วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เขียนเพื่อคิด
เขียนเพื่อคิด

เขียนเพื่อคิด

กษิต ภิรมย์
วันพุธ ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2565, 02.00 น.
น้ำมีสิทธิที่จะไหลและการไม่ต้องอยู่กับสภาวะน้ำท่วมซ้ำซาก

ดูทั้งหมด

  •  

เป็นที่รู้กันมานานแล้วว่า ทุกๆ ประมาณ 10 ปี กรุงเทพฯ และปริมณฑลจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ เนื่องจากปริมาณฝนตกหนักช่วงฤดูฝน สมทบกับน้ำหลากจากทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งเมื่อไม่สามารถเคลื่อนต่อไปสู่ทะเลอ่าวไทยได้เร็วเพียงพอ ชาวกรุงเทพฯก็จะต้องเผชิญกับแรงผลักมวลน้ำกลับ มาจากน้ำทะเลที่สูงขึ้น

นอกจากนั้น ระหว่างฤดูน้ำท่วมทุกๆ ครั้งในแต่ละปีกรุงเทพมหานครก็จะประสบกับสภาวะน้ำเอ่อ น้ำท่วมท้องถนนอย่างฉับพลัน ซึ่งวิธีการแก้ไขก็ไม่พ้น การเพียรพยายามที่จะขับให้น้ำไหลออกสู่ทะเลให้มากและเร็วที่สุด ก่อนที่จะเจอกับกำแพงน้ำทะเลที่สูงขึ้น โดยจะมีการเร่งสูบน้ำเข้าสู่แม่น้ำและคลองคู และบึง ทั้งธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นสำคัญ และก็ดำเนินการแบบนี้กันซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกฤดูฝน พร้อมกับการฝากความหวังไว้กับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า จะเป็นผู้สร้างปาฏิหาริย์แก้ประเด็นปัญหาทั้งเฉพาะหน้า และในอนาคตได้


บัดนี้ก็น่าจะถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยเรา จะได้มีการร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลกลาง และผู้บริหารปกครองท้องถิ่น
เพื่อร่วมพินิจพิจารณาประเด็นปัญหาในภาพรวม และจัดทำแผนแม่บทอย่างเป็นระบบเพื่อรับมือกับสภาวะน้ำมากฉับพลันและการมีระบบบริหารจัดการที่จะอยู่ได้กับปัญหาฝนตกและน้ำท่วมอย่างถาวร

ในทางภูมิศาสตร์ กรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างการลงมาของน้ำเหนือ และ
อ่าวไทย (ที่เป็นที่รองรับการไหลออกของน้ำเหนือดังกล่าว) ในหนังสือเรียนประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ ก็มีการกล่าวถึงการใช้ข้อได้เปรียบในทางภูมิศาสตร์ ดูได้จากในหนังสือเรียน
ประวัติศาสตร์ชาติไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ ก็มีการกล่าวถึงการใช้สภาวะน้ำหลาก
น้ำท่วม มาเป็นยุทธวิธี หรือเครื่องมือทางสงคราม ในการบีบบังคับและขับไล่ให้กองทัพพม่าให้ถอนตัวออกไป เพราะด้วยปริมาณน้ำท่วมมหาศาลนี้ กองทัพพม่าจะไม่สามารถลอยคออยู่นอกกำแพงเมืองเพื่อทำการสู้รบต่อไปได้

อีกทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไทยก็อยู่กับลำน้ำ การดำรงชีพและการสัญจรไป-มา และอยู่กับฤดูน้ำมากได้จึงมีการสร้างบ้านยกใต้ถุน ที่มีพื้นเรือนอาศัยสูงเหนือน้ำและยังมีการใช้เรือพายเพื่อการติดต่อค้าขายและกิจการประจำวันอีกด้วย

แต่เมื่อถึงยุคของการพัฒนาและด้วยอิทธิพลของชาวตะวันตก ประเทศไทยก็เกิดการขยายตัวของตัวเมือง มีการก่อสร้างถนนหนทาง ทางรถไฟ โรงทาน อาคารพาณิชย์ และบ้านเรือนอย่างมากมายกว้างขวาง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ได้นำไปสู่การถมคูคลอง การลดความกว้างของคูคลอง ไปจนถึงการกีดขวาง ปิดกั้น การเคลื่อนไหวของน้ำธรรมชาติ

ทั้งหมดดังกล่าวนี้อาจจัดได้ว่า มนุษย์เราชาวไทยได้ไปละเมิดสิทธิการไหลบ่าของมวลน้ำหลาก ถมทำลายคลองคูและในขณะเดียวกัน เราก็ได้ลืมเลือนสถาปัตยกรรมของบ้านเรือนของบรรพบุรุษเรา และปรัชญาชีวิตว่า ต้องอยู่กับน้ำหลากกันอย่างไรให้ได้

จากนี้ไป เราก็ต้องหันกลับมาทบทวนว่า สิ่งก่อสร้างใดๆบ้างที่ขวางการไหลของน้ำธรรมชาติ และสิ่งก่อสร้างใดที่ไปทำลายแหล่งเก็บน้ำธรรมชาติ และถนนหนทางกี่สาย ที่ได้ไปรังแกและละเมิดสิทธิของคลองคูข้างทาง แล้วเราจะมีความกล้าหาญชาญชัยในความคิดที่จะกลับไปเปิดทาง คืนสิทธิให้กับน้ำธรรมชาติ และเส้นทางไหลเวียนของน้ำตามคลองคูได้หรือไม่ และในขณะเดียวกันเราจะค้นหาและพัฒนาแก้มลิงให้มากที่สุดได้เท่าไร เพื่อให้เป็นที่พักน้ำเคียงข้างกับคูคลองและแม่น้ำต่างๆ ก่อนที่จะไหลออกสู่ทะเลอ่าวไทยของเรา

ทั้งนี้ ยังต้องมีการทบทวนวิธีการเฉพาะหน้าของการเทน้ำจากเขตหนึ่ง ไปยังอีกเขตหนึ่งของกรุงเทพมหานครเช่น การมุ่งรักษากรุงเทพฯชั้นในให้แห้ง ในขณะที่กรุงเทพฯชั้นนอกต้องทนกับน้ำท่วมสูง ที่ถูกระบายออกมา ซึ่งเท่ากับว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ระหว่างประชากรกรุงเทพมหานครด้วยกัน ซึ่งหากรัฐยืนยันว่ามีความจำเป็นที่จะกระทำการแบบนี้ต่อไป ก็จะต้องมีการชดเชยบรรดาผู้อยู่อาศัยในเขตที่จมน้ำท่วมแทนเขตอื่นๆ จนกว่าจะสามารถจัดการให้น้ำที่มากไปกองอยู่ที่บึง คู คลอง ในน้ำ ลำธาร และแก้มลิง ให้ไปได้มากที่สุด หรือเพื่อรอเวลาที่จะระบายออกสู่ทะเล

ในทางคู่ขนาน ควรได้ดำเนินการเสริมด้วยการขุดคลองที่สามารถจะกระจาย เชื่อมโยง ไปยังจังหวัดต่างๆ ให้มากที่สุด และทั้งหมดนี้คงไม่เป็นการเสียหลายที่เราจะเรียนรู้จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งแผ่นดินทั้งประเทศนั้นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าทะเล แต่เนื่องจากเขามีระบบถ่ายเทน้ำจากคลองหนึ่งไปยังอีกคลองหนึ่ง แล้วเทออกสู่ทะเลได้โดยไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมขังกับชาวเมือง

หรือนัยหนึ่งเราจะมีระบบคลองดังเช่นคลองรังสิตที่ขึ้นชื่อของเราไปได้ทั่วประเทศ หรืออย่างน้อยเอาแค่ในภาคกลางก่อนได้หรือไม่?

เรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำหลากแบบยั่งยืนนี้ คงไม่เกินความสามารถของคนไทยเรา หากคิดจะเอาจริงเอาจังกัน

ในขณะเดียวกันเราก็ต้องกลับไปคิดทบทวนที่จะให้มีระบบการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนที่จะอยู่กับน้ำได้ โดยการยกพื้น หรือการเปิดชั้นพื้นดินให้อยู่อาศัยได้ แต่ก็รับมือกับสภาวะน้ำท่วมชั่วคราวได้ หรือจะคิดอ่านกลับไปมีบ้านแบบเรือนแพ หรือจะมีการค้นคว้าวิจัยว่าด้วยอาคารที่จะลอยน้ำได้ ซึ่งก็มีการค้นคว้าวิจัยทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม เช่นที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งก็เป็นข้อคิดว่าด้วยมาตรการหาทางออกกับสภาวะน้ำท่วม น้ำขัง และการดำรงชีวิตแบบจำเจและซ้ำซาก กับสภาวะน้ำท่วมถนนและหนทาง และพื้นที่ และวิธีการแก้ไขเฉพาะหน้าโดยการสูบน้ำจากแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่ง และการออกสำรวจและสั่งการโดยผู้ว่าฯกทม. ให้ฮือฮากันเล่น โดยไม่คิดอ่านที่จะดูที่ต้นเหตุ และยังเก่งก็แค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้น

 

กษิต ภิรมย์

kasitfb@gmail.com

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:02 น. 'ราชภัฏบุรีรัมย์'แปรอักษร น้อมรำลึก'สมเด็จพระพันปีหลวง'
21:35 น. พิษน้ำท่วม! 'ผักชี'ราคาพุ่ง 280 บาทต่อกิโล ผักต่างๆ พาเหรดขึ้นตาม
21:07 น. รัฐบาลไทยย้ำข้อเท็จจริงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เดินหน้าชี้แจงนานาชาติต่อเนื่อง
20:44 น. เจ้าพระยาล้น ‘อ่างทอง-สิงห์บุรี-อยุธยา’อ่วม ‘เขื่อนภูมิพล’ยังไม่ระบายเพิ่ม
20:34 น. 'ธัญญ่า อาร์สยาม'เปิดอาการเบื้องต้น คอขยับไม่ได้ ตรวจพบ'หมอนรองกระดูกฉีกขาด'
ดูทั้งหมด
สาวชุดหวือโชว์รอยสัก 'ของลับโผล่' ชี้แจงแล้ว 'ไม่ได้ตั้งใจ-ที่แปะหลุด-ดื่มหนัก'
'กรณ์ ณรงค์เดช'หลั่งน้ำตา! กอดคุณพ่อเกษมดีใจชนะคดี
บุกจับ2วัยรุ่นสร้างตัว เปิดเหมืองบิทคอยน์ซุก'สวนมะพร้าวบ้านแพ้ว' โกงไฟหลวงมหาศาล
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงทำริบบิ้นสีดำถวายความอาลัย
เปิดคำสารภาพ‘เขมรเถื่อน’ กลับบ้านตามคำท่านผู้นำ อดอยาก-ไร้เงิน เสี่ยงแอบเข้าไทย
ดูทั้งหมด
ระวังการส่งออกเทียม
บุคคลแนวหน้า : 15 พฤศจิกายน 2568
ตำรวจกับโจร โจรกับตำรวจ
สงครามกับสันติ : ทรัมป์จะไปทางไหน?
ลิ้นสองแฉก
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

พิษน้ำท่วม! 'ผักชี'ราคาพุ่ง 280 บาทต่อกิโล ผักต่างๆ พาเหรดขึ้นตาม

'ธัญญ่า อาร์สยาม'เปิดอาการเบื้องต้น คอขยับไม่ได้ ตรวจพบ'หมอนรองกระดูกฉีกขาด'

EOD ตชด.22 ร่วมทหาร เร่งตรวจสอบ-ทำลายวัตถุระเบิดตกค้างกลางทุ่งนา พื้นที่หมู่บ้านชายแดน

ทบ.แฉอีก! 'ช่องอานม้า'พบอีก 2 ทุ่นใหม่ รุกล้ำ-ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ส่อเจตนาชัดเจน!

GC จับมือ กระทรวง อว. ต่อยอด โครงการความร่วมมือ “จากครัว...สู่เครื่อง” สู่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สร้างเครือข่าย คนรุ่นใหม่ ผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการบินคาร์บอนต่ำอาเซียน

ปปง.ยึด-อายัดทรัพย์ 4,730 ล้าน พบมีคดี'อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง-เว็บพนัน-แก๊งคอลฯ'

  • Breaking News
  • \'ราชภัฏบุรีรัมย์\'แปรอักษร น้อมรำลึก\'สมเด็จพระพันปีหลวง\' 'ราชภัฏบุรีรัมย์'แปรอักษร น้อมรำลึก'สมเด็จพระพันปีหลวง'
  • พิษน้ำท่วม! \'ผักชี\'ราคาพุ่ง 280 บาทต่อกิโล ผักต่างๆ พาเหรดขึ้นตาม พิษน้ำท่วม! 'ผักชี'ราคาพุ่ง 280 บาทต่อกิโล ผักต่างๆ พาเหรดขึ้นตาม
  • รัฐบาลไทยย้ำข้อเท็จจริงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เดินหน้าชี้แจงนานาชาติต่อเนื่อง รัฐบาลไทยย้ำข้อเท็จจริงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เดินหน้าชี้แจงนานาชาติต่อเนื่อง
  • เจ้าพระยาล้น ‘อ่างทอง-สิงห์บุรี-อยุธยา’อ่วม ‘เขื่อนภูมิพล’ยังไม่ระบายเพิ่ม เจ้าพระยาล้น ‘อ่างทอง-สิงห์บุรี-อยุธยา’อ่วม ‘เขื่อนภูมิพล’ยังไม่ระบายเพิ่ม
  • \'ธัญญ่า อาร์สยาม\'เปิดอาการเบื้องต้น คอขยับไม่ได้ ตรวจพบ\'หมอนรองกระดูกฉีกขาด\' 'ธัญญ่า อาร์สยาม'เปิดอาการเบื้องต้น คอขยับไม่ได้ ตรวจพบ'หมอนรองกระดูกฉีกขาด'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

สังคมนิยมปักธงที่สหรัฐอเมริกาแล้ว

สังคมนิยมปักธงที่สหรัฐอเมริกาแล้ว

13 พ.ย. 2568

สนามการเมืองไทยจะคึกคักอย่างมีสาระเนื้อหาหรือไม่?

สนามการเมืองไทยจะคึกคักอย่างมีสาระเนื้อหาหรือไม่?

6 พ.ย. 2568

ญี่ปุ่นเข้มข้นในทิศทางเรื่องความมั่นคง

ญี่ปุ่นเข้มข้นในทิศทางเรื่องความมั่นคง

30 ต.ค. 2568

ทีมผู้คิด ผู้ทำ ของนายกรัฐมนตรี

ทีมผู้คิด ผู้ทำ ของนายกรัฐมนตรี

23 ต.ค. 2568

ทรัมป์พยายามเล่นเรื่องสันติภาพ แล้วปูติน กับสี จิ้นผิง จะว่าอย่างไร?

ทรัมป์พยายามเล่นเรื่องสันติภาพ แล้วปูติน กับสี จิ้นผิง จะว่าอย่างไร?

16 ต.ค. 2568

การปฏิรูปองค์การสหประชาชาติ รอสหรัฐอเมริกานำพา

การปฏิรูปองค์การสหประชาชาติ รอสหรัฐอเมริกานำพา

9 ต.ค. 2568

ทางออกของปัญหาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา

ทางออกของปัญหาความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา

2 ต.ค. 2568

การเปลี่ยนแปลงที่โลกจะดูดีและน่าอยู่ยิ่งขึ้น

การเปลี่ยนแปลงที่โลกจะดูดีและน่าอยู่ยิ่งขึ้น

25 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved