วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
เพราะกองทัพเรือพระเจ้าตาก วันนี้จึงยังมีชาติไทย

ดูทั้งหมด

  •  

ในช่วงก่อนปีพุทธศักราช ๒๓๑๐ เล็กน้อย พระเจ้ามังระแห่งอาณาจักรหงสาวดี ได้สั่งให้ยกทัพใหญ่ทั้งจากทางเหนือซึ่งนำมาโดยเนเมียวสีหบดี โดยไปตีกบฏล้านช้างและรวบรวมไพร่พลเพิ่มเติม จนมีกำลังพลมากกว่า ๔๐,๐๐๐ คน ผ่านลงมาทางจังหวัดตาก กำแพงเพชร และอีกทัพหนึ่งมาจากทางใต้ โดยเข้ามาตีเมืองทวายก่อน นำทัพมาโดยมังมหานรธา มีกำลังพล ๓๐,๐๐๐ คน เพื่อจะเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา เพื่อให้ตกเป็นเมืองขึ้นให้จงได้

ในช่วงเวลาดังกล่าว กษัตริย์ที่ปกครองกรุงศรีอยุธยาคือสมเด็จพระเจ้าเอกทัศ ซึ่งเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ ๓๓ ของอาณาจักรอยุธยา ถึงแม้จะได้พยายามต่อสู้ แต่จากการที่กรุงศรีอยุธยาไม่ได้ผ่านการศึกสงครามมาเป็นเวลานาน ความเข้มแข็งของกองทัพจึงลดน้อยลงมาก และในที่สุดกองทัพของอาณาจักรหงสาวดี ก็ตีกรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ และเผาทำลายกรุงศรีอยุธยาจนเกือบจะสิ้นซาก


สามเดือนก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะแตก พระยาวชิรปราการหรือพระเจ้าตากในขณะนั้น ได้รับคำสั่งให้ตั้งทัพรับกองทัพพม่าอยู่ที่ค่ายโพธิ์สามต้น ได้พิจารณาเห็นแล้วว่าในที่สุดกองทัพไทยจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน จึงได้ตัดสินใจยกพล ประมาณ 500 คน ซึ่งมีทั้งทหารไทยตีฝ่าทัพพม่า โดยตั้งเป้าหมายว่าจะหนีออกไปเพื่อรวบรวมไพร่พลให้ได้พอสมควร แล้วจะกลับมากู้กรุงศรีอยุธยาคืน

ทัพของพระเจ้าตากได้หนีออกไปทางด่านเมืองนครนายก แล้ววกลงมาทางฉะเชิงเทรา เมื่อมาถึงบริเวณปากน้ำโจ้โล้ ได้พบกับกองทัพพม่าและเกิดการสู้รบขนานใหญ่ซึ่งถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจน โดยพระเจ้าตากสามารถเอาชนะทัพพม่าได้ หลังจากนั้นจึงได้เคลื่อนพลรวมทั้งรวบรวมไพร่พลจากหัวเมืองชายฝั่งตะวันออกตั้งแต่ชลบุรีจนไปถึงระยอง และได้พักทัพอยู่ที่ระยองเป็นระยะเวลาหนึ่ง

ในที่สุดพระเจ้าตากได้ตัดสินใจที่จะเข้าตีเมืองจันทบูรหรือจันทบุรีในปัจจุบันนี้ เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ ซึ่งหากเอาชนะได้ก็เชื่อว่าจะสามารถรวบรวมไพร่พลและสรรพาวุธต่างๆ เป็นจำนวนมากได้ เพื่อจะยกทัพกลับมาตีเอากรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่า

หลังจากอาหารมื้อเย็น พระเจ้าตากได้สั่งให้ทหารทุบหม้อข้าวหม้อแกงทิ้งทั้งหมด และบอกว่า  ซึ่งเสมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า เราจะต้องเข้าตีเมืองจันท์ และต้องเอาชนะให้ได้ หากไม่สามารถเอาชนะ อาหารเย็นมื้อนี้ก็คืออาหารมื้อสุดท้ายของพวกเรา

พระเจ้าตากได้ยกทัพเข้าตีเมืองจันท์และเอาชนะได้เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งตรงกับเดือน ๗ แรม ๓ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๒๙ ปีกุน นพศก เวลา ๓ ยามเศษ ตรงกับวันที่ ๑๕ มิถุนายน ปีพุทธศักราช ๒๓๑๐ เวลาประมาณ ๐๓.๐๐ น. ซึ่งเป็นเวลาหลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว ๒ เดือน โดยพระเจ้าตากได้ขี่ช้างพังคีรีบัญชร นำทัพเข้าพังประตูเมืองจันทบูร เข้าต่อสู้กับทัพของเจ้าเมืองจันทบูรอย่างเข้มแข็ง เอาชนะได้ในที่สุด โดยเจ้าเมืองจันทบูรและครอบครัวได้ลงเรือหนีออกไปยังเมืองบันทายมาศ

พระเจ้าตากได้ตั้งทัพอยู่ที่เมืองจันทบูร และได้ออกรวบรวมไพร่พล อาวุธยุทโธปกรณ์ ได้เคลื่อนทัพไปยังเมืองตราดซึ่งมีเรือสำเภาจีนที่มาค้าขายมาจอดทอดทุ่นอยู่หลายลำ ได้เจรจากับพ่อค้าจีนเพื่อขอเรือเหล่านั้น เมื่อไม่สำเร็จจึงได้เข้าต่อสู้กันและในที่สุดก็สามารถเอาชนะ และยึดเรือสำเภาจีนไว้ได้ทั้งหมด ตลอดจนได้สร้างอู่ต่อเรือที่บริเวณบ้านเสด็จ จนได้เรือที่จะใช้นำกำลังพลจากเมืองจันทบูร ซึ่งขณะนั้นรวบรวมไว้ได้ประมาณ ๕,๐๐๐ คน ได้ฝึกการรบเป็นอย่างดี เพื่อจะกลับมาต่อสู้กับกองทัพพม่าที่ยังยึดกรุงศรีอยุธยาอยู่

จนกระทั่งถึงเดือนตุลาคมปีพุทธศักราช ๒๓๑๐ ซึ่งสิ้นฤดูมรสุมแล้ว เหมาะกับการที่จะยกทัพเรือ  พระเจ้าตากจึงยกทัพกลับเข้ามา โดยผ่านเข้าทางปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าตีเมืองธนบุรีที่ข้าศึกยังยึดเอาไว้ หลังจากได้ชัยชนะก็เคลื่อนทัพต่อขึ้นไปที่กรุงศรีอยุธยา

กองทัพเรือของพระเจ้าตาก ได้ยกขึ้นไปจนถึงค่ายโพธิ์สามต้น ซึ่งพม่าได้ให้แม่ทัพชื่อสุกี้ตั้งค่ายรักษากรุงศรีอยุธยาไว้ จึงได้เข้าต่อสู้กับทัพพม่า และเอาชนะได้โดยไม่ยาก  โดยแม่ทัพพม่าเสียชีวิตในที่รบ ทำให้พระองค์สามารถกอบกู้กรุงศรีอยุธยาและอิสรภาพของชาติไทยกลับคืนมาได้ เมื่อวันศุกร์ เดือน ๑๒ ขึ้น ๑๕ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๒๙ ปีกุน นพศกเวลาบ่ายโมงเศษ ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ ๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๓๑๐ เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. โดยใช้เวลาเพียง ๗ เดือน ในการกู้ชาติหรือกรุงศรีอยุธยากลับคืนมาเป็นของไทย

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงเป็นนักรบที่มีความกล้าหาญและเชี่ยวชาญการรบ ทางบกทั้งบนหลังม้า และยังเป็นนักรบที่มีความกล้าหาญและเชี่ยวชาญในการรบทางเรือเป็นอย่างยิ่ง ในช่วงที่พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ปกครองแผ่นดินอยู่นั้น ได้กระทำการรบทั้งหมดไม่น้อยกว่า ๓๐ ครั้ง โดยเป็นการรบทางเรือถึง ๑๑ ครั้ง

ในปีพุทธศักราช ๒๓๑๔ พระองค์ได้ยกกองทัพเรือ ซึ่งมีเรือรบจำนวนถึง ๒๐๐ ลำ และเรือเดินทะเลอีก ๑๐๐ ลำ มีกำลังพลมากกว่า ๑๕,๐๐๐ คน เพื่อไปตีเมืองกำปงโสม เมืองฮาเตียนหรือเมืองบันทายมาศ และได้รับชัยชนะกลับมา

กองทัพเรือไทยได้ให้การยกย่องและสดุดีพระองค์เป็นอย่างมากเสมอมา ดังจะเห็นได้ว่า ในฐานทัพเรือหรือจุดที่ตั้งของกองทัพเรือต่างๆ จะมีพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ประดิษฐานอยู่  นอกจากนี้ในประเทศไทยของเรานั้น มีอนุสาวรีย์ที่เป็นรูปหล่อของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชประดิษฐานอยู่ในที่ต่างๆ ทั่วประเทศ มากกว่าอนุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์พระองค์ใดๆ

เหตุการณ์ที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์เป็นเครื่องยืนยันว่า กองทัพเรือหรือราชนาวีไทยนั้นมีความเข้มแข็ง และพร้อมที่จะปกปักรักษาชาติรักษาแผ่นดินมาโดยตลอด อาทิ เหตุการณ์ร.ศ. ๑๑๒ซึ่งกองทัพเรือไทยต้องต่อสู้กับชาติมหาอำนาจฝรั่งเศสที่พยายามรุกรานประเทศไทย โดยหวังจะเอาประเทศไทยเป็นเมืองขึ้นให้ได้ เหมือนกับที่ได้ยึดเอาประเทศในแถบอินโดจีนไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม กัมพูชา หรือลาวเป็นเมืองขึ้นได้ทั้งหมด

ทหารเรือไทยไม่เคยยอมแพ้ใครง่ายๆ ถึงแม้ว่า จะมีกำลังรบที่มีแสนยานุภาพน้อยกว่า แต่ก็ยังสามารถจมเรือรบของฝรั่งเศสในการสู้รบที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา ถึงแม้ในที่สุดต้องยินยอมชดใช้ความเสียหายให้แก่ฝรั่งเศส ที่อ้างเอาสาเหตุของทหารฝรั่งเศสที่เสียชีวิต มาเรียกร้องให้ชาติไทยเราต้องชดใช้เงินเป็นจำนวนมาก เพื่อแลกกับอิสรภาพของชาติ  ซึ่งในที่สุดในหลวงรัชกาลที่ ๕จำเป็นต้องยินยอมนำเงินส่วนพระองค์ที่เรียกว่าเงินพระคลังข้างที่ ที่พระบาทสมเด็จนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ได้ทำมาค้าขาย และเก็บใส่ไว้ในถุงสีแดงและเรียกเงินส่วนนี้ว่าเงินถุงแดงเป็นจำนวนมหาศาลออกมาเพื่อชดใช้ แลกเปลี่ยนกับการที่ไทยจะต้องเสียอิสรภาพอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งชาวไทยทั้งหลายรวมทั้งคนรุ่นใหม่ที่คิดว่ามีความคิดก้าวไกลควรจะต้องตระหนักถึงบุญคุณอันยิ่งใหญ่ของพระมหากษัตริย์ไทยไว้ด้วย อย่าได้หลงใหลไปกับการเอาตัวบทกฎหมายของประเทศฝรั่งเศส ที่คนบางคนได้มีโอกาสไปศึกษามา มาเป็นรูปแบบในการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศเป็นอันขาด

การเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพเรือจึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น และรัฐบาลชุดปัจจุบันจะต้องตระหนักในเรื่องนี้ หากเขี้ยวเล็บทางทะเลของชาติไม่เข้มแข็ง ไม่แสดงให้ประเทศรอบบ้านเห็นถึงแสนยานุภาพนี้ การถูกรุกรานก็เป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ การขอซื้อเพิ่มเติมอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยของกองทัพเรือ  อาทิ เรือดำน้ำซึ่งปัจจุบันก็น่าจะคลี่คลายไปได้จากการที่นายทหารเรือระดับสูง ที่เป็นผู้แทนของกองทัพเรือไทย เดินทางไปที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อทำข้อตกลง ในการเปลี่ยนเครื่องยนต์ของเรือดำน้ำจากเครื่องยนต์ของเยอรมัน ไปใช้เครื่องยนต์อื่นซึ่งอาจจะเป็นเครื่องยนต์ของจีนก็ได้ เพื่อให้การต่อเรือดำน้ำที่มีสัญญาและงบประมาณอยู่แล้วได้ดำเนินการต่อไป

ควรจะต้องยอมรับความจริงว่า กองเรือดำน้ำของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น เป็นกองเรือดำน้ำที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใคร และเรือดำน้ำทั้งหลายนั้นก็ผลิตขึ้นเองในประเทศจีนทั้งสิ้น และมีศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่ไม่น้อยกว่ากองเรือดำน้ำของชาติอื่นเป็นแน่

คณะรัฐมนตรีต้องตระหนักในเรื่องนี้ อย่านำการเมืองที่ต้องการสร้างสัมพันธ์ กับพรรคฝ่ายค้านบางพรรค ที่ขณะนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว มาเป็นเครื่องตัดสินในการที่จะยกเลิกการสั่งต่อเรือดำน้ำ ซึ่งอาจจะเกิดปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ด้วย

รัฐบาลใดก็ตามที่เข้ามาบริหารประเทศอย่าได้คิดว่าจะสามารถบริหารประเทศ ที่ขณะนี้มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้บ้านเมืองเกิดความเจริญก้าวหน้า โดยไม่พึ่งพากองทัพของชาติไม่ว่าจะเป็นกองทัพใดๆ ได้เป็นอันขาด

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:42 น. ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
13:22 น. ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
13:14 น. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
13:08 น. 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
12:24 น. ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ดุ๊ก ภาณุเดช'วอนหยุดบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่ สุดทนคนแห่ถ่ายรูป-เดินชิลเหมือนอยู่คาเฟ่
ดูทั้งหมด
จีนยกระดับปราบ Cyber Scam ฉ้อโกงออนไลน์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว
ฮุนเซน-ทักษิณ (แพทองธาร) มิตรหรือศัตรู
บุคคลแนวหน้า วันที่ 12 ก.ค. 2568
ทักษิณยังคงคุยโวเหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน

‘ทนายวันชัย’มองเรื่อง‘สีกากอล์ฟ’ เปรียบฆาตกามต่อเนื่อง กระชากหน้ากาก‘คนห่มเหลือง’

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68

สุดทน!‘สุทิน’จี้ผู้รักษากฎหมายต้องขยับ ปล่อยให้‘สทร.’ย่ำยีประเทศไม่ได้อีกแล้ว

‘นักเขียนซีไรต์’ฟาดนักการเมืองขี้ขลาด มุ่งแก้ ม.112 นิรโทษกรรมตัวเอง

  • Breaking News
  • ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
  • ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้ ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
  • รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
  • \'ตะไลชนโคม\' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน\'งานบุญวันเข้าพรรษา\' 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
  • ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

7 ก.ค. 2568

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

30 มิ.ย. 2568

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

23 มิ.ย. 2568

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

16 มิ.ย. 2568

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

9 มิ.ย. 2568

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

2 มิ.ย. 2568

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

26 พ.ค. 2568

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

19 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved