อริสโตเติล ปราชญ์ชาวกรีกกล่าววาทะที่เท่มากว่า “มนุษย์เป็นสัตว์ที่มีเหตุผล” แต่ความจริงแล้วมนุษย์เป็นสัตว์ที่มีเหตุผลหรือไม่? หรือมีแต่ข้ออ้างแล้วเรียกมันว่าเหตุผล?
พิจารณาเรื่องการเมืองแล้วกัน
ประเทศไทยใช้ “ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” เป็นระบอบการปกครองประเทศ รวมทั้งรัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นกฎที่ทุกคนในสังคมจะต้องปฏิบัติตาม
เพราะคนส่วนใหญ่มีมติร่วมกัน
“มติร่วมกัน” นี้เป็นผลจากการต่อสู้กันของคนอย่างน้อย 2 ฝ่าย ที่มีทั้งรุนแรงและไม่รุนแรง รวมทั้งการแสดงความเห็นที่แตกต่างกันขัดแย้งกันด้วย จนต้องพยายามหาข้อยุติจนเกิดเป็นมติร่วมกันดังกล่าว
ถือว่ามันเป็น “เหตุผล” ของคนในประเทศที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
แต่ตัณหาในอำนาจของมนุษย์นั้นไม่เคยพอ เช่นเดียวกับมหาสมุทรไม่เคยอิ่มน้ำ สังคมจึงมีคนที่พยายามจะเปลี่ยนแปลง หรือปฏิวัติระบอบการปกครองอยู่เสมอมา เช่นการยึดอำนาจของทหารบางกลุ่ม ความพยายามจะปฏิวัติโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย กระทั่งการจะเปลี่ยนแปลงโดยใช้สภาเป็นสนามรบ ดังที่เคยมีพรรคสังคมนิยมอยู่หลายพรรคในชื่อที่ต่างกัน
ด้วยเหตุผลสารพัด เช่น ให้เท่าทันกับนานาอารยประเทศ (ไม่ทราบว่าประเทศไหนบ้าง) ให้เหมาะแก่ยุคสมัยใหม่ที่ “โลกไปถึงไหนแล้ว?” เพื่อสังคมที่ดีกว่า เพื่อสร้าง
สังคมใหม่ให้ทุกคนมีความเท่าเทียม มีความเป็นธรรม ทำลายการกดขี่ขูดรีดของพวกนายทุนขุนศึกศักดินา
ปัจจุบันก็มีพรรคการเมืองที่อ้างเหตุผลดังกล่าวอยู่ และโดนยุบไปแล้ว!
เหตุผลดังกล่าวนี้ไม่ใช่จะปรับปรุง-แก้ไขกฎหมายต่างๆ ให้เหมาะสมกับยุคสมัย แต่มันมีเป้าหมายอยู่ที่การเปลี่ยนระบอบการปกครองจากปัจจุบันไปเป็น “ระบอบสาธารณรัฐ” หรือ “สังคมนิยม” ซึ่งทั้ง 2 ระบอบนี้ล้วนไม่ต้องการ “พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” แต่ต้องการเลือกตั้ง “ประธานาธิบดีเป็นประมุข” ซึ่งคนที่ต้องการ 2 ระบอบนี้ให้เหตุผลว่ามันทันสมัยและทันโลก!
คำถามคือ เราจะถือว่าเหตุผลต่างๆ ดังกล่าวมา เป็นเหตุผลจริงหรือไม่?
ถ้าจริง ก็แสดงว่าประเทศไทยมีหลายเหตุผล เมื่อจัดเป็นกลุ่มในฐานะตัวแทนของ “ระบอบ” เแล้วก็มี 2 เหตุผลที่จะต้องต่อสู้ช่วงชิงอำนาจกัน เพื่อสถาปนาระบอบใดระบอบหนึ่งปกครองประเทศ
ระบอบปัจจุบันก็ต้องพยายามปกป้องต่อสู้เพื่อรักษาระบอบของตนไว้ อีกระบอบหนึ่งก็พยายามต่อสู้ช่วงชิงด้วยวิธีสารพัด แม้กระทั่งการแก้หรือร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และทำผิดกฎหมาย เมื่อทำผิดก็กล่าวโทษระบอบในปัจจุบัน (พระมหากษัตริย์ รัฐธรรมนูญ รวมทั้งกฎหมายต่างๆ และศาล) ว่าเป็นต้นเหตุ
พวกเขาไม่ผิด เพราะเขามีเหตุผลดังกล่าวมาแล้ว พระมหากษัตริย์ รัฐธรรมนูญ กฎหมายต่างๆ และศาลต่างหาก ผิด!
เมื่อมนุษย์ไม่มีทางออกร่วมกัน ก็ย่อมจะเข้าเข่นฆ่าทำลายล้างกัน อย่างที่มันเกิดขึ้นแทบทุกหย่อมหญ้าทั่วโลกในทุกวันนี้
วันใดเมื่อพวกเขาชนะ ได้ครองอำนาจรัฐ พวกเขาก็ย่อมจะสร้างรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆ ไว้เป็นเครื่องมือของระบอบและของพวกเขาเอง เพื่อให้สังคมใช้ร่วมกัน สิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นนั้นก็จะเป็น “เหตุผลที่ถูกต้อง” ส่วนระบอบในปัจจุบันจะกลายเป็นระบอบที่ไม่มีเหตุผลและผิด
แต่ถ้าพวกเขาแพ้ ผลก็จะกลับกัน
จึงเห็นได้ว่าเอาเข้าจริง เราในฐานะมนุษย์ไม่ได้มีเหตุผลทุกคนและทุกเรื่อง ทุกกาลเทศะเสมอไป ไม่เว้นแม้กระทั่งในครอบครัวหรือชีวิตเฉพาะของตัวเอง
เราอยากได้ อยากมี อยากเป็นอะไร เราก็จะหาวิธีให้ได้มันมาครอบครอง เพราะ “ของมันต้องมี”!
สุดท้ายแล้วมนุษย์ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าเครื่องมือหรือข้าทาสของกิเลสตัณหาเท่านั้น มันลวงหลอกเราว่าทุกสิ่งที่เราคิดพูด ทำนั้นคือเหตุผลของเรา หรือของสังคม ของประเทศชาติ กระทั่งของความเท่าเทียมเป็นธรรม แล้วก็สั่งเราให้ทำลายโลก ทำลายชีวิตอื่นๆ แม้กระทั่งตัวเองก็ได้
เพื่อสมอยาก เพื่อชัยชนะ เพื่ออำนาจ
ทั้งที่ทั้งหมดล้วนเป็นข้ออ้างของกิเลสตัณหาเท่านั้น
วิมล ไทรนิ่มนวล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี