ค. 2568

เศรษฐกิจไทย จะล่มสลายหรือไม่

เศรษฐกิจไทย จะล่มสลายหรือไม่

5 พ.ค. 2568

รัฐบาลที่รุกรบไม่เป็น ก็ยอมแพ้เถอะ

รัฐบาลที่รุกรบไม่เป็น ก็ยอมแพ้เถอะ

28 เม.ย. 2568

ไทย ต้องไม่ทำตัวเป็นประเทศราช

ไทย ต้องไม่ทำตัวเป็นประเทศราช

21 เม.ย. 2568

ของขวัญปีใหม่ไทย ต้องไม่ใช่บ่อนกาสิโน

ของขวัญปีใหม่ไทย ต้องไม่ใช่บ่อนกาสิโน

13 เม.ย. 2568

แผ่นดินไหว ลางร้ายของรัฐบาลหรือ

แผ่นดินไหว ลางร้ายของรัฐบาลหรือ

7 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved